เมื่อพูดโรคในประเทศเขตร้อน นอกจากมาลาเลียแล้วหลายคนคงจะคิดถึง “โรคเท้าช้าง” เป็นหนึ่งในนั้นด้วย โดยโรคนี้เป็นโรคที่ทางองค์การอนามัยโลกได้เคยกำหนดว่า ควรจะกำจัดให้หมดไปจากโลกภายในปี 2563
แต่จนถึงปัจจุบัน โรคเท้าช้างก็ยังคงมีระบาดอยู่ในหลายพื้นที่ทั่วโลก สำหรับประเทศไทยก็มีโครงการที่จะกำจัดโรคเท้าช้างให้หมดไปจากประเทศ
กายภาพบำบัดและนวดเพื่อการรักษาวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 198 บาท ลดสูงสุด 92%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ซึ่งในปี 2560 ประเทศไทยก็ได้รับรางวัล Public Health Achievement จากองค์การอนามัยโลก ในฐานะที่สามารถกำจัดโรคเท้าช้างออกไปจนหมดประเทศเป็นผลสำเร็จ
อย่างไรก็ตาม ทางกรมควบคุมโรคยังมีรายงานว่า พยาธิฟิลาเรียซึ่งเป็นตัวการทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคเท้าช้างในประเทศไทยนั้นก็ยังคงมีอยู่ และยังพบผู้ติดเชื้อโรคนี้อยู่ในบางพื้นที่ แต่จัดยังอยู่ในเกณฑ์จำนวนผู้ป่วยที่ต่ำมากอยู่
เรามาดูกันว่า โรคเท้าช้างคืออะไร อะไรกันแน่ที่เป็นพาหะนำโรคนี้จนทำให้กลายเป็นโรคที่คนไทยหลายคนต้องเผชิญ
ความหมายของโรคเท้าช้าง
โรคเท้าช้าง (Elephantiasis หรือ Lymphatic filariasis) คือ โรคติดต่อที่ระบาดหนักในประเทศเขตร้อนซึ่งเกิดจากการติดเชื้อพยาธิตัวกลม หรือพยาธิฟิลาเรีย 2 ชนิด โดยมียุงเป็นพาหะนำโรค ได้แก่
- พยาธิวูเชอรีเรีย แบนครอฟไต (Wuchereria bancrofti) พบมากในจังหวัดที่ติดกับประเทศพม่า เช่น จังหวัดตาก จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดแม่ฮ่องสอน มียุงลายป่า (Aedes aegypti) เป็นพาหะนำโรค และยังมักติดต่อได้จากแรงงานชาวพม่าที่ลักลอบเข้ามาในประเทศไทยด้วย
- พยาธิบรูเกีย มาลาไย (Brugia malayi) พบมากในจังหวัดทางภาคใต้ของประเทศไทย เช่น จังหวัดชุมพร จังหวัดนราธิวาส มียุงเสือ (Mansonia) เป็นพาหะนำโรค
นอกจากพยาธิฟิลาเรียทั้ง 2 ชนิดที่กล่าวไปข้างต้น ยังมีพยาธิฟิลาเรียอีกชนิดที่ก่อให้เกิดโรคเท้าช้างได้ ชื่อว่า “พยาธิบรูเกีย ไทมาริ (Brugia timari)
พยาธิฟิลาเรียทั้ง 3 ตัวนี้ไม่ได้ก่อโรคเท้าช้างแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงประเทศเขตร้อนอื่นๆ เช่น ประเทศแอฟริกา หมู่เกาะแปซิฟิก หรือทวีปอเมริกาใต้ด้วย ดังนั้นโรคเท้าช้างในประเทศไทยกับประเทศอื่นๆ จึงไม่ได้แตกต่างกัน
กายภาพบำบัดและนวดเพื่อการรักษาวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 198 บาท ลดสูงสุด 92%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
อาการของโรคเท้าช้าง
โรคเท้าช้างจะเกิดขึ้นเมื่อยุงลายที่มีพยาธิฟิลาเรียเจริญเติบโตอยู่ข้างในตัวมากัดผิวหนังของเรา พยาธิจะเคลื่อนที่จากปากของยุงเข้าสู่กระแสเลือดผู้ถูกกัด และไปเจริญเติบโตอยู่ในระบบทางเดินน้ำเหลืองของร่างกายผู้ถูกยุงกัด
เมื่อพยาธิเจริญเติบโตเต็มที่ในหลอดน้ำเหลือง จากนั้นเมื่อเติบโตเต็มที่พยาธิก็จะปล่อยสารกระตุ้นที่ทำให้หลอดน้ำเหลืองขยายตัว มีแรงดันเพิ่มขึ้น ภูมิคุ้มกันร่างกายเกิดการตอบสนองออกมาเป็นอาการแพ้ ซึ่งจะมีอาการดังต่อไปนี้
