เราอาจต้องคอยสังเกตดูว่าเราดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากน้อยเพียงใด แล้วจะมีสักกี่คนที่จะทราบว่าจริงๆ แล้วดื่มมาตรฐานคืออะไร?
เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถูกผลิตออกมาอย่างหลากหลายชนิดและถูกเสิร์ฟมาในแก้วหลากหลายขนาด ตั้งแต่แก้วช๊อตไปจนถึงแก้วไพนต์ ซึ่งยังไม่นับรวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่บรรจุในขวดขนาดต่างๆ ด้วยปริมาณของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เหล่านี้เราอาจสงสัยว่าแต่ละแก้วแต่ละขวดมีปริมาณดื่มมาตรฐานอยู่เท่าไหร่?
ตรวจตับวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 78 บาท ลดสูงสุด 65%
ตรวจตับ วันนี้ เปรียบเทียบราคา / ประหยัดกว่า / ผ่อน 0% ได้ / แอดมินพร้อมให้บริการ กดที่นี่
การคำนวนปริมาณดื่มมาตรฐานเกิดขึ้นครั้งแรกในสหราชอาณาจักร ในปี 1987 เพื่อช่วยให้ผู้ดื่มสามารถทราบปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ของตนได้
ดังนั้น การคำนวนดื่มมาตรฐานจึงเป็นวิธีการที่สะดวกและง่าย ในการแสดงปริมาณของแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ที่ผสมอยู่ในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่ละชนิด โดย 1 ดื่มมาตรฐานจะมีปริมาณแอลกอฮอล์บริสุทธิ์จำนวน 10 กรัม หรือ 8 กรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่ร่างกายสามารถดูดซึมและขับแอลกอฮอล์ออกจากร่างกายได้ภายใน 1 ชั่วโมง
นั่นหมายความว่าภายในหนึ่งชั่วโมงควรมีแอลกอฮอล์เหลือเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีหลงเหลือเลยภายในร่างกาย อย่างไรก็ตามระยะเวลาการดูดซึมและการขับแอลกอฮอล์ออกจากร่างกายของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน และปริมาณดื่มมาตรฐานนั้นขึ้นอยู่กับขนาดของบรรจุภัณฑ์และดีกรีของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ยกตัวอย่างเช่น เบียร์สดที่มีความเข้มข้นสูง 1 ไพนต์ มีปริมาณแอลกอฮอล์ 3 ดื่มมาตรฐาน ในขณะที่เบียร์สดที่มีความเข้มข้นต่ำ 1 ไพนต์ มีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 2 ดื่มมาตรฐาน
ดังนั้น การทราบว่าเราดื่มสุราในปริมาณดื่มมาตรฐานเท่าไหร่จะช่วยให้เราสามารถควบคุมปริมาณการดื่มได้
เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้การดื่มสุราส่งผลกระทบต่อสุขภาพ แนะนำให้พยายามควบคุมปริมาณการดื่ม ดังนี้
ตรวจตับวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 78 บาท ลดสูงสุด 65%
ตรวจตับ วันนี้ เปรียบเทียบราคา / ประหยัดกว่า / ผ่อน 0% ได้ / แอดมินพร้อมให้บริการ กดที่นี่
- ทั้งหญิงและชาย ไม่ควรดื่มสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เกินกว่า 14 ดื่มมาตรฐานต่อสัปดาห์
- หากต้องการลดปริมาณการดื่มลงเรื่อยๆ แนะนำให้มีการกำหนดวันปลอดสุรา 2-3 วันในแต่ละสัปดาห์
- หากดื่มสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เกินกว่า 14 ดื่มมาตรฐานต่อสัปดาห์ แนะนำว่าไม่ควรดื่มหนักในคราวเดียวแต่ควรแบ่งปริมาณการดื่มออกเป็นหลายๆ วัน
14 ดื่มมาตรฐานเทียบเท่ากับเบียร์สดที่มีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ระดับกลางจำนวน 6 ไพนต์หรือไวน์ที่มีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ต่ำจำนวน 10 แก้วเล็ก
วิธีการคำนวนดื่มมาตรฐาน
การใช้ดื่มมาตรฐานเป็นวิธีที่ง่ายต่อการแสดงปริมาณแอลกอฮอล์ของเครื่องดื่มแต่ละชนิด โดยปกติแล้วจะมีการแสดงระดับแอลกอฮอล์เป็นดีกรีมาตรฐานหรือระดับความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ (ABV) อยู่แล้ว ซึ่ง ABV เป็นตัววัดปริมาณความเข้มข้นของแอลกอฮอล์บริสุทธิ์เป็นเปอร์เซ็นต์ในเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์แต่ละชนิด
คุณสามารถทราบปริมาณ ABV ได้จากฉลากบรรจุภัณฑ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และบางบรรจุภัณฑ์ระบุไว้เป็น “vol” หรือ “alcohol volume” นอกจากนี้คุณยังสามารถสอบถามปริมาณความเข้มข้นของเครื่องดื่มที่คุณสั่งได้จากบาร์เทนเดอร์
ยกตัวอย่างเช่น ฉลากขวดไวน์ที่ระบุว่ามี "12% ABV" หรือ "alcohol volume 12%" หมายความว่า มีระดับความเข้มข้นของแอลกอฮอล์บริสุทธิ์อยู่ที่ 12%
เราสามารถคำนวณปริมาณดื่มมาตรฐานที่เราบริโภคได้เอง โดยการคูณปริมาตรรวมของเครื่องดื่ม (เป็นมิลลิลิตร) กับระดับ ABV (เป็นเปอร์เซ็นต์) และหารด้วยจำนวน 1,000 ดังนี้
ตรวจตับวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 78 บาท ลดสูงสุด 65%
ตรวจตับ วันนี้ เปรียบเทียบราคา / ประหยัดกว่า / ผ่อน 0% ได้ / แอดมินพร้อมให้บริการ กดที่นี่
ยกตัวอย่างการคำนวนดื่มมาตรฐานของเบียร์สดที่มีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์สูง (ABV 5.2%) ปริมาณ 1 ไพนต์หรือ 568 มล.
เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และปริมาณดื่มมาตรฐาน ไวน์แดง ไวน์ขาว หรือโรสไวน์ ปริมาณ 750 มล. ที่มี ABV 13.5% มีปริมาณแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ที่ 10 ดื่มมาตรฐาน
หรือลองใช้ เครื่องคำนวณปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด อัตโนมัติ คลิก >>