April 07, 2017 13:55
ตอบโดย
ชยากร พงษ์พยัคเลิศ (นพ.)
คุณแม่อาจหมายถึงภาวะรกเกาะต่ำ
รกเกาะต่ำ หรือ ภาวะรกเกาะต่ำ (Placenta previa) หมายถึง ภาวะที่รกเกาะอยู่ที่ผนังมดลูกส่วนล่าง (ใกล้กับปากมดลูก) หรือปิดขวางปากมดลูก ซึ่งโดยปกติแล้วสตรีตั้งครรภ์ทั่วไปรกควรจะเกาะอยู่ที่ผนังส่วนบนค่อนไปทางด้านหลังของโพรงมดลูก ทำให้ไม่มีสิ่งกีดขวางทางคลอดของทารก (บริเวณนี้เนื้อมดลูกจะหนา เลือดมาเลี้ยงได้ดี) แต่ถ้ารกเกาะอยู่บริเวณส่วนล่างของมดลูกหรือคลุมมาถึงด้านในของปากมดลูก จะเรียกว่า “ภาวะรกเกาะต่ำ” ซึ่งถือเป็นภาวะที่ไม่ปกติ (เลือดจะมาเลี้ยงบริเวณนี้น้อย จึงทำให้เด็กเจริญเติบโตช้าในครรภ์)
ภาวะนี้มักพบได้ในหญิงตั้งครรภ์ประมาณ 1 ใน 200 คน โดยเฉพาะคุณแม่ที่เคยตั้งครรภ์มาแล้วหรือคลอดหลาย ๆ ครั้ง (ยิ่งครรภ์หลัง ๆ จะยิ่งมีโอกาสพบได้มากขึ้น) หรือในครรภ์แฝด รวมถึงคุณแม่ที่มีความผิดปกติของปากมดลูก เช่น มีก้อนเนื้องอกในมดลูกหรือมีแผลเป็นที่ตัวมดลูก หรือเคยมีประวัติผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องมาก่อนก็อาจทำให้การเกาะตัวของรกกับผนังมดลูกผิดปกติไป เมื่อคุณแม่ใกล้คลอดจึงมักทำให้เกิดอาการตกเลือด ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อคุณแม่และทารกในครรภ์ได้
การดูแลรักษา
1.ถ้าตรวจพบรกเกาะต่ำในช่วงที่อายุครรภ์น้อย ๆ แพทย์จะทำการตรวจอัลตราซาวนด์ซ้ำอีกครั้งเมื่อคุณแม่มีอายุครรภ์ประมาณ 32-34 สัปดาห์ เพื่อยืนยันว่าตำแหน่งของรกเปลี่ยนไปหรือไม่ เพราะในช่วงอายุครรภ์น้อย ๆ รกอาจอยู่ต่ำ แต่เมื่ออายุครรภ์มากขึ้น รกอาจเคลื่อนไปด้านบนได้เองก็ได้ แต่หากพบว่าตำแหน่งของรกไม่เปลี่ยนแปลง คือ ยังเกาะต่ำอยู่เหมือนเดิม และอายุครรภ์ยังไม่ครบกำหนดคลอด แพทย์อาจมีความจำเป็นให้คุณแม่นอนพักอยู่นิ่ง ๆ บนเตียงนอนเพื่อสังเกตอาการในโรงพยาบาลอย่างน้อย 3 วัน และอาจฉีดยากระตุ้นความพร้อมของปอดทารกให้ด้วย เพื่อให้ปอดทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น หากมีความจำเป็นฉุกเฉินต้องทำคลอดก่อนกำหนด รวมถึงมีการติดตามสุขภาพของทารกในครรภ์เป็นระยะ ๆ จนกระทั่งเลือดหยุดไหลและไม่มีเลือดออกอีกภายใน 1 สัปดาห์ คุณแม่จึงสามารถกลับไปพักผ่อนที่บ้านได้ (หากบ้านอยู่ไม่ไกลมากนักและสามารถมาโรงพยาบาลได้เร็ว เพราะตามธรรมชาติของรกเกาะต่ำในช่วงแรกเลือดอาจจะออกน้อย แต่ในครั้งต่อ ๆ มาเลือดที่ออกมักจะรุนแรงขึ้น) เพื่อเป็นการยืดระยะเวลาของการตั้งครรภ์ออกไปให้ได้มากที่สุดและให้ปอดของทารกมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นในช่วงที่คลอดออกมา โดยแพทย์จะแนะนำให้คุณแม่พักผ่อนมาก ๆ หลีกเลี่ยงการทำงานหนักและการมีเพศสัมพันธ์ หลีกเลี่ยงการเบ่งถ่ายอุจจาระทุกครั้ง แนะนำให้คุณแม่รับประทานอาหารที่ย่อยได้ง่ายและมีเส้นใยมาก ๆ รวมถึงการรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กมาก ๆ เช่น ไข่แดง ตับ และยาบำรุงเลือดซึ่งมีธาตุเหล็ก และแพทย์นัดมาตรวจอย่างใกล้ชิดจนกระทั่งเด็กคลอด (หากมีเลือดออกก็ต้องรีบกลับไปพบแพทย์ในทันที) ซึ่งในกรณีนี้คุณแม่อาจคลอดเองตามธรรมชาติได้ แต่ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
