สายตาเอียง (Astigmatism หรือ Cylinder) เป็นสายตาผิดปกติที่เกิดจากโครงสร้างลูกตาประเภทหนึ่งนอกเหนือจากสายตาสั้น (Myopia) และสายตายาวโดยกำเนิด (Hyperopia หรือ Hypermetropia) โดยผู้ที่มีสายตาผิดปกติอาจมีสายตาเอียงอย่างเดียวก็ได้ แต่ส่วนใหญ่มักพบร่วมกับสายตาสั้นหรือสายตายาว
สายตาเอียงในทางการแพทย์ แบ่งออกได้ดังนี้
1. สายตาเอียงชนิดที่แก้ไขด้วยเลนส์แว่นสายตาได้ (Regular astigmatism)
เป็นสายตาเอียงชนิดที่เป็นที่รู้จักและเกี่ยวข้องกับคนส่วนใหญ่ สาเหตุเกิดจากกระจกตาหรือเลนส์แก้วตามีรูปทรงความโค้งที่ไม่เท่ากันในทุกองศา โดยรูปทรงที่ดีของเลนส์แก้วตาควรจะเป็นทรงกลมที่ความโค้งเท่ากันไม่ว่าวัดผ่านศูนย์กลางในแนวใด ดูคล้ายลูกฟุตบอล ส่วนรูปทรงของกระจกตาหรือเลนส์แก้วตาที่มีสายตาเอียง จะเหมือนทรงของลูกรักบี้ ที่หากวัดจากแนวตั้งและแนวนอน ความโค้งจะมีความต่างกัน
ตรวจตา รักษาโรคตาวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 437 บาท ลดสูงสุด 61%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
2. สายตาเอียงชนิดที่แก้ไขด้วยแว่นสายตาไม่ได้ (Irregular astigmatism)
สาเหตุของการเกิดสายตะเอียงประเภทนี้คือมีโรคกระจกตาผิดปกติ เช่น โรคกระจกตาโป่ง/ย้วย (Keratoconus) เกิดขึ้นหลังอุบัติเหตุทางตา หลังการติดเชื้อที่กระจกตา รวมทั้งอาจขึ้นมาได้ภายหลังการผ่าตัดดวงตา เช่น การผ่าตัดต้อกระจก หรือการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา
อาการที่น่าสงสัยว่าอาจมีสายตาเอียง ได้แก่
- ตามัว โดยอาจจะมัวโดยภาพรวม หรือ มัวในบางมุมบางองศาก็ได้
- ปวดเมื่อยตาง่าย ไม่สบายตาบ่อยๆ เวลาใช้สายตา
- ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ โดยเฉพาะในผู้ที่มีสายตาเอียงน้อยๆ ซึ่งมองเห็นได้ดี
- ต้องหยีตาเพ่งตาเพื่อให้มองเห็นชัดขึ้น
- ต้องเอียงคอมองเพื่อให้เห็นชัดขึ้น
มีคนจำนวนมากเรียกอาการที่ตาทั้งสองข้างไม่สามัคคีกัน คือ มองไม่ตรงไปทางเดียวกันว่า “ตาเอียง” ซึ่งไม่ถูกต้อง ความผิดปกติเช่นนั้นต้องเรียกว่า “ตาเหล่” หรือ “ตาเข” ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อตาที่บังคับให้ตามองไปยังทิศทางต่างๆ ซ้าย ขวา บน ล่าง ไม่ใช่โครงสร้างความโค้งของกระจกตาหรือเลนส์แก้วตา อาการสายตาเอียงไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามี หากไม่ได้รับการตรวจวัดสายตา
วิธีตรวจสายตาเอียง ทำอย่างไร?
