กาบหอยแครง (Venus flytrap)

ว่านกาบหอยและกาบหอยแครง เป็นต้นเดียวกันหรือไม่ ทำไม้ต้นกาบหอยแครงต้องกินสัตว์เป็นอาหาร หาคำตอบได้ที่นี่
เผยแพร่ครั้งแรก 30 พ.ค. 2019 อัปเดตล่าสุด 5 ส.ค. 2020 ตรวจสอบความถูกต้อง 11 มิ.ย. 2019 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
กาบหอยแครง (Venus flytrap)

พืช เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ ดังนั้นการเจริญเติบโตต้องอาศัยสารอาหารจากดินเป็นหลัก หากขาดแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตก็ไม่สามารถอยู่รอดได้ แต่พืชบางชนิดก็สามารถทดแทนแร่ธาตุโดยการจับสัตว์มาเป็นอาหาร เช่น ต้นกาบหอยแครง ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นต้นไม้กินแมลง (Carnivorous plant) ที่เป็นที่รู้จักกันดีนอกเหนือจากต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง และต้นหยาดน้ำค้าง ที่เป็นพืชกินสัตว์ด้วยกัน ต้นไม้ประเภทนี้จะนำไนโตรเจนจากแมลงที่จับได้ มาย่อยสลายเพื่อสร้างโปรตีนนั่นเอง

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของกาบหอยแครง

กาบหอยแครง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Dionaea muscipula หรือชื่อสามัญที่เรียกกันทั่วไปคือ Venus Flytrap (ที่ดักจับแมลง) อยู่ในวงศ์ Droseraceae มีถิ่นกำเนิดบริเวณที่ราบชายฝั่งทะเลประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก ทรงพุ่มเตี้ย มีเหง้าลักษณะคล้ายหัว ใบมีสีเขียวและสีแดงฉูดฉาด ใช้ล่อแมลงให้มาติดกับดัก อยู่เป็นกระจุกรอบเหง้า ประมาณ 4-8 ใบ ยาวประมาณ 3-10 เซนติเมตร มีกาบแบบกลมเป็นแผ่นสองแผ่น คล้ายกาบหอยคู่ มีฟันเลื่อยแหลมคม เรียงสลับกันเป็นระเบียบลักษณะเหมือนขนตา มีเส้นกลางใบทำหน้าที่เป็นบานพับ ก้านใบสีเขียวเป็นแผ่นแผ่กว้าง พบมากในบริเวณที่มีความชื้นสูง หรือบริเวณที่มีแอ่งน้ำท่วมขัง

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

ต้นกาบหอยแครงและว่านกาบหอยเป็นต้นเดียวกันหรือไม่?

กาบหอยแครงกับว่านกาบหอยเป็นต้นไม้คนละชนิดกัน โดยว่านกาบหอยมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Tradescantia spathacea Stearn. จัดอยู่ในวงศ์ Commelinaceae ตระกูลเดียวกับผักปลาบ และหญ้าปักกิ่ง ลักษณะเป็นใบหอกยาว ปลายแหลม หน้าใบมีสีเขียวเข้มส่วนหลังใบมีสีม่วงแดง มีสรรพคุณทางยา คือใบต้มน้ำดื่ม แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้ไอ แก้บิดถ่ายเป็นเลือดได้

ต้นกาบหอยแครงรู้ได้อย่างไรว่ากินเหยื่อตอนไหน?

ในใบของต้นกาบหอยแครงจะมีขนกระตุ้น (Trigger Hairs) เมื่อมีแมลงมาสัมผัสขน และได้รับการกระตุ้นมากว่า 1 ครั้งติดต่อกันในระยะเวลาสั้นๆ ใบทั้งสองจะหุบเข้าหากันทันที เรียกว่าเป็นกับดักแบบตะครุบ เพื่อจับและย่อยเหยื่อ โดยปกติจะใช้เวลาย่อยประมาณ 3-10 วัน ทั้งนี้ขนดังกล่าวจะตอบสนองต่อสิ่งที่เคลื่อนไหวได้เท่านั้น เพื่อป้องกันการสูญเสียพลังงานไปกับการดักจับสิ่งอื่นที่ไม่ใช่อาหาร เช่น หยดน้ำฝน หรือสิ่งแปลกปลอมอย่างอื่น

ทำไมต้นไม้ต้องกินสัตว์?

เนื่องจากวิวัฒนาการและการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมของพืชที่มีต้นกำเนิดอยู่ในบริเวณที่ไม่อุดมสมบูรณ์ ขาดแร่ธาตุหลักในดิน จึงไม่เพียงพอสำหรับการเจริญโต ทำให้ต้นไม้กินสัตว์เหล่านี้ต้องมีการชดเชยในส่วนที่ขาดไปเพื่อความอยู่รอด โดยเปลี่ยนแปลงในส่วนของใบให้สามารถล่าเหยื่อที่เป็นสิ่งมีชีวิต เพื่อเพิ่มแร่ธาตุไนโตรเจนให้กับตัวเอง บริเวณใบนี้จะมีเซลล์ที่สามารถสร้างเอนไซม์ย่อยโปรตีนได้หลากหลายชนิด

ถ้ามีอย่างอื่นลงไปในใบกาบหอยแครงจะเป็นอย่างไร?

ปฏิกิริยาแรกเมื่อมีอะไรบางอย่างตกลงในกาบหอยแครง คือฝาใบจะปิด แต่จะไม่แน่น เนื่องจากไม่มีการกระตุ้นจากสิ่งแปลกปลอม ทำให้ขนของใบไม่ทำงาน จากนั้นต้นกาบหอยแครงจะค่อยๆ คายสิ่งนั้นออกมา ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำๆ จะเป็นการตัดวงจรชีวิตของต้นไม้ไปเรื่อยๆ เพราะหนึ่งใบของต้นกาบหอยแครงสามารถเปิดปิดได้ไม่กี่ครั้ง โดยความเร็วของฝาใบขึ้นอยู่กับอายุ สภาพอากาศ และความแข็งแรงของต้นไม้


3 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
นพพล เกตุประสาท, หน่วยอนุรักษ์และใช้ประโยชน์พืชพรรณ ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม, กาบหอยแครง (http://clgc.agri.kps.ku.ac.th/resources/ornament/tradescantia.html), เมื่อ 28 พ.ค. 2562.
ทวีศักดิ์ บุญเกิด และ รสริน พลวัฒน์, คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, การปรับตัว (Adaptation) เพื่อการอยู่รอดและการคัดสรรทางธรรมชาติ (Natural Selection) (http://www1a.biotec.or.th/BRT/images/stories/plant%20adaptation.pdf), December 2008.
สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ, เมื่อผู้ผลิตกินผู้บริโภค!! (Carnivorous Plants) (http://nstda.or.th/rural/public/100%20articles-stkc/42.pdf),เมื่อ 28 พฤษภาคม 2562.

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)