2.ในกรณีที่คุณแม่มีเลือดออกรุนแรงมาก จะมีผลต่อทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์ แพทย์จะให้น้ำเกลือ ให้เลือดทดแทนถ้าคุณแม่เสียเลือดมาก และแพทย์จะตัดสินใจทำคลอดโดยวิธีการผ่าตัดทำคลอดทางหน้าท้อง ซึ่งเป็นเพียงหนทางรักษาเดียว แม้ว่าอายุครรภ์ยังไม่ครบกำหนดและทารกจะมีน้ำหนักน้อยอยู่ก็ตาม ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้คุณแม่เสียชีวิตจากการตกเลือดมาก (หากหัวใจทารกเต้นผิดปกติและช่วยไว้ไม่ทัน ทารกในครรภ์จะเสียชีวิตได้ บางครั้งหากคุณแม่มีการเสียเลือดมากหลังการผ่าตัดทารกแล้ว อาจมีความจำเป็นต้องตัดมดลูกออกด้วยเพื่อหยุดเลือด)
3.สำหรับคุณแม่ที่มีอายุครรภ์มากแล้วหรืออยู่ในช่วงใกล้ครบกำหนดคลอด แพทย์จะพิจารณาให้ทำการผ่าตัดทำคลอด เพราะในระยะนี้ปอดของทารกก็ค่อนข้างจะสมบูรณ์ดีแล้วและเพื่อป้องกันการเสียเลือดโดยไม่จำเป็น เพราะรกอาจคลุมอยู่ที่ปากมดลูกทั้งหมด หากปล่อยให้กระบวนการคลอดดำเนินต่อไปจะทำให้คุณแม่ตกเลือดจนเสียชีวิตได้ โดยระยะเวลาที่แพทย์จะนัดมาผ่าตัดทำคลอดก่อนที่จะมีอาการเจ็บครรภ์คลอด คือ ในช่วงอายุครรภ์ประมาณ 37-38 สัปดาห์ ซึ่งยังถือว่าเป็นการคลอดในกำหนด เพราะหากปล่อยให้เจ็บครรภ์คลอดเอง เลือดจะออกได้มากขึ้น
หมายเหตุ : แพทย์จะพิจารณาผ่าตัดทำคลอดเมื่อคุณแม่มีเลือดออกมากจนต้องให้เลือดทดแทน, อายุครรภ์ครบกำหนดคลอดแล้ว (ตั้งแต่ 37 สัปดาห์ขึ้นไป), ทารกอยู่ในภาวะอันตราย เช่น หัวใจเต้นผิดปกติ หรือทารกเสียชีวิตแล้วในครรภ์ (แม้ทารกจะเสียชีวิตแล้วก็ต้องผ่าท้องคลอดอยู่ดี เพื่อไม่ให้คุณแม่เกิดอันตราย เช่น เกิดภาวะเลือดออกผิดปกติมาก (Disseminated intravascu lar coagulation – DIC)
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 386 บาท ลดสูงสุด 61%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
สุเทพ สุขนพกิจ
เมื่อมีรกเกาะต่ำ ในระยะแรกของการตั้งท้องจะไม่มีอาการผิดปกติอะไร จนเมื่อการตั้งท้องดำเนินไปจนใกล้คลอดช่วงเวลาดังกล่าวมดลูกจะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาก ปากมดลูกและส่วนล่างของมดลูกจะเริ่มมีการบางตัวลงและยืดขยายมากขึ้นทำให้รกที่เคยเกาะแน่นที่บริเวณดังกล่าวมีรอยปริเกิดขึ้นได้จากการยืดขยายของส่วนล่างของมดลูกและปากมดลูกคล้ายกับรอยร้าวเล็กน้อยของผนังตึก ผลดังกล่าวทำให้มีเลือดออกที่บริเวณที่รกเกาะแล้วไหลผ่านปากมดลูกลงมาในช่องคลอด ครับ ส่วนการย้ายกลับมาอยุ่แบบปกติ อาจจะเป็นได้ครับต้องดูก่อนว่าเป็นประเภทไหนครับ จึงมีการนัดตรวจอัลตร้าซาวเป็นระยะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ถ้าสายรกของคนท้องอยู่ต่ำจะเป็นอันตรายหรือเปล่าค่ะแล้วสายรกจะย้ายไปอยู่ที่ปกติหรือเปล่าค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)