กองบรรณาธิการ HD
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HD

รวมวิธีรักษาโรคมะเร็งเต้านม

รักษามะเร็งเต้านมมีกี่วิธี มีผลกระทบยังไง รักษานานแค่ไหน มาดูกัน
เผยแพร่ครั้งแรก 19 เม.ย. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 5 นาที
รวมวิธีรักษาโรคมะเร็งเต้านม

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • โรคมะเร็งเต้านม เป็นโรคที่เกิดจากการแบ่งตัวของเซลล์ภายในท่อน้ำนม และต่อมน้ำนมที่ผิดปกติ เป็นโรคมะเร็งที่ผู้หญิงหลายคนอยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น อายุมากกว่า 35-40 ปี เคยมีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม อยู่ในวัยหมดประจำเดือน เคยใช้ยาคุมกำเนิดระยะยาว
  • วิธีรักษาโรคมะเร็งเต้านมแบ่งออกได้ 5 วิธี คือ วิธีการผ่าตัด วิธีทำเคมีบำบัด วิธีใช้รังสีรักษา วิธีใช้ฮอร์โมนบำบัด วิธีใช้ยาที่ออกฤทธิ์เฉพาะ
  • โดยปกติวิธีการผ่าตัดจะเป็นวิธีรักษาที่ถูกแนะนำให้ใช้มากที่สุด แต่วิธีรักษาอื่นๆ ก็สามารถช่วยให้อาการของโรคหายได้ และยังได้ผลลัพธ์ดีกว่าได้อีกด้วย เช่น วิธีการทำเคมีบำบัด หรือการทำคีโม ที่สามารถเข้าทำลายเซลล์มะเร็งได้ทั่วร่างกายมากกว่าแค่บริเวณที่ผ่าตัดเท่านั้น
  • วิธีการรักษาโดยใช้ยาที่ออกฤทธิ์เฉพาะ และใช้ฮอร์โมนบำบัดก็เป็นวิธีรักษาที่น่าสนใจ เพราะส่งผลข้างเคียงน้อย แต่อาจมีข้อกำจัดในการรักษาแตกต่างกันไปตามร่างกายผู้ป่วยแต่ละราย
  • เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจมะเร็งสำหรับผู้หญิง

โรคมะเร็งเต้านมมีวิธีรักษาอยู่หลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีก็จะมีขั้นตอน และกระบวนการที่ซับซ้อนแตกต่างกันไป แต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ เพื่อบรรเทาอาการ หรือรักษาโรคมะเร็งเต้านมให้หายได้

นอกจากนี้วิธีรักษาโรคมะเร็งเต้านมยังจะแตกต่างกันไปตามระยะของโรคด้วยว่า อยู่ในระยะร้ายแรงขนาดไหนแล้ว

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจมะเร็งสำหรับผู้หญิงวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 495 บาท ลดสูงสุด 79%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

ความหมาย และระยะของโรคมะเร็งเต้านม

โรคมะเร็งเต้านม (Breast Cancer) คือ โรคมะเร็งซึ่งเกิดจากการแบ่งตัวผิดปกติของเซลล์ภายในท่อน้ำนม และต่อมน้ำนม จนเกิดเป็นก้อนมะเร็งภายในเต้านม โรคมะเร็งเต้านมแบ่งออกได้ 4 ระยะ ได้แก่

  • ระยะที่ 1: เป็นระยะที่เชื้อมะเร็งลุกลามออกมาจากเนื้อเยื่อฐานรากแล้ว แต่ยังไม่กระจายออกไปที่ต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้ และมีขนาดไม่เกิน 2 เซนติเมตร
  • ระยะที่ 2: เป็นระยะที่เชื้อมะเร็งมีขนาดมากกว่า 2 เซนติเมตรแต่ไม่เกิน 5 เซนติเมตร บางรายอาจมีการลุกลามไปที่ต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้แล้ว แต่บางรายก็ยังไม่มีการลุกลาม
  • ระยะที่ 3: เป็นระยะที่ก้อนมะเร็งมีขนาดใหญ่เกินกว่า 5 เซนติเมตรแล้ว และมีการกระจายไปสู่ต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้หลายที่แล้ว
  • ระยะที่ 4: เป็นระยะที่เชื้อมะเร็งได้ลุกลามไปสู่อวัยวะอื่นๆ ไปทั่วแล้ว เช่น สมอง ปอด ตับ กระดูก

โรคมะเร็งเต้านมเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่หากระยะของโรคอยู่ในขั้นรุนแรงแล้ว ก็อาจยากต่อการรักษาให้หายขาดได้ อีกทั้งผู้หญิงอายุ 35 ปีขึ้นไปนั้นล้วนมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งเต้านมได้ทั้งนั้น 

