คือไปฝังยาคุมมาค่ะแต่มี พสพ กันวันที่ฝังยาคุม(เมนหมดไป1วัน)แต่ยังอยู่ในวันที่5ในช่วงปลอดภัย7วัน ก่อนหน้านี้ทานยาคุมเมโล้ดียแบบ21เม็ดไม่ได้ทานเม็ดสุดท้าย อยากทราบว่าถ้าไปทานยาคุมฉุกเฉินตอนนี้ ตอนนี้ฝังยาคุมอยู่จะเกิดอันตรายไหมคะ แบ้วจะท้องไหม

สวัสดีครับ
ไม่ทราบว่ารับประทานยาคุมเม็ดสุดท้ายไปในวันที่เท่าไหร่แบะฝังยาคุมไปในวันที่เท่าไหร่ครับ

ถ้าฝังยาคุมภายใน 5 - 7 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้เลยค่ะ (แนวทางของ WHO 2016 ระบุ 7 วัน ส่วนแนวทางของ US CDC 2016 ระบุ 5 วัน) จึงไม่จำเป็นจะต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินเพิ่มแล้วนะคะ เนื่องจากประสิทธิภาพของยาฝังคุมกำเนิดสูงมาก ผู้ใช้มีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 0.05% เท่านั้นค่ะ

ในกรณีนี้ควรเริ่มยาคุมในวันที่ 5 สิงหาคมครับ การฝังยาคุมในวันที่ 6 สิงหาคมนั้นจะช้ากว่าเวลาที่ควรจะเป็นไปเล็กน้อยจึงยังไม่สามารถมั่นใจได้ว่ายาคุมที่ฝังจะออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ในทันที

ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรหายาคุมฉุกเฉินมารับประทานให้เร็วที่สุดก่อน โดยให้รับประทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ก็จะช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ลงได้ 75-85% แต่ถ้าหากเลยช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้วก็ยังอนุโลมให้รับประทานภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ แต่ประสิทธิภาพของยาก็จะลดลงไปเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไปครับ

ส่วนการรับประทานยาคุมฉุกเฉินในช่วงที่ฝังยาคุมจะไม่ได้มีผลกระทบกับประสิทธิภาพของยาคุมที่ฝังอยู่ครับ

และหลังจากนี้หมอก็แนะนำให้วดการมีเพศสัมพันธ์หรือใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยไปก่อนเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วันนีบจากวันที่เริ่มฝังยาคุมครับ

การเปลี่ยนวิธีคุมกำเนิดของผู้ถาม สามารถพิจารณาความต่อเนื่อง/ผลคุมกำเนิดได้จาก 2 วิธีนะคะ

1. คือพิจารณาจากวันที่มีประจำเดือน ซึ่งหากผู้ถามฝังยาคุมภายใน 7 วันแรกของการมีประจำเดือน ตามแนวทางขององค์การอนามัยโลก (WHO 2016) จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้ทันทีค่ะ

2. คือพิจารณาจากกำหนดต่อยาคุมรูปแบบเดิมที่ใช้ ซึ่งหากผู้ถามรับประทานเมโลเดียเม็ดสุดท้าย (ที่ได้รับประทานจริง) ในวันที่ 28 กรกฎาคม ก็ควรจะเว้นว่าง 7 วัน ระหว่างวันที่ 29 กรกฎาคม - 4 สิงหาคม และต่อแผงใหม่ในวันที่ 5 สิงหาคมนะคะ

นั่นหมายถึง ผู้ถามควรฝังยาคุมในวันที่ 5 สิงหาคมค่ะ

แต่การที่ต่อยาคุมแผงใหม่ช้า ก็ยังถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องได้ถ้ายังไม่เกินระยะเวลายืดหยุ่นนะคะ

ซึ่งการที่ผู้ถามฝังยาคุมช้ากว่ากำหนดต่อยาคุมแผงใหม่ 1 วัน (และถ้านับจริง ๆ จะยังไม่ครบ 1 วันค่ะ เพราะต้องนับจากเวลาที่ควรรับประทานยาในวันที่ 5 สิงหาคม มาจนถึงเวลาที่ผู้ถามฝังยาคุมในวันที่ 6 สิงหาคม) จึงถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องเช่นกัน

ดังนั้น ไม่ว่าจะพิจารณาตามวิธีในข้อ 1 หรือ 2 ก็ถือว่ามีผลคุมกำเนิดเรียบร้อยแล้วนะคะ จึงมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกติ

และเมื่อมีผลคุมกำเนิดอยู่เช่นนี้ ก็มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์น้อยมากค่ะ จึงไม่จำเป็นจะต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินเพื่อให้เกิดผลข้างเคียงจากยาโดยไม่จำเป็นนั่นเองนะคะ
..
..
..
อย่างไรก็ตาม ถ้ารับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้ว ก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะแม้จะไม่จำเป็นต้องใช้ แต่ผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินก็ไม่ได้มีอันตรายที่รุนแรงหรือถาวรใด ๆ และไม่ได้ลดประสิทธิภาพของยาฝังคุมกำเนิดค่ะ