เมื่อพูดถึง “กรดอะซิติก” หลายคนคงไม่รู้จัก หรือคุ้นชื่อนี้มากนัก ซึ่งความจริงแล้วกรดอะซิติกเป็นสารประกอบที่อยู่ในอาหาร และผลิตภัณฑ์ที่หลายคนใช้ในชีวิตประจำวันหลายอย่าง
เรามาดูกันว่า กรดอะซิติกคืออะไร มีประโยชน์อย่างไรต่อสุขภาพบ้าง
โปรแกรมตรวจสุขภาพวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 99 บาท ลดสูงสุด 96%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ความหมายของกรดอะซิติก
กรดอะซิติก (Acetic acid หรือ ethanoic acid) หรือกรดน้ำส้มคือ สารประกอบเคมีที่เกิดจากสังเคราะห์ของกรดคาร์บอกซิลิก (Carboxylic acids) กับสารต้านเชื้อแบคทีเรีย (Antibacterial) มีสูตรโมเลกุล คือ CH3COOH หรือ CH3CO2H
กรดอะซิติกมีลักษณะเป็นของเหลวสีใส มีความเป็นกรด มีกลิ่นฉุนปนเปรี้ยว และระเหยได้ช้า
กรดอะซิติกมักใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตหลายอย่าง อุตสาหกรรมที่สำคัญ ได้แก่
- อุตสาหกรรมผลิตน้ำส้มสายชู กรดอะซิติกจัดเป็นสารตั้งต้นในการสกัดหัวกรดน้ำส้ม เพื่อนำไปผลิตน้ำส้มสายชูเทียมต่อไป ความเข้มข้นของกรดอะซิติกจะอยู่ที่ประมาณ 4-7%
- อุตสาหกรรมผลิตยางแผ่นรมควัน กรดอะซิติกจัดเป็นสารตัวจับยางสำคัญที่ทำให้ยางมีความยืดหยุ่น และหนืดดีขึ้น
- อุตสาหกรรมผลิตแว่นตา กรดอะซิติกสามารถนำไปผลิตเป็น “มีทอล อาซีเตด (Metal acetate)” ซึ่งเป็นของแข็งคล้ายพลาสติกที่นิยมใช้ทำเป็นขาแว่นในปัจจุบัน
- อุตสาหกรรมสื่อสิ่งพิมพ์ ผลิตป้ายไวนิล ล้างฟิล์มถ่ายภาพ กรดอะซิติกใช้ในการผลิต “ไวนิล อาซีเตด (Vinyl acetate) ซึ่งเป็นวัสดุสำหรับผลิตบรรจุภัณฑ์ แผ่นป้ายต่างๆ
- อุตสาหกรรมผลิตวัสดุงานศิลปะ โดยจะใช้กรดอะซิติกในการผลิต “บิวทิว อาซีเตด (Butyl acetates) ซึ่งเป็นสารตัวทำละลายที่ใช้การผลิตเรซิน สีทาภาพ และแลกเกอร์
ประโยชน์ต่อสุขภาพของกรดอะซิติก
การรับกรดอะซิติกเข้าร่างกายจะอยู่ในรูปของอาหาร ซึ่งจะอยู่ในน้ำส้มสายชูเป็นหลัก นอกจากนี้ยังสามารถพบกรดอะซิติกได้ในน้ำสลัด ซอสปรุงรสบางชนิดด้วย
โดยประโยชน์ของกรดอะซิติกที่มีต่อร่างกาย โดยหลักๆ ได้แก่
- ฆ่า และยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียซึ่งทำให้เกิดวัณโรค (Tuberculosis) และโรคเรื้อน (Leprosy)
- ใช้ในการฆ่าเชื้อโรคในกรณีเกิดภาวะหูติดเชื้อ (Ear infections) เชื้อราที่เล็บ (Nail fungus) โรคหูด (Warts) เป็นเหา (Lice)
- ลดระดับความดันโลหิตที่สูงเกินไป ซึ่งเสี่ยงเกิดโรคหัวใจในภายหลังได้ ผ่านการลดระดับเอนไซม์เรนิน (Renin) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับระดับความดันโลหิตโดยตรง
- ช่วยลดน้ำหนัก และลดความเสี่ยงการเกิดโรคเบาหวาน โดยการรักษาระดับน้ำตาลในเลือดและระดับสารอินซูลินให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม ประโยชน์ของกรดอะซิติกที่มีต่อร่างกายที่กล่าวไปข้างต้นนั้นค่อนข้างเล็กน้อยและต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสม หากรับแต่เพียงกรดอะซิติกอย่างเดียวเพื่อบำรุงสุขภาพมักจะไม่เห็นผลชัด หรืออาจไม่เห็นผลลัพธ์เลย
โปรแกรมตรวจสุขภาพวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 99 บาท ลดสูงสุด 96%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ดังนั้นการใช้กรดอะซิติกเพื่อรักษาโรคจะต้องทำร่วมกับการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงรับประทานยารักษาโรค และความผิดปกติที่เกิดขึ้นด้วย ผลลัพธ์จากการใช้กรดอะซิติกเพื่อบำรุงสุขภาพจึงจะได้ผลดีที่สุด
ข้อควรระวังในการใช้กรดอะซิติก
กรดอะซิติกอาจมีประโยชน์หลายด้านต่อสุขภาพ แต่หากรับเข้าร่างกายอย่างไม่เหมาะสม หรือรับในปริมาณมากเกินไปก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายได้
อันตรายจากการใช้กรดอะซิติกไม่เหมาะสม มีดังนี้
- เกิดอาการแน่นท้อง รู้สึกเบื่ออาหาร จากการรับประทานน้ำส้มสายชูและเครื่องปรุงที่มีกรดอะซิติกมากเกินไป ผู้ที่เป็นโรคกระเพาะ หรือมักเกิดอาการแน่นท้องควรหลีกเลี่ยงการรับประทานน้ำส้มสายชูมากกว่า 1 ช้อนชาต่อครั้ง และไม่ควรรับประทานต่อเนื่องกัน
- อาจเกิดอาการผิวไหม้ ระคายเคืองผิวหนัง หากทา หรือสัมผัสสารกรดที่ผิวหนังโดยตรง
- ชั้นเคลือบฟันสึกกร่อน โดยมักเกิดจากการรับประทานน้ำส้มสายชูมากเกินไป ร่วมกับการดื่มน้ำผลไม้บ่อยๆ ทำให้ชั้นเคลือบฟันที่ป้องกันไม่ให้ฟันผุสึกกร่อนลง จากความเป็นกรดของเครื่องดื่มชนิดดังกล่าวและกรดจากน้ำส้มสายชู
- เจ็บคอ เพราะน้ำส้มสายชูมีฤทธิ์เป็นกรดที่เข้าไปสร้างความระคายเคืองให้กับหลอดอาหารได้
- ทำให้ประสิทธิภาพของยาบางชนิดลดลง โดยยาที่มักทำปฏิกิริยากับกรดอะซิติกจนประสิทธิภาพในการรักษาโรคลดลง ได้แก่ ยารักษาโรคเบาหวาน ยาลดระดับโพแทสเซียมในเลือดอย่างยาไดจอกซิน (Digoxin) ยาขับปัสสาวะ
- เกิดอาการแพ้สารอะซิติก แต่มักเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก อย่างไรก็ตาม หากคุณรับประทานน้ำส้มสายชู หรืออาหารที่มีส่วนประกอบของกรดอะซิติก ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากกรดอะซิติกแล้วมีอาการระคายเคืองผิว คลื่นไส้อาเจียน หายใจไม่ออก ซึ่งเป็นอาการแพ้สารอะซิติก ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
นอกจากนี้หากต้องการความมั่นใจในเรื่องการแพ้อาหาร เพื่อจะได้หลีกเลี่ยงการรับประทาน ป้องกันไม่ให้เกิดการแพ้ตามมา ปัจจุบันหลายแห่งมีบริการตรวจภูมิแพ้อาหารและตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงแล้ว
- กรดอะซิติกเป็นสารวัตถุไวไฟ หากที่อยู่อาศัย หรือสถานที่ทำงานมีกรดชนิดนี้อยู่ ให้ระมัดระวังในระหว่างปฏิบัติงานให้มาก โดยเก็บไว้ในที่มิดชิด แห้ง อุณหภูมิไม่สูง และเก็บให้พ้นมือเด็ก
กรดอะซิติกเป็นกรดที่มีส่วนบำรุงสุขภาพได้ แต่เพราะคนส่วนมากรับสารนี้เข้าร่างกายในรูปแบบของเครื่องปรุง ซึ่งเป็นปริมาณเพียงเล็กน้อย จึงอาจยังไม่เห็นผลลัพธ์จากการใช้สารนี้มากมาย
นอกจากนี้อาหารชนิดอื่นที่รับประทานร่วมเข้าไปก็อาจกดการออกฤทธิ์ของกรดอะซิติกได้ จึงทำให้ไม่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของสุขภาพชัดเจน
กรดอะซิติกยังมีผลกระทบต่อร่างกายได้หากใช้อย่างไม่เหมาะสม ทางที่ดีหากคุณมีโรคประจำตัว หรือมีภาวะความผิดปกติใดๆ ในร่างกาย ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อขอรับคำปรึกษาเกี่ยวกับวิธีรักษาจะดีที่สุด ไม่ควรรักษาด้วยตนเองอย่างเด็ดขาด
เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจสุขภาพทั่วไป จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android