June 07, 2019 11:31
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ในกรณีทั่วไป หากฉีดยาคุมภายใน 7 วันแรกของการมีประจำเดือน จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้เลยหลังฉีดยานะคะ แต่ถ้าฉีดยาคุมเข็มแรกไม่ทันช่วงเวลาดังกล่าว ก็จะต้องงดมีเพศสัมพันธ์ หรือต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยไปอีก 7 วันหลังฉีดยาคุมค่ะ
ดังนั้น เมื่อผู้ถามฉีดยาคุมมามากกว่า 1 เดือนแล้ว การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้ก็ถือว่ามีผลคุมกำเนิดจากยาคุมที่ฉีดไปแล้วนะคะ จึงมีโอกาสตั้งครรภ์ 0.2 - 6% ตามผลป้องกันของยาคุมชนิดฉีด ซึ่งความเสี่ยงดังกล่าวจะค่อนไปทางต่ำ คือ 0.2% เมื่อฉีดยาคุมต่อเนื่องตรงเวลาสม่ำเสมอค่ะ
..
..
..
และเนื่องจากผลข้างเคียงเด่น ๆ ของยาคุมชนิดที่ฉีดทุก 3 เดือน คือ การมีเลือดออกกะปริบกะปรอย, ประจำเดือนไม่ปกติ หรือไม่มีประจำเดือน ดังนั้น จึงอาจพบได้ว่าผู้ใช้ไม่มีประจำเดือนมาในระหว่างที่ใช้ยา ซึ่งหากมีการฉีดยาคุมถูกต้องตามที่กล่าวไปข้างต้น การที่ประจำเดือนไม่มาก็น่าจะเป็นผลข้างเคียงจากยาที่ฉีดนั่นเองค่ะ ไม่ใช่เพราะเกิดจากการตั้งครรภ์
อย่างไรก็ตาม หากการที่ไม่มีประจำเดือนมาทำให้ผู้ถามกังวลใจว่าอาจตั้งครรภ์ ก็สามารถตรวจการตั้งครรภ์ให้ชัดเจนได้นะคะ โดยใช้ชุดทดสอบทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน (ปัสสาวะแรกของวัน) ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ฉีดยาคลุมแบบ3เดือนได้1เดือนกว่าแล้วค่ะ แล้วมีเพศสัมพันธ์กับแฟนแบบหลั่งใน มีโอกาสท้องไหมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)