เราจะทราบได้ว่ามีสายตาเอียงก็ต่อเมื่อได้รับการตรวจวัดสายตาอย่างถูกต้องเท่านั้น คือการตรวจวัดด้วยเทคนิคมาตรฐาน (Manifest Refraction) ซึ่งในขั้นตอนการวัดสายตาจะมีการใช้เลนส์ลองใส่ที่ตา และผู้ตรวจวัดมีการถามทดสอบให้คนไข้ตอบถึงความคมชัด ความสบายตาที่ได้ เพราะการมองเห็นของเราไม่ใช่ดวงตาเท่านั้นที่ทำหน้าที่ ยังมีสมองที่เป็นเสมือนนายใหญ่คอยควบคุมด้วย
ยังมีหลายคนเข้าใจว่า การตรวจวัดสายตาด้วยคอมพิวเตอร์นั้นแม่นยำที่สุด วัดได้ตัวเลขออกมาแล้วเอาไปตัดแว่นใส่ได้เลย ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ยังคลาดเคลื่อน ที่จริงแล้วการวัดสายตาด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีให้บริการทั่วไปนั้น เป็นเพียงการทดสอบเบื้องต้น (Screening test) ที่ช่วยให้ทราบค่าสายตาคร่าวๆ ซึ่งมักจะวัดได้ผลออกมามีสายตาเอียงร่วมด้วยไม่มากก็น้อยเสมอๆ อาจจะวัดออกมาได้เอียง 25, 50 หรือ เป็นร้อย หลายจนถึงหลายๆ ร้อยขึ้นไป ส่วนใหญ่ถ้าสายตาเอียงตั้งแต่ 150 มักส่งผลต่อการมองเห็นอย่างมีนัยสำคัญ แต่สายตาเอียงที่วัดออกมาได้น้อยกว่านั้น จะต้องพิจารณาต่อว่าค่าความเอียงมีนัยสำคัญเพียงพอที่จะเป็นต้นเหตุของอาการต่างๆ หรือไม่ จำเป็นต้องสวมแว่นสายตาเพื่อแก้ไขไหม โดยขึ้นกับผลการทดสอบในขั้นตอนของการวัดสายตามาตรฐานด้วยวิธี Manifest Refraction และการตรวจสุขภาพตา
สิ่งสำคัญของการตรวจวัดสายตาเอียง นอกจากตรวจว่าสายตาผิดปกตินั้นมีปริมาณเท่าไรอย่างสายตาสั้นและยาวแล้ว ยังต้องตรวจหาด้วยว่าสายตาเอียงนั้น เอียงที่องศา (Axis) ใด อย่างที่ได้อธิบายไปแล้วว่า สายตาเอียงเกิดจากโครงสร้างตาที่มีความโค้งในแนวตั้งและแนวนอนที่ต่างกัน จึงต้องวัดออกมาให้ชัดเจนว่า แนวตั้งและแนวนอนนั้น คือองศาไหนกันแน่ เพราะหากตรวจวัดไม่ได้องศาที่ถูกต้อง แม้ให้แว่นไป การมองเห็นก็ไม่ชัดเจนขึ้น
ตัวอย่างค่าสายตาของผู้ที่ตาสองข้างมีสายตาแตกต่างกัน
RE หรือ OD (ตาขวา) | |||
LE หรือ OS (ตาซ้าย) |
ตาขวา ช่องแรก Sph หรือ Sphere หมายถึง ค่าสายตาสั้นหรือยาว หากเครื่องหมายเป็น (-) แสดงว่าเป็นสายตาสั้น -2.00 คือ 2 Diopters เราเรียกกันง่ายๆ ว่า สายตาสั้น 200 และในช่องค่าสายตาเอียงเป็น 0 แสดงว่า ในตาขวา มีแต่สายตาสั้น ไม่มีสายตาเอียง
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตาซ้าย ช่องแรก Sphere หมายถึง สายตาสั้น 350 สายตาเอียง 150 ที่องศา 180 แสดงว่า ในตาซ้าย มีทั้งสายตาสั้นและสายตาเอียง
สายตาเอียงรักษาได้อย่างไร?
ในคนที่มีการตรวจพบว่าสายตาเอียงเพียงเล็กน้อย แต่ไม่มีอาการหรือปัญหาอื่นใด ไม่จำเป็นต้องรักษา แต่หากมีสายตาเอียงร่วมกับมีสายตาสั้นหรือสายตายาว ที่ส่งผลให้ตามัว มองเห็นไม่ชัดเจนเพียงพอจะใช้ชีวิตประจำวันหรือทำกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องทำอย่างมีประสิทธิภาพ ถือว่าสายตาเอียงนี้ก่อให้เกิดปัญหา จำเป็นต้องแก้ไขด้วยวิธีต่างๆ ดังต่อไปนี้
1. สวมแว่นสายตา
แม้ผู้ที่มีสายตาสั้นประมาณ 50 % จะมีสายตาเอียงด้วย แต่ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถปรับตัวให้ใส่แว่นสายตาสั้นที่มีสายตาเอียงด้วยได้อย่างสบายตา คนไข้มักบ่นว่ามองเห็นเหมือนพื้นเว้าหรือนูน ยิ่งผู้ที่ไม่เคยใส่แว่นสายตามาก่อน หรือมาเริ่มใส่ในวัยที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว ยิ่งต้องใช้เวลาปรับตัวนานขึ้น หรืออาจใส่ไม่ได้จริงๆ ต้องปรับลดสายตาเอียงลง หรือใส่แต่สายตาสั้น