- มีไข้สูง
- ปวดศีรษะ
- คลื่นไส้อาเจียน
- อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
- เบื่ออาหาร
- เหงื่อออกมาก
- อวัยวะบางส่วนบวม ซึ่งเกิดการอักเสบ และขยายตัวของหลอดน้ำเหลืองที่มีพยาธิเข้าไปเติบโต เช่น แขน เต้านม ขา ขาหนีบ อวัยวะเพศ เท้า ผิวหนังบริเวณที่บวมยังจะขรุขระ และหยาบผิดปกติด้วย
อาการของโรคเท้าช้างโดยปกติจะกินระยะเวลาเป็นปี หรืออาจหลายปี โดยโรคนี้มีอาการแบบเป็นๆ หายๆ ปีละประมาณ 5-6 ครั้ง ครั้งละประมาณ 3-5 วัน แล้วอาการของโรคก็จะดีขึ้น แล้วก็จะกลับมามีอาการใหม่อีก
เนื่องจากโรคเท้าช้างเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้ในระยะเวลาอันสั้น ในระหว่างที่อาการของโรคดำเนินอยู่ จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนบางอย่างได้ เช่น
- หลอดเลือดดำคั่ง โดยเป็นผลกระทบมาจากอวัยวะส่วนที่บวมมีการเคลื่อนไหวน้อย และระบบทางเดินน้ำเหลืองมีความผิดปกติ จนทำให้ความดันในหลอดเลือดดำสูงขึ้น และจะยิ่งทำให้อวัยวะส่วนนั้นมีความบวม
- การติดเชื้อแบคทีเรียชนิดอื่นๆ ซ้ำซ้อน ซึ่งมักเกิดจากอวัยวะส่วนที่บวมถูกแมลงกัด ติดเชื้อรา และการติดเชื้อแบคทีเรียอาจลุกลามไปถึงในกระแสเลือด ส่งผลให้ผู้ป่วยมีไข้สูง ปวดศีรษะ รู้สึกหนาวสั่น และปวดเมื่อยตามตัวได้ด้วย
- ปัสสาวะเป็นสีขาว มีน้ำเหลืองในช่องท้อง ซึ่งเกิดจากความดันในหลอดน้ำเหลืองสูงมากจนน้ำไหลเข้าไปในไต นอกจากนี้ยังทำให้ขับถ่ายปัสสาวะ และอุจจาระลำบากด้วย
วิธีรักษาโรคเท้าช้าง
วิธีรักษาโรคเท้าช้างจะเป็นแนวทางการรักษาแบบประคับประคองตามอาการ รวมถึงต้องมีการทำความสะอาดอวัยวะบริเวณที่บวมให้สะอาดอยู่เสมอเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
คำแนะนำในการรักษาโรคเท้าช้างจะมีดังต่อไปนี้
กายภาพบำบัดและนวดเพื่อการรักษาวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 198 บาท ลดสูงสุด 92%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
- ทำกายภาพบำบัดอวัยวะส่วนที่บวม เพื่อให้เลือดไหลเวียนบริเวณอวัยวะดังกล่าวได้ดี และลดความดันในหลอดเลือด เช่น
หากขาบวม ก็ให้หมั่นยกขาข้างที่บวมให้สูงเพื่อเพิ่มการไหลเวียน และลดความดันโลหิตในหลอดเลือดดำ โดยให้ยกขาขึ้นสูงประมาณ 30 เซนติเมตรเหนือระดับหัวใจ ทำทุกวัน วันละ 2-4 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที - ฝึกหายใจเข้าออกลึกๆ แล้วกลั้นหายใจชั่วครู่หนึ่ง ก่อนจะผ่อนออกทางปาก เพื่อช่วยให้การไหลเวียนของน้ำเหลืองในร่างกายทำงานได้ดี และสมดุลยิ่งขึ้น
- หมั่นใช้น้ำสะอาด และสบู่ทำความสะอาดอวัยวะที่บวม หากมีอาการติดเชื้อรา ก็อาจไปพบแพทย์เพื่อขอให้จ่ายยาทาฆ่าเชื้อราให้ด้วย
- ทำกายภาพบำบัด หากอวัยวะที่บวมส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของร่างกาย ทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- ให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำเพื่อฆ่าเชื้อ ในกรณีที่ผู้ป่วยติดเชื้อแบคทีเรีย
