แม้ว่ากระดูกและข้อต่อต่างๆ ในร่างกายคนเราจะมีความแข็งแรง แต่ก็มีโอกาสที่จะแตกหักหรือหลุดได้ง่ายหากได้รับการกระทบกระทั่งแรงๆ โดยเฉพาะเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นจึงควรระมัดระวังอยู่เสมอเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับกระดูกและข้อต่อที่สำคัญในร่างกาย ซึ่งเราก็ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับอาการไหล่หลุด เพื่อให้ความรู้และเป็นแนวทางในการรับมือกับภาวะอันตรายที่เกิดขึ้นมาฝาก ศึกษาได้จากข้อมูลดังต่อไปนี้กันได้เลยค่ะ
รู้จักกับรูปร่างของข้อไหล่
เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น อันดับแรกต้องมาทำความรู้จักกับรูปร่างของไหล่ก่อน โดยข้อไหล่ของคนเรานั้นจะมีลักษณะคล้ายกับลูกกอล์ฟที่ตั้งอยู่บนที ซึ่งลูกกอล์ฟก็คือหัวกระดูกต้นแขนและทีก็คือเบ้ากระดูกสะบัก นอกจากนี้ก็จะมีลักษณะเป็นแอ่งตื้นๆ เนื่องจากมีขอบกระดูกอ่อนต่อจากข้อไหล่ขึ้นไปเล็กน้อยเพื่อสร้างความมั่นคงแข็งแรงและมีความลึกของเบ้าพอสมควร
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สาเหตุของอาการไหล่หลุด
ไหล่หลุดอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเพราะอุบัติเหตุที่ทำให้ข้อไหล่ถูกกระแทกอย่างรุนแรง เป็นผลให้ข้อไหล่เลื่อนหลุดออกมา เช่น การหกล้ม การปะทะกันในขณะเล่นกีฬารวมถึงการถูกฉุดแขนแรงๆ นอกจากนี้ก็อาจเกิดจากพันธุกรรมบางอย่างที่ทำให้เอ็นรอบข้อไหล่หลวมกว่าปกติ จึงทำให้ไหล่หลุดออกมาได้ง่ายกว่าคนปกติทั่วไปอีกด้วย โดยกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงต่ออาการไหล่หลุดมากที่สุด ก็คือกลุ่มนักกีฬาหรือผู้ที่ชอบเล่นกีฬาบ่อยๆ นั่นเอง
อาการที่เกิดขึ้น
เมื่อข้อไหล่หลุดไม่ว่าเกิดจากสาเหตุใด สามารถสังเกตอาการเบื้องต้นได้ดังนี้
- มีอาการปวดไหล่หรือแขนอย่างรุนแรงและไม่สามารถขยับแขนได้ เนื่องจากข้อไหล่ที่หลุดออกมาจากเบ้าจึงไม่สามารถบังคับการเคลื่อนไหวได้ตามต้องการ
- อาจมีอาการแขนชาร่วมด้วยในบางราย ซึ่งเกิดจากการที่เส้นประสาทบริเวณข้อไหล่ได้รับการกระทบกระเทือน โดยกรณีนี้ถือว่ารุนแรงมาก ควรรีบรักษาโดยด่วนเพราะการที่เส้นประสาทได้รับความเสียหาย อาจส่งผลให้เป็นอัมพฤต อัมพาตได้
แนวทางในการรักษา
สำหรับวิธีการรักษา จะทำโดยการขยับข้อไหล่ให้เข้าที่ดังเดิมพร้อมกับการทำกายภาพบำบัด แต่อย่างไรก็ตามเมื่อข้อไหล่เคยหลุดครั้งหนึ่งแล้ว จะไม่สามารถรักษาให้หายเป็นปกติและแข็งแรงดังเดิมได้ ผู้ป่วยจึงมีโอกาสเสี่ยงไหล่หลุดได้อีก จึงต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมากขึ้น ซึ่งมีวิธีการรักษาดังนี้
- แพทย์ให้ยาระงับอาการปวด เพื่อให้อาการทุเลาลงและไม่เจ็บปวดมากนักในขณะทำการรักษา
- ตรวจว่าข้อไหล่หลุดไปทางไหน และทำการดึงให้เข้าที่ จากนั้นก็จะยึดตรึงข้อไหล่ไว้ด้วยผ้าคล้องแขนประมาณ 2-3 สัปดาห์ หรือจนมั่นใจว่าข้อไหล่ติดดีแล้ว
- ให้ผู้ป่วยเริ่มทำกายภาพบำบัด โดยการบริหารกล้ามเนื้อรอบๆ ข้อไหล่ เพื่อให้สามารถกลับมาใช้งานได้ปกติ โดยอาจต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง
- ทานอาหารที่มีประโยชน์ อุดมไปด้วยแคลเซียม เพื่อบำรุงกระดูกให้แข็งแรง ซึ่งจะช่วยให้ฟื้นฟูเร็วขึ้นและลดความเสี่ยงโอกาสที่ข้อไหล่จะหลุดในครั้งต่อไป
ข้อควรระวังเมื่อข้อไหล่หลุด
เนื่องจากข้อไหล่เป็นส่วนสำคัญของร่างกายและมีเส้นประสาทมากมายอยู่ในบริเวณนี้ จึงควรระมัดระวังเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อผู้ป่วยมีอาการข้อไหล่หลุด เพราะหากพลาดเพียงนิดเดียวนั่นอาจหมายถึงการเป็นอัมพฤตอัมพาต และอาจส่งผลกระทบต่อร่างกายส่วนอื่นๆ ได้อีกด้วย ดังนั้นเมื่อพบผู้ป่วยข้อไหล่หลุด จึงควรระมัดระวังดังนี้
- เมื่อพบผู้ป่วยข้อไหล่หลุด ไม่ควรพยายามดึงข้อไหล่กลับเข้าที่กันเอง เพราะอาจดึงไม่ถูกวิธีจนทำให้ข้อไหล่เกิดการผิดรูปยิ่งกว่าเดิม และหากภาวะข้อไหล่หลุดเกิดร่วมกับกระดูกแตกหักด้วยก็จะเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยเป็นอย่างมาก ดังนั้นควรรีบพาผู้ป่วยไปพบแพทย์เพื่อให้แพทย์เป็นผู้ทำการรักษาเองดีกว่า
- ในกรณีข้อไหล่หลุดจะต้องตรวจให้ละเอียดก่อนทำการรักษาเพราะอาจมีอาการบาดเจ็บของเส้นเลือดและเส้นประสาทร่วมด้วย ซึ่งจะเป็นอันตรายได้
ไหล่หลุด เป็นอาการที่น่ากลัวและทำให้เกิดอาการเจ็บปวดได้มาก ซึ่งเมื่อพบว่าตนเองไหล่หลุด ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาทันที อย่าได้นิ่งนอนใจเด็ดขาดและที่สำคัญควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาในระหว่างการรักษานั่นเอง อย่างไรก็ตามควรพยายามระมัดระวังตัวเองไม่ให้เกิดอาการไหล่หลุดดีกว่า เพราะแม้จะรักษาได้แต่ก็อาจไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม 100%