ดังนั้นผู้หญิงที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงจึงควรเข้ารับการตรวจมะเร็งทุกคน เพื่อจะได้รู้เท่าทันโรคมะเร็งที่อาจเกิดขึ้นโดยที่ยังไม่รู้ตัว

โดยกลุ่มผู้หญิงที่เสี่ยงเป็นโรคมะเร็งเต้านมมากกว่าปกติ ได้แก่

  • ผู้หญิงที่เคยมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคมะเร็งเต้านมมาก่อน
  • อายุ โดยผู้หญิงอายุประมาณ 35-40 ปีขึ้นไป จะมีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งเต้านมมากขึ้น
  • ผู้หญิงที่มีประจำเดือนครั้งแรกตอนอายุน้อยกว่า 12 ปี
  • ผู้หญิงที่มีภาวะอ้วน หรือน้ำหนักเกินมาตรฐาน
  • ผู้หญิงที่บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ รวมถึงสูบบุหรี่เป็นประจำด้วย
  • ผู้หญิงที่เคยรักษาโดยใช้วิธีฉายแสงมาก่อน
  • ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนที่เคยรับฮอร์โมนเสริมเพื่อลดอาการของวัยหมดประจำเดือน
  • ผู้หญิงที่เคยใช้ยาคุมกำเนิดในระยะยาว

อาการของผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมบางรายอาจไม่แสดงออกมา แต่โดยหลักๆ ผู้ป่วยจะคลำพบก้อนเนื้อในเต้านม หรือใต้แขนใกล้กับรักแร้ ร่วมกับมีอาการหัวนมบุ๋ม มีน้ำเหลือง หรือเลือดไหลออกมาจากหัวนม ผิวเต้านมมีผื่นแดง รู้สึกแสบร้อนผิว และอ่อนเพลียอย่างหนัก

วิธีวินิจฉัยโรคมะเร็งเต้านม

การวินิจฉัยโรคมะเร็งเต้านมสามารถรักษาได้หลายวิธี เช่น

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

  • การคลำหาก้อนมะเร็งด้วยตนเอง
  • การถ่ายภาพรังสี หรือการทำแมมโมแกรม (Diagnostic mammography)
  • การใช้คลื่นความถี่สูงสำหรับถ่ายภาพเต้านม หรือการทำอัลตราซาวด์ (Ultrasound)
  • การถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือการทำ MRI (Magnetic Resonance Imaging: MRI)
  • การผ่าตัดเพื่อนำก้อนชิ้นเนื้อไปตรวจทางพยาธิวิทยา (Biopsy)

วิธีรักษาโรคมะเร็งเต้านม

วิธีรักษาโรคมะเร็งเต้านมแบ่งออกได้ 5 วิธีได้แก่

1. วิธีการผ่าตัด (Surgery)

เป็นวิธีการรักษาโดยการผ่าตัดนำก้อนมะเร็งภายในเต้านม หรือเต้านมทั้งเต้าออกไป วิธีรักษาโดยการผ่าตัดแบ่งออกได้หลายวิธี ได้แก่

  • วิธีผ่าตัดเต้านมออกทั้งเต้า (Total or Simple mastectomy) รวมถึงผิวหนังเหนือหัวนม และก้อนมะเร็งด้วย
  • วิธีผ่าตัดเต้านมออกเพียงบางส่วน (Breast-conserving surgery) โดยจะตัดเฉพาะส่วนที่เป็นก้อนเนื้อมะเร็ง และเนื้อเต้านมบริเวณโดยรอบก้อนมะเร็งประมาณ 1-2 เซนติเมตรไปด้วย
  • วิธีผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ออกทั้งหมด (Axillary dissection) เป็นวิธีผ่าตัดเพื่อกำจัดเชื้อมะเร็งในต่อมเหลือง ผ่านการผ่านำต่อมน้ำเหลืองออกทั้งหมดเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของโรคมะเร็ง
  • วิธีผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองเซนติเนล (Sentinel lymph node biopsy) เป็นวิธีผ่าตัดที่นิยมทำในผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมระยะไม่รุนแรง โดยจะเป็นการผ่าตัดเพื่อนำชิ้นเนื้อไปยืนยันว่า เชื้อมะเร็งได้มีการแพร่กระจายหรือไม่ และเพื่อตัดต่อมน้ำเหลืองที่มีเชื้อมะเร็งส่วนแรกออกไปเพื่อลดการแพร่กระจายของโรค

2. วิธีการทำเคมีบำบัด (Chemotherapy)

เรียกโดยทั่วไปว่า “การทำคีโม” เป็นการรักษาโรคมะเร็งเต้านมโดยใช้ยาซึ่งมีคุณสมบัติช่วยยับยั้ง และทำลายการเจริญเติบโตของเชื้อมะเร็งโดยเฉพาะ

