May 19, 2018 17:35
ตอบโดย
พิมพกา ชวนะเวสน์ (สูตินรีแพทย์)
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ยิ่งกินเร็วเท่าไหร่ หลังมีเพศสัมพันธ์ ยิ่งดีค่ะ โดยตามหลักการ ให้กินยาภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ปัจจุบันยืดหยุ่นให้ถึง 100 ชั่วโมงแล้วค่ะ
อย่างไรก็ตาม ยาคุมฉุกเฉิน ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ดีไม่เท่า การคุมกำเนิดวิธีอื่นๆ เช่น การกินยาคุมปกติค่ะ (ยาคุมปกติ ถ้ากินถูกวิธี ประสิทธิภาพคุมกำเนิด มากกว่า 90 % แต่คุมฉุกเฉิน อาจจะแค่ประมาณ 80 - 85%
เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นไปได้ แนะนำใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่นค่ะ ใช้ยาคุมฉุกเฉิน เมื่อจำเป็นเท่านั้น
รอบนี้ แฟนยังไม่ได้หลั่ง โอกาสการตั้งครรภ์ก็น้อยลงค่ะ แต่ ทานยาคุมฉุกเฉินไว้ ก็ดีแล้วค่ะ เพราะบางครั้ง ก็พบตัวอสุจิในน้ำหล่อลื่นได้
ยาคุมฉุกเฉิน คือ ฮอร์โมนเพศหญิงขนาดสูงค่ะ สูงกว่าระดับธรรมชาติในร่างกาย หลังได้รับไปแล้วจะทำให้รอบเดือนแปรปรวนได้ค่ะ
และด้วยความที่ฮอร์โมนสูง ก็ทำให้มีอาการข้างเคียงอื่นๆได้ เช่น คัดตึงเต้านม คลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะ
อย่างไรก็ตาม ถ้าถึงรอบเมนส์มาปกติ แล้วเมนส์ยังไม่มา ให้ลองตรวจปัสสาวะดูการตั้งครรภ์ดูค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
เท่าทีอ่านดูโอกาสตั้งครรภ์มีน้อยมากครับ เนื่องจากมีการใช้ถุงยางอนามัย และยังไม่มีการหลั่งด้วย รวมถึงกินยาคุมฉุกเฉินไปแล้วด้วยอีก เรียกว่าปัจจัยเสี่ยงในการตั้งครรภ์น้อยมากๆครับ
ใจเย็นแล้วลองสังเกตอาการดูครับ ถ้าประจำเดือนขาดไปก็ลองตรวจการตั้งครรภ์ดูอีกครั้งครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ภก. ธีรศิลป์ โยมา (เภสัชกร)
-- สามารถทานยาคุมฉุกเฉินเพื่อลดความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ จากการมีเพศสัมพันธ์ในครั้งนี้ได้ครับ กรณียังไม่พร้อมตั้งครรภ์ผลดีมีมากกว่าผลเสียครับ อาจมีอาการข้างเคียงได้บ้างเช่น คลิ่นไส้ อาเจียน
--ถ้าพูดถึงเรื่องความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ จากที่เล่ามาน่าจะมีความเสี่ยงในการตั้งครรภ์น้อยครับ การที่ถุงยางหลุดอยู่ในช่องๆ ระหว่างที่เอาออกมา อาจมีอสุจิที่ปนออกมากับน้ำหล่ออื่นได้ ทำให้มีความเสี่ยง แต่ยาคุมฉุกเฉินก็ลดความเสี่ยงได้ครับ อย่างไรก็ตามไม่มีการคุมกำเนิดวิธีไหนที่จะคุมได้ 100 % ครับจากสถิติยาคุมฉุกเฉินจะคุมได้ประมาณ 70-85 % แล้วแต่คนและช่วงเวลาที่ทานครับ ยิ่งทานเร็วยิ่งดีครับ
--กรณีที่ประจำเดือนยังไม่มา ทั้งๆที่ถึงรอบเดือนแล้ว ให้ลองทดสอบการตั้งครรภ์โดยใช้ชุดตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะดูครับ หรือหลังจากมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 14 วันก็มักจะเริ่มตรวจได้ครับ
--ยาคุมฉุกเฉินไม่แนะนำให้ทานบ่อยๆเนื่องจาก มีความสามารถในการคุมกำเนิดต่ำกว่าแบบอื่นๆครับ เช่น ยาคุมกำเนิดแบบรายเดือนถ้าทานอย่างถูกวิธี จากสถิติข้อมูลพบว่าสามารถคถมได้กว่า 90 % ขึ้นไปครับ และการทานบ่อยๆอาจส่งผลต่อมดลูกได้บ้างครับ เพราะมดลูกจะมีการบีบตัวหลังรับประทานยาคุมฉุกเฉิน ได้กรณีที่ตยังไม่พร้อมมีบุตร แล้วอยากลดความเสี่ยง ถ้าไม่มีข้อห้ามอะไร แล้วไม่ได้คุมกำเนิดโดยวิธีอื่นมาก่อน ก็แนะนำให้ทานครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
สวัสดีค่ะ วันที่19ตอนประมาณเที่ยงครึ่งหนูได้มีเพศสัมพันธ์กับแฟนค่ะ แล้วพอชักออกมา ถุงยางได้หลุดคาช่องคลอดของหนู แฟนของหนูยังไม่ได้หลั่งค่ะ แล้วถุงยางก็ไม่ได้แตกด้วย หนูกังวลเลยทานยาคุมฉุกเฉินเม็ดแรกภายใน24ชั่วโมงค่ะ หนูเคยทานยาคุมฉุกเฉินเมื่อวันที่19เดือนที่แล้วค่ะ พอใช้ที่ตรวจครรภ์แบบจุ่มก็ขึ้น1ขีด อยากทราบว่า มีโอกาสท้องมากหรือน้อยคะ แล้วทานยาคุมฉุกเฉินครั้งที่สองอันตรายไหมคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)