การบำบัดนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาในผู้ป่วยวัยรุ่นที่เป็นโรคเอดีเอชดีส่วนใหญ่ หากคุณต้องเข้ารับการบำบัด คุณจะมีนัดพบกับนักบำบัดเป็นประจำเพื่อช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากเป็นโรคเอดีเอชดี
ในระหว่างการบำบัดผู้ป่วยจะได้เรียนรู้ทักษะที่บกพร่องจากการเป็นโรคเอดีเอชดีเช่นการฟังและการใส่ใจสิ่งรอบข้างให้ดีขึ้น
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ผู้ป่วยที่เป็นโรคเอดีเอชดีบางคนอาจจะได้รับการบำบัดอีกประเภทหนึ่งเรียกว่าการทำกิจกรรมบำบัด การบำบัดนี้จะช่วยทักษะเช่นการทรงตัวหรือการเขียนหนังสือที่มีปัญหาจากการเป็นโรคเอดีเอชดีหรือโรคการเรียนรู้ช้า
การรักษาโรคเอดีเอชดีนั้นมักมีการใช้ยา ยาเหล่านี้จะเพิ่มการทำงานของสมองและทำให้สามารถใส่ใจสิ่งต่างๆควบคุมตนเองและกระสับกระส่ายลดลง ยานี้จะมีประสิทธิภาพสูงที่สุดเมื่อใช้ร่วมกับการบำบัดเพื่อสอนวิธีการใช้ทักษะต่างๆ
ทำไมผู้ป่วยจึงต้องการบำบัด
การบำบัดนั้นจะช่วยให้วัยรุ่นที่เป็นโรคเอดีเอชดีใช้ชีวิตอยู่ที่โรงเรียนและที่บ้านได้ดีขึ้นตัวอย่างเช่นผู้ป่วยจะเรียนรู้
การตั้งสมาธิกับบทเรียน
- การฟังและให้ความสนใจกับสิ่งต่างๆได้ดีขึ้น
- การเข้าสังคมกับคนอื่น
- มีปัญหาพฤติกรรมลดลง
ผู้ป่วยบางคนอาจต้องการการบำบัดเพื่อลดอารมณ์ที่รุนแรงซึ่งเกิดจากโรคเอดีเอชดีตัวอย่างเช่นผู้ป่วยอาจรู้สึกสูญเสียความมั่นใจหรือรู้สึกว่าตัวเองทำให้คนรอบข้างหงุดหงิดซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยบางรายมีอาการซึมเศร้าหรือกังวลและกระสับกระส่ายได้เมื่อผู้ป่วยได้เรียนรู้ทักษะที่จะจัดการกับโรคเอดีเอชดีแล้วพวกเขาก็จะสามารถใช้ชีวิตได้ดีขึ้นการบำบัดนี้ยังช่วยให้พวกเขามีความสุขและมีความมั่นใจมากขึ้นอีกด้วย
การบำบัดโรคเอดีเอชดีนั้นจะช่วยได้อย่างไร
ในการบำบัดนั้นผู้ป่วยจะได้เรียนรู้จากการทำ นักบำบัดจะใช้กิจกรรมและแนวต่างๆเพื่อเน้นการสร้างทักษะที่ผู้ป่วยต้องการเช่นทักษะการเรียน ทักษะการใส่ใจกับอารมณ์ของคนรอบข้างหรือการหายใจ
ในระหว่างการบำบัดหากผู้ป่วยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้บำบัดนั้นก็จะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกมีกำลังใจและได้รับการสนับสนุนในระหว่างที่เรียน
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ในระหว่างการบำบัดนั้นมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
ในช่วงแรกของการบำบัดนักบำบัดจะเริ่มจากการพูดคุยถามคำถาม และฟังถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจากการเป็นโรคเอดีเอชดี ก่อนที่จะร่วมกันวางแผนการรักษาเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องการพัฒนา
ในระหว่างการบำบัดผู้ป่วย นักบำบัดอาจจะ
พูดคุย: นักบำบัดมักจะกระตุ้นให้ผู้ป่วยพูดเกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึกของตนซึ่งจะช่วยให้พวกเขาเข้าใจความรู้สึกเหล่านี้และแสดงมันออกมาในรูปแบบของการพูดแทนการ กระทำ การพูดและการฟังจะช่วยให้ผู้อื่นเข้าใจผู้ป่วยและเปิดใจรับผู้ป่วย นอกจากนั้นยังช่วยให้ผู้ป่วยเรียนรู้ที่จะใส่ใจและตั้งใจฟังมากขึ้น
ทำกิจกรรมช่วยสอน: นักบำบัดมักจะมีการสอนบทเรียนต่างๆเกี่ยวกับอารมณ์การจัดการกับกิจกรรมที่โรงเรียน การเรียนหรือการทำความเข้าใจผู้อื่นซึ่งอาจมีกิจกรรมหรือแบบฝึกหัดเพื่อทำให้การเรียนเหล่านี้น่าสนใจมากขึ้น
ฝึกฝนทักษะใหม่ๆ: นักบำบัดมักจะสอนทักษะต่างๆเช่นการทำสมาธิและการฝึกหายใจ ทักษะเหล่านี้จะทำให้ผู้ป่วยสงบลงและมีสมาธิดีขึ้น ในระหว่างการบำบัดนักบำบัดจะให้ผู้ป่วยเรียนรู้จากการทำ
การแก้ปัญหา: นักบำบัดจะถามผู้ป่วยเกี่ยวกับปัญหาที่โรงเรียนและที่บ้านซึ่งเกิดจากการเป็นโรคเอดีเอชดีก่อนที่จะเริ่มพูดคุยถึงปัญหาดังกล่าวและหาวิธีแก้ไขปัญหาเหล่านั้น
ผู้ป่วยจะต้องเข้ารับการบำบัดโรคเอดีเอชดีนานเท่าไหร่
ระยะเวลาที่ต้องบำบัดนั้นจะขึ้นกับเป้าหมายของการรักษาส่วนมากนักบำบัดจะนัดพบคุณสัปดาห์ละครั้งเป็นเวลาติดต่อกันหลายเดือน
คุณจะช่วยตัวเองได้อย่างไร
การเป็นโรคเอดีเอชดีนั้นไม่ใช่ความผิดของคุณแต่มันมีทักษะหลายอย่างที่คุณสามารถเรียนรู้ได้จากการบำบัดที่จะช่วยให้คุณมีชีวิตที่ดีขึ้น ตัวอย่างต่อไปนี้เป็นวิธีที่จะช่วยให้คุณพัฒนาสิ่งที่คุณได้เรียนรู้จากการบำบัด
- เตรียมพร้อมที่จะเติบโต แม้ว่าคุณจะเป็นโรคเอดีเอชดีคุณก็สามารถมีสมาธิอารมณ์และพฤติกรรมที่ดีขึ้นได้
- ขอความช่วยเหลือ บอกผู้ปกครอง ครูหรือและเพื่อนเพื่อขอความช่วยเหลือและการสนับสนุนนอกจากนั้นนักบำบัดก็สามารถช่วยคุณได้เช่นกัน
- หากคุณรับประทานยาให้รับประทานตามที่แพทย์สั่งตามเวลาและขนาดที่กำหนด
- เน้นข้อดีของคุณ ลองใช้เวลาในการสังเกตและพัฒนาฝึกฝนสิ่งที่เป็นข้อดีของคุณ วิธีนี้จะช่วยให้คุณมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น
- ดูแลสุขภาพตัวเอง ออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์และนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ฝึกเทคนิคการหายใจและการทำสมาธิ