ผู้ป่วยที่รักษาโรคมะเร็งด้วยวิธีนี้มีโอกาสที่จะหายขาดจากโรคมะเร็งเต้านมได้ เนื่องจากตัวยาสำหรับทำเคมีบำบัดสามารถออกฤทธิ์ทำลายเซลล์มะเร็งได้ทั่วร่างกาย ต่างจากวิธีการผ่าตัดที่รักษาได้เพียงบริเวณที่ผ่าตัดเท่านั้น

ยาเคมีบำบัดแบ่งออกได้หลายสูตร และมีทั้งรูปแบบฉีด หรือรูปแบบรับประทาน ส่วนมากแพทย์จะนัดให้ผู้ป่วยมารับยาเคมีบำบัดแล้วก็กลับไปพักผ่อนที่บ้านได้ ไม่จำเป็นต้องนอนค้างที่โรงพยาบาลแต่อย่างใด

ความถี่ในการให้ยาเคมีบำบัดแต่ละครั้งมักจะอยู่ที่ประมาณ 1-4 สัปดาห์ เป็นระยะเวลา 3-6 เดือน แต่ผู้ป่วยบางรายก็อาจให้ยานานเป็นปี ขึ้นอยู่กับระยะของโรค

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

อย่างไรก็ตาม ยาเคมีบำบัดก็สามารถทำให้เกิดผลข้างเคียงบางอย่างได้ เช่น ผมร่วง เป็นแผลในปาก คอแห้ง คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย รู้สึกร้อนวูบวาบ จำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาวน้อยลง

การรักษาโรคมะเร็งเต้านมสามารถส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้ ในช่วงที่ต้องรับยาเคมีบำบัด ผู้ป่วยโรคมะเร็งควรมีการคุมกำเนิดอย่างเคร่งครีด หรืองดมีเพศสัมพันธ์ แต่ไม่ควรใช้วิธีรับประทานยาคุมกำเนิด หรือฉีดยาคุม เพราะยาเหล่านี้สามารถส่งผลให้เซลล์มะเร็งกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง

3. วิธีการใช้รังสีรักษา (Radiotherapy)

เรียกอีกอย่างว่า “การฉายแสง” เป็นการรักษาโดยการปล่อยอนุภาครังสีที่มีพลังงานสูงเพื่อหยุดการลุกลามเจริญเติบโตของเชื้อมะเร็ง เป็นวิธีการรักษาที่มักใช้ร่วมกับการผ่าตัดเต้านมออกบางส่วน เพื่อกำจัดเซลล์มะเร็งที่อาจแพร่กระจายออกไปให้หมด

การฉายแสงโดยปกติจะใช้เวลา 4-6 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 5 วัน อีก 2 วันไว้สำหรับให้ผิวหนังได้พักผ่อน และเนื้อเยื่อซึ่งได้รับผลกระทบจากรังสีที่ฉายมาได้มีการฟื้นฟู

โดยผลกระทบจากการรักษาโดยการฉายแสงนั้น มักเกิดบริเวณผิวที่ได้รับรังสี เช่น ทำให้รู้สึกแสบผิว ผิวแห้ง รู้สึกคัน ผิวคล้ำแดง ปวดแสบปวดร้อน นอกจากนี้ผู้ป่วยยังต้องระมัดระวังไม่ให้ผิวหนังบริเวณดังกล่าวถูกแสงแดด หรือถูกความเย็นจัดๆ หากต้องการโกนขน ควรใช้เครื่องโกนไฟฟ้าแทนมีดโกน

นอกจากผลข้างเคียงเรื่องผิว การฉายแสงรักษาโรคมะเร็งเต้านมยังส่งผลกระทบให้ผู้ป่วยมีอาการข้อไหล่ติด และแขนบวมได้ ผู้ป่วยจึงอาจต้องทำกายบริหาร หรือออกกำลังกายในระหว่างรักษาไปด้วย

4. วิธีการใช้ฮอร์โมนบำบัด (Hormonal therapy)

สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งเต้านมส่วนหนึ่งนั้นมาจากฮอร์โมนเพศในร่างกาย ดังนั้นจึงมีอาการรักษาอีกแบบที่แพทย์จะใช้ยาเข้ามายับยั้งฮอร์โมนซึ่งทำให้เกิดโรคมะเร็งเต้านม เราเรียกมันว่า “ยาต้านฮอร์โมน” ซึ่งแบ่งออกได้ 2 กลุ่ม

  • ยายับยั้งการทำงานของฮอร์โมน หรือยาทาม็อกซิเฟน (Tamoxifen) ใช้ได้ทั้งในผู้ป่วยหญิงที่ยังมีประจำเดือน และหมดประจำเดือนแล้ว แต่อาจมีผลข้างเคียงเป็นอาการเลือดออกทางช่องคลอด
  • ยายับยั้งการสร้างฮอร์โมน ใช้ได้ในผู้หญิงที่หมดประจำเดือนแล้วเท่านั้น และอาจมีผลข้างเคียงต่อมวลกระดูก หรือทำให้เกิดภาวะกระดูกพรุนได้

