หนูมีเพศสัมพันธ์วันที่ 27 กันยายนใส่ถุงยางอนามัย เช็คแล้วไม่ขาดไม่รั่ว และกินยาคุมฉุกเฉินด้วยค่ะ ประจำเดือนมาวันที่ 8-15 ตุลาคม แล้ววันที่23-24 มีเลือดออกกระปริบกระปอย คือเลือดอะไรหรอคะ

สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์ที่มีการใช้ถุงยางอนามัยแล้วจะมีความปลอดภัยจากการตั้งครรภ์สูงมากแล้วโดยไม่จำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินครับ เนื่องจากถ้าหากใช้ถุงยางอนามัยได้อย่างถูกต้องโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ก็มีเพียง 2% เท่านั้น และการที่ได้มีประจำเดือนมาครั้งหนึ่งแล้วหลังมีเพศสัมพันธ์ก็เป็นการบ่งบอกว่าไม่มีการตั้งครรภ์ครับ

ส่วนเลือดที่ออกมากระปริดกระปรอยหลังมีประจำเดือนนั้นก็อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- การมีระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- การอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางอย่าง
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดปกติ
- เนื้องอกบางอย่างที่ซ่อนอยู่ภายใน
เป็นต้น

ในกรณีนี้ถ้าหากเลือดที่อออกมานั้นออกมาในปริมาณมาก หยุดยาก ออกมาติดต่อกันหลายวัน หรือมีอาการเลือดออกผิดปกติเกิดขึ้นบ่อยๆ หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินหาสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ

และถ้าหากยังมีความกังวลเรื่องการตั้งครรภ์อยู่ ก็สามารถลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูได้ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

กินยาคุมฉุกเฉินไปวันที่เท่าไหร่ครับ

เพราะ หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ ประมาณ ภายใน1 สัปดาห์หลังกินยา ซึ่งไม่ใช่เลือดประจำเดือน (อาจจะมากระปริบกระปรอย หรือ ไม่มีก็ได้ครับ)
ส่วนประจำเดือนจริงๆจะมาไกล้เคียงกับรอบประจำเดือนปกติครับ

ดังนั้นก็เป็นไปได้ที่23-24จะเป็นประจำเดือนก็ได้ครับ เเล้ววันที่8-15 เป็นผลจากยาคุมฉุกเฉิน

อย่างไรก็ตามเป็นอย่างอื่นก็ได้ครับ
การที่ประจำเดือนมามากหรือมานาน มาหลายรอบ มากระปริบกระปรอย เเละมาไม่ตรง เกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น เนื้องอกในมดลูก ติ่งเนื้อปากมดลูก การหนาตัวผิดปกติของมดลูก ความผิดปกติของการเเข็งตัวของเลือด เป็นต้นครับ

ถ้ามีเพศสัมพันธ์บ่อยๆเเละรุนเเรง อาจเป็นเลือดจากเเผลในช่องคลอด ที่มีการเสียดสีขณะมีเพศสัมพันธ์ได้ครับ (โดยเฉพาะถ้ามีพวกติ่งเนื้อปากมดลูกด้วย จะเกิดเลือดออกได้ง่าย)

ถ้าออกไม่มากสามารถสังเกตอาการได้ถ้าหยุดเองก็โอเคครับ
ถ้ายังออกเรื่อยๆหาเวลาไปตรวจเเผนกสูตินรีเวชได้ครับ
ยกเว้นออกมากชุ่มผ้าอนามัย4-5ผืน ปวดท้องน้อยมากๆ ควรพบสูตินรีเเพทย์โดยเร็วครับ

ในกรณีนี้ไม่ว่าจะรับประทานยาคุมฉุกเฉินหลังมีเพศสัมพันธ์ไปนานแค่ไหนผลของยาคุมฉุกเฉินก็จะไม่ได้แตกต่างกันครับ เนื่องจากในกรณีนี้ได้ใช้ถุงยางอนามัยในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ซึ่งมีความปลอดภัยสูงอยู่แล้ว การรับประทานยาคุมฉุกเฉินจึงไม่ได้มีผลช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์แล้วครับ

นอกจากนี้หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินผลของยาคุมฉุกเฉินก็จะมีอยู่ไม่เกิน 1 รอบเดือนครับ เมื่อมีประจำเดือนมาแล้วครั้งหนึ่งหลังจากรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้ว เลือดที่ออกมาผิดปกติหลังจากนั้นจึงไม่ควรเกี่ยวข้องกับการรับประทานยาคุมฉุกเฉินแล้วครับ