ผู้ปกครองมักมีความกังวลมากเป็นพิเศษ เกี่ยวกับเชื้อโรคชนิดต่างๆที่มากับลม และกำลังเข้าสู้ร่างกายของลูกน้อย หลายท่านพยายามหาวิธีป้องกันสารพัดรูปแบบ เริ่มตั้งแต่หน้ากากป้องกันไปจนถึงการรับวัคซีน ซึ่งความจริงแล้ว การดูแลเอาใจใส่กับพฤติกรรมทั่วไปและการรักษาความสะอาดในชีวิตประจำวันก็มีส่วนช่วยดูแลสุขภาพลูกน้อยได้อย่างเพียงพอ
เราจึงนำ 10 เคล็ดลับการดูแลเด็กเล็ก (โดยเฉพาะเด็กที่อายุน้อยกว่า 7 ปี)
1. ล้างมืออย่างถูกต้อง
การล้างมือที่ถูกต้องควรใช้สบู่ถูให้ทั่วบริเวณมือ นิ้วมือ และเล็บมือ และควรถูอย่างน้อยเป็นเวลา 20 วินาที หรือเทียบเท่ากับการร้องเพลงช้าง 1 รอบ จากนั้นให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาดและเช็ดหรือเป่ามือให้แห้ง
โปรแกรมตรวจสุขภาพวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 99 บาท ลดสูงสุด 96%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
2. ไอและจามใส่กระดาษทิชชู่
การไอหรือจามโดยไม่ปิดปากนั้นเป็นการกระจายเชื้อโรคใส่ผู้อื่น แต่การปิดปากโดยใช้มือหรือผ้าเช็ดหน้าก็จะทำให้มีโอกาสรับเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้หากไม่ล้างมือทันที ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดก็คือการสอนให้เด็กไอหรือจามใส่กระดาษทิชชู่ แล้วทิ้งแผ่นที่ใช้แล้วทันที
3. ทำความสะอาดสิ่งของภายในบ้านอย่างสม่ำเสมอ
สิ่งของบางอย่างภายในบ้านนั้นเป็นพาหะนำโรคที่น่ากลัว โดยเฉพาะของเล่นของเด็ก ราวบันได ที่จับประตู ตะกร้าเสื้อผ้า เครื่องนอน และของใช้ในบริเวณห้องรับแขก ซึ่งผู้ปกครองควรใส่ใจในเรื่องความสะอาดของสิ่งของเหล่านี้
4. ไม่ใช้ขวดนมและแก้วน้ำซ้ำ
ผู้ปกครองควรหมั่นทำความาะอาดขวดนมและแก้วน้ำของเด็กอย่างสม่ำเสมอ เพราะความชื้นภายในภาชนะเหล่านีทำให้เชื้อโรคและแบคทีเรียเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี ในกรณีที่อยู่นอกบ้านควรสำรองขวดนมและแก้วน้ำไว้ในภาชนะที่แห้งและสะอาดด้วย และควรเปลี่ยนทันทีเมื่อทำตกลงพื้น
5. เลี่ยงการแตะต้องสิ่งของในที่สาธารณะ
สถานที่สาธารณะมักเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคเพราะขาดการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในร้านอาหารและห้างสรรพสินค้า ผู้ปกครองควรทำความสะอาดเก้าอี้และรถเข็นสำหรับเด็กด้วยกระดาษทิชชู่แบบเปียก หรือแม้แต่สิ่งของในโรงพยาบาลก็มักมีเชื้อโรคแฝงอยู่ เช่น ของเล่น หรือสมุดการ์ตูน
6. ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับเด็ก
สิ่งของเครื่องใช้บางชิ้นอาจมีเชื้อโรคที่ไม่แข็งแรงมากถึงขั้นเป็นอันตรายต่อผู้ใหญ่แต่ก็อาจส่งผลต่อสุขภาพของเด็กได้ เพราะภูมิคุ้มกันในเด็กที่อายุน้อยกว่า 7 ปีนั้นยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์เต็มที่ ผู้ปกครองจึงควรแยกของใช้ของตนออกจากของใช้ของเด็ก
7. ใส่เสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่น
ในช่วงฤดูหนาว แม้เราจะไม่รู้สึกเย็นแต่ร่างกายของเด็กอาจต้องการความอบอุ่นเพิ่มขึ้น ผู้ปกครองควรใส่ใจในเรื่องเครื่องแต่งกายของเด็ก เช่น ให้เด็กสวมเสื้อผ้าที่หนาขึ้นและปกปิดมิดชิด ในบางบริเวณที่อากาศหนาวมาก ผ้าพันคอและหมวกไหมพรหมช่วยเพิ่มความอบอุ่นได้ในขณะที่อยู่นอกบ้าน
โปรแกรมตรวจสุขภาพวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 99 บาท ลดสูงสุด 96%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
8. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
วิตามินซีนั้นเป็นสารอาหารที่จำเป็นมากเพราะมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างระบภูมิคุ้มกันของเด็กได้ การรับประทานผลไม้หรือน้ำผลไม้เป็นประจำจะทำให้เด็กไม่เจ็บป่วยง่าย
9. ชำระร่างกายด้วยอุณหภูมิน้ำที่เหมาะสม
ผิวหนังของเด็กนั้นมีความอ่อนบางมาก หากใช้น้ำเย็นชำระร่างกายโดยเฉพาะในฤดูหนาว เด็กอาจมีอาการหนาวสั่นและเป็นหวัดได้ แต่หากน้ำที่ใช้อาบนั้นร้อนเกินไป (แม้ผู้ใหญ่จะรู้สึกว่าไม่ร้อนเกินไปก็ตาม) ผิวหนังของเด็กอาจพุพองได้ การใช้เครื่องทำน้ำอุ่นในการปรับอุณหภูมิของน้ำจึงเป็นสิ่งที่แนะนำ นอกจากนี้ควรเช็ดร่างกายและผมของเด็กให้แห้งทันที
10. เลี่ยงการสัมผัสร่างกายเด็กมากเกินไป
ผู้ปกครองควรชำระล้างร่างกายทุกครั้งหลังจากกลับเข้ามาในบ้านและก่อนที่จะสัมผัสเด็กเล็ก รวมไปถึงการเลี่ยงไม่ให้ผู้อื่นสัมผัสเด็กเมื่ออยู่นอกบ้าน เพราะในแต่ละวันเราสัมผัสเชื้อโรคมากมายที่อาจไม่ทำให้เราระคายเคืองร่างกายแม้แต่น้อย แต่เชื้อโรคเหล่านี้สามารถทำให้เด็กเล็กไม่สบายได้