อาการท้องผูกที่เกิดขึ้นกับผู้หญิง นั้นอาจเป็นเรื่องที่ไม่ร้ายแรงเท่าไหร่ แต่อาการท้องผูกนั้นจะทำให้เกิดอาการเจ็บปวดที่แสนทรมาน เพราะอุจจาระไม่ออก มีอุจจาระที่แข็งและแห้ง อาการท้องผูกนี้จะมีหลายสาเหตุ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดจากนิสัยการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการกิน นิสัยการขับถ่าย หลายคนอาจสงสัยว่ามันมีสาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้ท้องผูกขนาดนี้ และจะมีวิธีการรักษาได้อย่างไร มาดูกัน
ชอบอั้นอุจจาระจนเป็นนิสัย
อาจจะอั้นอุจาระจนเป็นนิสัยจนทำให้ระบบการขับถ่ายทำงานผิดปกติ ส่งผลให้อุจจาระไปรออยู่ที่บริเวณลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย จากนั้นก็จะกระตุ้นให้เกิดการขับถ่าย ด้วยการสะสมของอุจจาระจึงทำให้การขับถ่ายเป็นไปได้ยาก จึงต้องใช้เวลานานในการขับถ่ายในแต่ละครั้ง ซึ่งเกิดจากอุจาระแห้ง และแข็งเนื่องจากน้ำในลำใส้ได้ถูกดูดกลับไปจึงส่งผลให้ถ่ายอุจจาระออกมายากนั่นเอง
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
การทานอาหารที่มีเส้นใยน้อยเกินไป
คุณรับประทานอาหารที่มีเส้นใยน้อยเกินไปหรือเปล่า ทั้งนี้ก็เพราะเส้นใยจะเป็นตัวช่วยให้ระบบขับถ่ายของเราทำงานได้คล่องมากขึ้น ซึ่งเมื่อร่างกายได้รับเส้นใยในปริมาณที่น้อยเกินไป ก็จะทำให้เกิดอาการท้องถูกได้
เคลื่อนไหวร่างกายน้อยก็มีผล
การนั่งทำงานนานๆจะทำให้ลำไส้ของคุณบีบตัว ทำให้เกิดอุจาระตกค้างที่ลำไส้ใหญ่เป็นเวลาหลายวัน จึงส่งผลให้เกิดอาการท้องผูก แน่นท้อง และอาจนำมาซึ่งโรคริดสีดวงทวารได้
ดื่มน้ำไม่เพียงพอ
น้ำเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้อุจจาระขับถ่ายออกมาได้ง่ายขึ้น ซึ่งเมื่อคุณดื่มน้ำน้อยเกินไป ก็จะทำให้อุจจาระแห้งแข็ง เป็นผลให้ขับถ่ายได้ยาก
เครียดมากไป
ความเครียดจะทำให้คุณทานอาหารได้น้อย นอนไม่หลับแล้วยังส่งผลต่อระบบการขับถ่ายอย่างมาก ดังนั้นจึงไม่ควรปล่อยให้ตัวเองต้องเครียดมากเกินไป เพราะไม่เพียงแต่จะก่อให้เกิดปัญหาท้องผูกเท่านั้น แต่ยังอาจจะนำโรคภัยต่างๆ มาสู่คุณได้อีกด้วย
อาการท้องถูก สามารถดูแลรักษาได้ดังนี้
- หากคุณท้องผูกบ่อยจนเกินไปคุณสามารถกินยาระบายเพื่อช่วยในการขับถ่ายได้ แต่ก็ไม่ควรกินบ่อย เพราะอาจส่งผลเสียต่อลำไส้ได้เช่นกัน
- คุณจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การกิน การขับถ่ายให้ถูกต้อง เลือกทานผักผลไม้เยอะๆซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะแก้ปัญหาท้องผูกได้ อีกทั้งผักผลไม้ที่มีเส้นใยอาหารจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ด้วย
- หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อเป็นการกระตุ้นระบบขับถ่ายให้ทำงานดีขึ้น
- ดื่มน้ำให้เพียงพอตามที่ร่างกายต้องการวันละ 8-10 แก้ว
- ฝึกการขับถ่ายให้เป็นนิสัยด้วยการเข้าห้องน้ำเพื่อขับถ่ายอุจจาระทุกเช้า และที่สำคัญคือไม่ควรอั้นอุจจาระเด็ดขาด
เมื่อรู้สาเหตุของอาการท้องผูกแล้ว ก็ควรปรับพฤติกรรมกันเสียใหม่ เพื่อให้การขับถ่ายดีขึ้น และที่สำคัญควรหันมาดูแลสุขภาพของตัวเอง ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์พร้อมฝึกการขับถายให้เป็นนิสัย แล้วอาการท้องผูกจะหายไปในทันที แถมยังนำพามาซึ่งสุขภาพดีแข็งแรงอีกด้วย