August 21, 2019 14:45
ตอบโดย
พิมพกา ชวนะเวสน์ (สูตินรีแพทย์)
ปกติ ผู้หญิงสามารถมีตกขาวได้ค่ะ โดย ลักษณะของตกขาวปกติ จะมีลักษณะแตกต่างกันไปตามแต่ละช่วงของรอบเดือน
โดยช่วงก่อนไข่ตก (2 สัปดาห์ก่อนประจำเดือนมา) จะมีลักษณะเป็นมูกยืดๆ สีใส
หลังไข่ตก จะเปลี่ยนเป็นลักษณะสีขาวคล้ายแป้ง
อย่างไรก็ตาม ตกขาวปกติ จะไม่ทำให้มีอาการคัน ระคายเคือง หรือแสบช่องคลอด ไม่มีกลิ่นเหม็น และไม่มีอาการอื่น เช่น ปวดท้องน้อย หรือเป็นไข้ ร่วมด้วย
ถ้าตกขาวมีอาการผิดไปจากนี้ ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อ ซึ่งมีหลายสาเหตุ จะมีลักษณะตกขาวต่างๆ กับไป เช่น
ตกขาว เหมือนแป้ง เป็นก้อน คล้ายคราบนมเด็ก คันมาก เกิดจากเชื้อรา
ตกขาว สีเหลือง กลิ่นเหม็น ปวดท้อง มีไข้ เกิดจาก อักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
ตกขาวสีขาว เทา กลิ่นคล้ายปลา เกิดจาก ไม่สมดุลย์ของแบคทีเรียในช่องคลอด
ซึ่งการรักษา จะรักษาตามสาเหตุ
เพราะฉะนั้น ถ้ามีลักษณะตกขาวผิดปกติไป ควรพบแพทย์ เพื่อตรวจภายในค่ะ จะได้รักษาตรงสาเหตุ
กรณีที่มีการติดเชื้อราในช่องคลอดบ่อย
คือ เป็นมากกว่า หรือเท่ากับ 4 ครั้ง ใน 1 ปี
แพทย์จะให้ยาฆ่าเชื้อรา ไปกิน กันไว้เลยค่ะ โดย จะต้องกินยาต่อเนื่องกัน เป็นเวลา 6 เดือนค่ะ
อื่นๆ ที่อาจช่วยได้ คือปรับการใช้ชีวิตค่ะ
ใส่กางเกงในที่ผ้าโปรงสบาย ไม่อับชื้น
หลังทำความสะอาดอวัยวะเพศ เช็ดให้แห้งทุกครั้ง หลีกเลี่ยงการกินยาฆ่าเชื้อโดยไม่จำเป็น เพราะยาไปฆ่าแบคทีเรียที่ดีในช่องคลอด ทำให้เชื้อรา ขึ้นมาแทนค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
จะทำให้มดลูกไม่ดีไหมค่ะ อาการที่บอกไปอะค่ะ
ตอบโดย
ณิชกุล
ฉง
(พญ.)
General practictioner
สวัสดีค่ะ แนะนำครั้งนี้ควรไปตรวจที่โรงพยาบาลค่ะ เพื่อดูว่าเกิดจากการติดเชื้อประเภทใด ที่ตำแหน่งใดของระบบสืบพันธุ์ อาจเป็นแบคทีเรีย เชื้อรา หรือเชื้อโปรโตซัวก็เป็นได้ค่ะ รวมถึงควรพาคู่นอนไปพบแพทย์ด้วยค่ะ เนื่องจากการติดเชื้อสามารถติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ได้ ดังนั้นหากคุณได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมแล้ว แต่คู่นอนไม่รักษา ก็จะกลับมาติดเชื้อใหม่ได้อีกค่ะ จึงแนะนำไปพบแพทย์ทั้งสองคนเลยค่ะ หลังได้รับการรักษาที่เหมาะสมครั้งนี้แล้ว ควรรักษาความสะอาด และใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
อาการที่บอกไป จะทำให้มดลูกไม่ดีไหมค่ะ
ตอบโดย
พิมพกา ชวนะเวสน์ (สูตินรีแพทย์)
ถ้าเป็นเชื้อที่ติดขึ้นไปถึงระดับมดลูก คือ การอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
(ตกขาวเหลือง เหม็น ปวดท้อง อาจมีไข้ด้วย) ถ้าเป็นบ่อยๆ อาจมีพังผืดในอุ้งเชิงกรานได้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ไม่ปวดท้องค่ะ แค่เป็นสีกับมีกลิ่นเหม็นค่ะ จะทำให้มดลูกไม่ดีรึป่าวค่ะ
ตอบโดย
ณิชกุล
ฉง
(พญ.)
