เมื่อพูดถึงเรื่องความสวยความงาม คุณก็น่าจะเคยได้ยินเรื่องความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องจำพวกนี้หรือเคยอ่านจากเว็บไซต์ต่างๆ ผ่านตามาไม่มากก็น้อย ซึ่งมันมีทั้งเรื่องจริงและเรื่องไม่จริง วันนี้เราจึงได้รวบรวมหลากความเชื่อเกี่ยวกับเครื่องสำอาง หรือเรื่องสวยๆ งามๆ ที่หลายคนน่าจะเคยได้ยินมาให้อ่านเป็นความรู้ แต่จะมีอะไรบ้างนั้น เราลองมาดูพร้อมกันเลยค่ะ
1.ควรเปลี่ยนมาสคาราทุก 3 เดือน
คุณควรเปลี่ยนมาสคาราใหม่ทุก 3 เดือนหลังใช้ เพราะด้วยความที่มันมีเนื้อที่เหลว ทำให้เอื้อต่อการเติบโตของแบคทีเรีย เมื่อคุณดึงแปรงมาสคาราเข้าออกทุกวัน แบคทีเรียก็จะอาศัยโอกาสนี้เข้าไปในหลอดมาสคารา หากคุณยังคงดึงดันใช้หลังจากผ่านไป 3 เดือน มันก็สามารถทำให้ตาติดเชื้อได้ค่ะ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
- หากคุณสังเกตว่าตาแดง ระคายเคือง หรือรู้สึกแสบร้อน ให้คุณลองคิดดูว่าคุณเริ่มใช้มาสคาราแท่งปัจจุบันเมื่อไร ถ้านานเกินกว่าที่เรากล่าวไป การซื้อมาสคาราแท่งใหม่ก็น่าจะปลอดภัยต่อดวงตามากกว่า
- การเก็บมาสคาราไว้ในสถานที่ๆ ไม่ถูกสุขอนามัยหรือสภาพแวดล้อมที่มีมลภาวะ ก็สามารถทำให้มาสคาราหมดอายุเร็วขึ้น
2.การใช้โทนเนอร์เป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับทุกสภาพผิว
โทนเนอร์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อคนที่มีผิวมันและใช้เพื่อป้องกันสิว นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมหลายคนถึงคิดว่าถ้าไม่ได้มีผิวมัน โทนเนอร์ก็ไม่ได้เป็นสิ่งจำเป็น อย่างไรก็ตาม มีโทนเนอร์ที่ผลิตออกมาเพื่อทุกสภาพผิว เพียงแต่คุณต้องเลือกใช้ให้เหมาะกับผิวของตัวเอง
- หากคุณต้องการผลัดเซลล์ผิวหรือมีผิวมัน ให้คุณใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิซิลิก กรดไกลโคลิก หรือกรด แลคติก
- สำหรับคนที่ผิวระคายเคือง ให้คุณใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของคาโมมายล์ แตงกวา หรือวิตามินอี
- หากคุณต้องการเพิ่มความชุ่มชื้น ให้คุณใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของกลีเซอรีน กรดไฮยาลูรอนิก และน้ำกุหลาบ
- หากต้องการลดจุดด่างดำ การใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซีสามารถช่วยได้
3.ยาสีฟันสามารถช่วยกำจัดสิวได้
สารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์และไตรโคซานในยาสีฟันสามารถช่วยให้สิวแห้ง เพราะยาสีฟันมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย ดังนั้นมันจึงช่วยป้องกันไม่ให้สิวขึ้น ถึงกระนั้นก็ตาม ส่วนผสมในยาสีฟันไม่ได้มีประสิทธิผลมากกว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้รักษาสิวโดยเฉพาะ
- ด้วยความที่ยาสีฟันมีฤทธิ์ทำให้แห้ง มันจึงสามารถทำให้ผิวที่ไวต่อการกระตุ้นระคายเคือง ทำให้ผิวแดง และตกสะเก็ด
- หากคุณสังเกตเห็นอาการเหล่านี้ ให้คุณเปลี่ยนยาสีฟันหรือเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์อื่น
4.ยาทาเล็บสีแดงทำให้เล็บกลายเป็นสีเหลือง
ข้อนี้ถือว่าเป็นความจริง เพราะเล็บดูดซึมเม็ดสีจากยาทาเล็บ ซึ่งวิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือ การทา Base coat ก่อนใช้ยาทาเล็บ ซึ่งมันจะช่วยดูดซับเม็ดสีส่วนเกิน และปกป้องนิ้วของคุณ หากคุณลืมใช้ Base coat ถ้ากลัวว่าเล็บจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ให้คุณรีบล้างเล็บให้เร็วที่สุด
5.นอนโดยไม่ล้างเมคอัพทำให้เกิดสิวหัวดำ
ในตอนกลางคืน ผิวของคุณจะมีการซ่อมแซมตัวเอง และกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วเพื่อให้เซลล์ใหม่มาทดแทน หากผิวของคุณปกคลุมไปด้วยเครื่องสำอาง รูขุมขนก็จะอุดตันและไปขัดขวางกระบวนการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ดังนั้นถ้าไม่อยากให้สิวชนิดต่างๆ มาเยี่ยมเยือน คุณก็ควรทำความสะอาดใบหน้าให้หมดจดทุกครั้งก่อนเข้านอน
6.การแว็กซ์ช่วยให้มีขนน้อยลง
การแว็กซ์ขนมีประสิทธิผลมากกว่าการโกนเพราะมันช่วยกำจัดเส้นขนจนถึงราก ซึ่งหมายความว่าขนจะใช้เวลางอกขึ้นมาใหม่นานขึ้น แม้ว่ามันไม่ได้หยุดการงอกของเส้นขนโดยสิ้นเชิง แต่การแว็กซ์ขนเป็นประจำสามารถช่วยยืดเวลาให้ผิวของคุณไร้ขนได้นานขึ้น เพราะมันทำให้เส้นขนอ่อนแอลงและทำให้รูขุมขนเสียหาย
7.ผิวคุ้นชินกับสกินแคร์เมื่อเวลาผ่านไป
ความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องสวยๆ งามๆ บางเรื่องอาจเป็นความจริงแค่ครึ่งเดียว และสิ่งที่เราจะกล่าวหลังจากนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ ทั้งนี้ผิวของคุณจะเริ่มคุ้นชินกับสกินแคร์โดยขึ้นอยู่กับส่วนผสมโดยเฉพาะวิตามินเอ แต่ไม่เกิดขึ้นกับส่วนผสมอื่นๆ อย่างสารแอนตี้ออกซิเด้นท์ มอยส์เจอไรเซอร์ และเปปไทด์ อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ความงามบางชนิดอาจให้ประโยชน์ที่คงที่เพราะมันไปถึงจุดที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผิวได้อีกต่อไป ในกรณีนี้คุณอาจต้องลองเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่
จากที่กล่าวไปจะเห็นได้ว่า มีความเชื่อหลายข้อที่เป็นความจริง ซึ่งเราหวังว่าสิ่งที่เรานำมาแชร์สามารถช่วยคลายความสงสัยให้คุณได้ไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ดี เราอยากให้คุณลองเก็บสิ่งเหล่านี้ไปพิจารณาเช่นกัน เพราะคุณจะได้สวยไปพร้อมกับมีสุขภาพดี
ที่มา: https://steptohealth.com/7-beauty-and-makeup-myths-that-are-actually-true/