- ให้ยาลดไข้ หรือยาแก้ปวด หากผู้ป่วยมีอาการปวดตามตัว มีไข้สูง หรือหนาวสั่น
- รับประทานยารักษาโรคเท้าช้างซึ่งสั่งจ่ายโดยแพทย์ ซึ่งปัจจุบันยารักษาโรคนี้มีอยู่ 2 ตัวได้แก่ ยาไดเอทิลคาร์บามาซีน (Diethyl- Carbamazine: DEC) และยาอัลเบนดาโซล (Albendazole)
ยารักษาโรคเท้าช้างจำเป็นต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น เพราะมีข้อบ่งใช้ในการรักษาตามชนิดของพยาธิที่ทำให้เกิดโรคเท้าช้าง
ผู้ป่วยที่เป็นโรคซึ่งเกิดจากพยาธิฟิลาเรียตัวอื่นห้ามใช้ยารักษาโรคเท้าช้างมารักษาอาการของตัวเองเด็ดขาด เพราะสามารถส่งผลให้เกิดอาการแทรกซ้อนรุนแรงได้ เช่น ตาอักเสบ เกิดภาวะสมองอักเสบ
นอกจากการรักษาด้วยยา และการดูแลตนเองอย่างเหมาะสมแล้ว แพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยเข้ารับการผ่าตัดเพื่อตัดแต่ง หรือศัลยกรรมอวัยวะที่เคยบวมโตที่คืนสภาพกลับมาขนาดเท่าเดิม แต่มีรูปร่างไม่สวยงาม หรือพื้นผิวหนังไม่เนียนเหมือนแต่ก่อนให้ออกมาสวยงามขึ้น
นอกจากนี้การผ่าตัดยังรวมถึงตัดแต่ง หรือศัลยกรรมอวัยวะใกล้เคียงที่เสียหายหนักจากอาการบวมของโรคเท้าช้าง เช่น ถุงอัณฑะ
โรคเท้าช้างหากไม่เข้ารับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ก็จะส่งผลให้อวัยวะส่วนที่บวมขึ้นเสียรูปร่างจนอาจไม่สามารถกลับมามีลักษณะปกติเหมือนแต่ก่อนได้อีก ทั้งยังอาจทำให้ผู้ป่วยต้องตัดต่อมน้ำเหลืองทิ้งเพื่อลดผลกระทบจากโรคนี้
นอกจากนี้โรคเท้าช้างที่ไม่รับการรักษายังจะส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของผู้ป่วย ผู้ป่วยบางรายจะไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้สะดวกดังเดิม หรือบางรายอาจเคลื่อนไหวไม่ได้เลยหากอวัยวะบวมมาก และยังทำให้ผู้ป่วยมีน้ำหนักมากขึ้นจากอาการบวมมากถึง 10-20 กิโลกรัม
วิธีป้องกันโรคเท้าช้าง
วิธีป้องกันโรคเท้าช้างที่ดีที่สุด คือ อย่าให้ยุงกัดเราได้ เพราะยุงเป็นพาหะสำคัญที่นำพยาธิฟิลาเรียเข้าสู่ร่างกาย คุณจึงต้องระมัดระวังอย่าให้มียุงชุกชุมในที่อยู่อาศัย หมั่นกำจัดลูกน้ำตามแหล่งน้ำในภายในบ้าน รวมถึงวัชพืช และพืชน้ำซึ่งเป็นที่เพาะพันธุ์ลูกน้ำได้
นอกจากนี้หากต้องไปในสถานที่ที่มียุงชุกชุม ก็ควรพกสเปรย์กันยุง หรือโลชั่นป้องกันยุงกัดติดตัวไปด้วย
โรคเท้าช้างเป็นโรคติดต่อเรื้อรังที่ต้องใช้ระยะเวลาในการรักษา และประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศที่มีอากาศร้อนชื้น และมีแรงงานข้ามชาติเข้ามาทำงานเป็นจำนวนมากจึงถือเป็นประเทศกลุ่มเสี่ยงที่มีการระบาดของโรคเท้าช้างอยู่จนถึงปัจจุบัน
คุณจึงต้องระมัดระวังอย่าให้ยุงกัดได้ และหากมีอาการอวัยวะบวมเกิดขึ้น ร่วมกับมีอาการไข้ขึ้น อ่อนเพลีย ก็อย่าลังเลที่จะไปพบแพทย์เพื่อขอรับการวินิจฉัยว่า เป็นโรคเท้าช้างหรือไม่ จะได้รีบทำการรักษา ก่อนที่ตัวพยาธิจะเข้าไปทำอันตรายต่อระบบอื่นๆ ของร่างกายมากกว่าเดิม
เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจสุขภาพทั่วไป จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android