โดยปกติระยะเวลาในการใช้ฮอร์โมนบำบัดจะอยู่ที่ประมาณ 5 ปี และมักไม่ได้มีอาการผลข้างเคียงใดๆ รุนแรงเกิดขึ้น

5. วิธีการใช้ยาที่ออกฤทธิ์เฉพาะ (Targeted Therapy)

เป็นวิธีรักษาโดยใช้ยากลุ่มใหม่ซึ่งมีกลไกสามารถรับส่งสัญญาณกับผิวเซลล์ในเต้านมได้ เมื่อใช้ยาดังกล่าว และมีการจับสัญญาณของเซลล์มะเร็งได้แล้ว ยาก็จะเข้าไปออกฤทธิ์ทำลายเซลล์มะเร็งให้หายไป

วิธีรักษาโรคมะเร็งเต้านมด้วยวิธีนี้เป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ดี มีผลข้างเคียงน้อย แต่มีข้อจำกัดตรงที่สามารถใช้ได้กับผู้ป่วยแค่บางรายเท่านั้น และยังมีค่าใช้จ่ายสูงในการรักษาด้วย

นอกจากการรักษาทั้ง 5 วิธี ผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมยังต้องดูแลสุขภาพตนเองให้อยู่ในเกณฑ์ดี และแข็งแรงพอจะต่อสู้กับโรคได้อีกด้วย เช่น

  • รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ไม่ควรขาดอาหารประเภทใดประเภทหนึ่งไปทั้งนั้น และไม่ควรอดอาหารถึงแม้จะรู้สึกไม่อยากอาหารก็ตาม
  • ดื่มน้ำให้มากๆ เพราะยาบางชนิดสามารถส่งผลข้างเคียงต่อไต และกระเพาะปัสสาวะของผู้ป่วยได้ ผู้ป่วยจึงต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อให้อวัยวะภายในมีสารน้ำหล่อเลี้ยงเพียงพอ
  • หมั่นไปตรวจความคืบหน้าของโรคถึงแม้จะเคยรักษาโรคมะเร็งเต้านมไปแล้วก็ตาม โดยบริเวณที่มักพบรอยโรคมะเร็งซ้ำได้อีก คือ บริเวณเต้านมข้างที่เคยได้รับการผ่าตัด

    นอกจากนี้ผู้ป่วยควรลองตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ เอ็กซเรย์ปอด และกระดูก เพื่อให้แน่ใจว่า ไม่มีการลุกลามของเชื้อมะเร็ง และตรวจดูว่า อวัยวะภายในอย่างตับ ไต ยังทำงานเป็นปกติหรือไม่ 

หรือทางที่ดี ผู้ป่วยควรกลับมาตรวจสุขภาพให้ครบถ้วน เพื่อให้มั่นใจว่า ร่างกายหลังการรักษายังคงแข็งแรง ไม่มีอาการแทรกซ้อนใดๆ จากโรคเก่าทั้งนั้น

เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจมะเร็งสำหรับผู้หญิง จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android


3 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
สาขาศัลยศาสตร์ศีรษะ คอ และเต้านม ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล, มะเร็งเต้านม (https://www.si.mahidol.ac.th/th/department/surgery/คู่มือฉบั...doc), 22 กันยายน 2563.
ภรณี เหล่าอิทธิ และนภา ปริญญานิติกูล, มะเร็งเต้านม: ระบาดวิทยา การป้องกันและแนวทางการตรวจคัดกรอง (http://clmjournal.org/_fileupload/journal/12-5.pdf), 22 กันยายน 2563.
พัชรภรณ์ ทองวัชระ และอนงนาฎ เรืองดำ, ปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม (http://hocc.medicine.psu.ac.th/files/khowledge/12december2011.pdf), 22 กันยายน 2563.

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป
วิธีตรวจความเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านมด้วยตนเอง
วิธีตรวจความเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านมด้วยตนเอง

สำรวจตัวเองอยู่เสมอว่ามีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมหรือไม่? ด้วยการคลำตรวจก้อนเนื้อด้วยตัวเอง

อ่านเพิ่ม
รักษามะเร็งเต้านมด้วยการผ่าตัดเป็นอย่างไร มีกี่วิธี
รักษามะเร็งเต้านมด้วยการผ่าตัดเป็นอย่างไร มีกี่วิธี

รวมข้อมูลการรักษาโรคมะเร็งด้วยการผ่าตัด และคำถามหลังการผ่าตัด การดูแลตนเอง

อ่านเพิ่ม