2. ใส่คอนแทกต์เลนส์ที่เรียกว่าทอริกเลนส์ (Toric lens)
คอนแทคเลนส์ทุกชนิดสามารถแก้ไขสายตาเอียงได้ แต่คอนแทคเลนส์แบบนิ่มที่ซื้อหาได้ทั่วไปนั้นแก้ไขสายตาเอียงได้ประมาณไม่เกิน 250 หรือ 2.5 Diopter เท่านั้น ในผู้ที่มีสายตาเอียงมากกว่านี้ มีคอนแทกต์เลนส์ชนิดกึ่งแข็งกึ่งนิ่ม หรือ RGP ให้ใส่ได้ อย่างไรก็ตาม คอนแทกต์เลนส์ชนิดนี้ไม่สามารถซื้อมาใช้เอง ต้องมีการตรวจวัด ลอง เรียนรู้วิธีใส่และการดูแลรักษาจากจักษุแพทย์ หรือนักทัศนมาตร (OD-Optometrist)
3. ผ่าตัดรักษาสายตา
การผ่าตัดรักษาสายตามีหลายวิธี โดยสามารถรักษาสายตาเอียงได้ไม่เกิน 500-600 (5-6 Diopters)
ความเชื่อและความจริงเกี่ยวกับสายตาเอียง
มีความเชื่อหลายอย่างที่ผู้คนพูดกัน เกี่ยวกับสาเหตุและอาการของสายตาเอียง แต่ไม่เป็นความจริง ตัวอย่างดังนี้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
1. สายตาเอียงเกิดจากการที่นอนอ่านหนังสือ
ความเชื่อเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เพราะว่าสายตาเอียงคือความผิดปกติของสายตาที่เกิดจากโครงสร้างกระจกตาหรือเลนส์แก้วตา ไม่เกี่ยวกับพฤติกรรม อย่างไรก็ตาม การนอนอ่านหนังสือหรือดูโทรทัศน์จะทำให้การมองอยู่ในท่วงท่าที่กล้ามเนื้อตาไม่อยู่ในแนวตรงเป็นเวลานานจึงเป็นเหตุให้เมื่อยล้าตา หรือตามัวจนเห็นภาพซ้อนได้ ผู้ใหญ่หลายๆ ท่านจึงเชื่อว่านั่นคือต้นเหตุของสายตาเอียง และนำมาบอกต่อกันเพื่อห้ามปรามมิให้บุตรหลานนอนอ่านมากเกินไป
2. ขีดเส้นไม่ตรง เขียนหนังสือไม่ตรงบรรทัด
การขีดเส้น การวาดภาพ การถอยรถเข้าจอด ถ้าไม่ตรงตามต้องการ จะโทษว่าเพราะสายตาเอียงอย่างเดียวก็คงไม่ถูกนัก เพราะทักษะเหล่านี้คือการใช้มือสัมพันธ์กับดวงตา (Eye-Hand Coordination) โดยตาเป็นตัวรับข้อมูล แล้วส่งข้อมูลไปยังสมองเพื่อประมวลผลและบังคับให้กล้ามเนื้อแขนไปถึงมือขยับไปตามสมองสั่งอย่างถูกต้อง แม้คนที่สายตาดีก็อาจจะมีปัญหานี้ได้ถ้าการประสานงานของ ตา สมอง และมือไม่ดีพอ การฝึกฝนบ่อยๆ จะช่วยให้พัฒนาขึ้นได้
3. สายตาเอียงจะเพิ่มขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น
สำหรับสายตาสั้น เป็นความจริงที่ค่าสายตามักจะเพิ่มขึ้นในช่วงวัยรุ่น แล้วค่อยๆ คงที่เมื่อเป็นผู้ใหญ่ แต่สำหรับสายตาเอียง สามารถแบ่งได้เป็น 2 กรณี กรณีแรกคือสายตาเอียงที่เกิดจากกระจกตา แม้อายุมากขึ้นสายตาเอียงก็มักไม่เพิ่มขึ้นมากนัก เพราะโครงสร้างกระจกตาไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงไปตามอายุ แต่หากสายตาเอียงกรณีที่สอง คือสายตาเอียงเกิดที่เลนส์แก้วตา ค่าสายตาเอียงอาจเพิ่มขึ้นได้เมื่อเป็นผู้ใหญ่ เพราะเลนส์แก้วตามีการเปลี่ยนแปลงเมื่ออายุมากขึ้น ส่งผลให้สายตาสั้นและเอียงมากขึ้นด้วยเมื่อเลนส์แก้วตาเริ่มขุ่นจนกลายเป็นต้อกระจก
แม้สายตาเอียงจะเป็นภาวะสายตาผิดปกติที่ป้องกันไม่ได้ แต่มีวิธีช่วยแก้ไขหรือลดผลกระทบจากสายตาเอียงลงไปได้ โดยเริ่มต้นที่การหาสาเหตุที่แท้จริงก่อน ดังนั้น หากมีอาการที่สงสัยว่าจะเกิดจากสายตาเอียง ควรไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจสายตาและตรวจสุขภาพตา แล้วค่อยพิจารณาไปวัดสายตาประกอบแว่นตามร้าน เมื่อแน่ใจแล้วว่า ไม่มีโรคทางตาหรือโรคอย่างอื่นแล้วจริงๆ