General practictioner
แนะนำไปตรวจกับแพทย์ก่อนค่ะ อย่างที่สูตินรีแพทย์ด้านบนบอกไป ถ้ามีการติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน จะทำให้มีพังผืดในอุ้งเชิงกราน อาจส่งผลต่อการตั้งครรภ์ การมีบุตรยาก ตั้งครรภฺนอกมดลูกเพิ่มขึ้น อุ้งเชิงกรานอักเสบเรื้อรัง ปวดท้องเรื้อรังตามมาได้ค่ะ
จากอาการ แม้ว่าจะมีตกขาวอย่างเดียว แต่ยังควรไปให้แพทย์ตรวจร่างกายอย่างละเอียดด้วยค่ะ หากตรวจร่างกายไม่พบลักษณะของการอักเสบในอุ้งเชิงกราน อาจติดเชื้อในระบบสืบพันธุ์ในส่วนของช่องคลอดหรือปากมดลูกได้ค่ะ ซึ่งไม่ได้มีผลต่อมดลูกภายใน แต่หากครั้งนี้รักษาอย่างเหมาะสมแล้ว ควรป้องกันไม่ให้ติดเชื้อครั้งต่อไปอีกค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ปวริศ ยืนยง (นพ.)
สวัสดีครับ สำหรับการตกขาว ถ้ามีตกขาวสีผิดปกติ มีกลิ่น อาจจะเกิดได้จาก
1.การติดเชื้อที่ปากมดลูก คือการติดเชื้อแบคทีเรียต่างๆที่ปากมดลูก จะทำให้มีตกขาวมีกลิ่น สีผิดปกติ
2.การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน จะมีอาการปวดท้องน้อย ตกขาวสีผิดปกติ ตกขาวมีกลิ่น
3.การติดเชื้อที่มดลูก จะทำให้ปวดท้องน้อย ตกขาวสีผิดปกติ และมีกลิ่นได้เช่นกัน
การรักษาทุกอย่างที่กล่าวไปคือการได้รับยาฆ่าเชื้ออย่างเหมาะสมครับ แนะนำว่าควรไปตรวจที่โรงพยาบาลเพื่อยืนยันครับ
สำหรับการตกขาว ถ้ามีตกขาวสีผิดปกติ เช่น สีดำ สีน้ำตาล สีแดงและ มีกลิ่น อาจจะเกิดได้จาก
1.การติดเชื้อที่ปากมดลูก คือการติดเชื้อแบคทีเรียต่างๆที่ปากมดลูก จะทำให้มีตกขาวมีกลิ่น สีผิดปกติ
2.การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน จะมีอาการปวดท้องน้อย ตกขาวสีผิดปกติ ตกขาวมีกลิ่น
3.การติดเชื้อที่มดลูก จะทำให้ปวดท้องน้อย ตกขาวสีผิดปกติ และมีกลิ่นได้เช่นกัน
ส่วนใหญ่จะเกิดจากโรคติดเชื้อดังนี้ครับ เช่น
1.เกิดจากเชื้อรา หรือ candidiasis vaginalis ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจาก การติดเชื้อรา ชื่อ candida albican ครับ ซึ่งจะมีตกขาวสีขาวคล้ายนมบูด
มีกลิ่นเหม็นคาว และคันช่องคลอดครับ ซึ่งสามารถ รักษาได้โดยการสองยา ฆ่าเชื้อราในช่องคลอดครับ
2.การติดเชื้อแบคทีเรีย หรือ bacterial vaginalis สำหรับ อาการคือ มีอาการคันช่องคลอดได้เช่นกิน อาจจะมีกลิ่นตกขาวคล้ายปลาเน่า คันและแสบช่องคลอดได้ครับ ตกขาวอาจจะสีเขียว หรือขาวขุ่น การรักษาคือการกินยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียครับ
3.การติดเชื้อที่ชื่อว่าโปรโตซัวชนิดหนึ่ง หรือ trichomoniasis vaginalis ซึ่งจะมีอาการคันช่องคลอด เจ็บปากมดลูก เวลามีเพศสัมพันธ์ อาจจะมีเลือดปนได้ ตกขาวมีกลิ่นคาว สีเขียว สีขาวขุ่น หรือสีแดงคล้ำได้ครับ การรักษาคือการกินยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียเช่นเดียวกันครับ เป็นต้น
การรักษาทุกอย่างที่กล่าวไปคือการได้รับยาฆ่าเชื้ออย่างเหมาะสมครับ แนะนำว่าควรไปตรวจที่โรงพยาบาลเพื่อยืนยันครับ
ถ้าเคยกินยารักษาแล้วไม่กายแปลว่าการรักษาไม่ตรงกับเชื้อครับ แนะนำว่าควรกลับไปรักษาใหม่ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
เป็นตกขาวสีค่ะ บางทีก็สีขาวบางทีก็สีเหลือง มีกลิ่นค่ะ กลิ่นแรง เคยไปหาหมอที่โรงพยาบาลมาแล้วค่ะ ไปหลายรอบแล้วค่ะ ให้แต่ยาฆ่าเชื้อกิน กินและก็ไม่หายค่ะ มีวิธีอื่นที่ทำให้หายไหมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)