การวินิจฉัยจากลิ้นเป็นการปฏิบัติที่มีมาอย่างยาวนานในแพทย์แผนจีน (การแพทย์ทางเลือกรูปแบบหนึ่งซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน) โดยหลักการของแพทย์แผนจีนได้กล่าวไว้ว่าลิ้นของแต่ละคนสามารถบ่งบอกสุขภาพโดยรวมของคนคนนั้นได้
เมื่อทำการวินิจฉัยจากลิ้นแล้วก็จะเป็นการประเมินสุขภาพด้านอื่นของผู้ป่วยเป็นลำดับถัดไป โดยแพทย์อาจแนะนำวิธีการรักษา เช่น การฝังเข็ม การใช้แรงกด ยาสมุนไพร การบำบัดด้วยอาหารและการนวด
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ทำไมถึงใช้การตรวจลิ้นเป็นวิธีประเมินสุขภาพ?
การแพทย์แผนจีนเชื่อว่าลิ้นแต่ละส่วนจะหมายถึงระบบ 5 ระบบของร่างกาย ได้แก่ ตับ, ปอด, ม้าม, หัวใจ และไต ทฤษฎีของการแพทย์แผนจีนนั้นมีรากฐานมาจากทฤษฎีที่ว่าอวัยวะทุกส่วนของร่างกายทำงานสนับสนุนซึ่งกันและกัน และอวัยวะเหล่านี้จะต้องอยู่ในภาวะสมดุลจึงจะทำให้ร่างกายมีสุขภาพที่เหมาะสมที่สุด
ถึงแม้ว่าการวินิจฉัยจากลิ้นจะปรากฏอยู่ในการแพทย์แผนจีนมานาน แต่ก็ไม่ได้มีการศึกษาทางวิทยาศาสตร์อย่างละเอียดรวมถึงประเมินความถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่จากงานวิจัยเบื้องต้นพบว่าการวินิจฉัยจากลิ้นนั้นอาจเป็นการประเมินค่าเฉพาะเกี่ยวกับสุขภาพในผู้ป่วยที่เป็นโรค เช่น โรคข้ออักเสบชนิดรูมาติกและมะเร็งเต้านม อย่างไรก็ตามการวินิจฉัยจากลิ้นไม่สามารถนำมาทดแทนการรักษาตามมาตรฐานหรือนำมาเป็นการวินิจฉัยโรคได้
คาดหวังอะไรจากการตรวจลิ้น?
ระหว่างการตรวจลิ้น แพทย์แผนจีนมักจะประเมินลักษณะ รูปร่าง และสีของลิ้น นอกจากนี้ต้องพิจารณาลิ้นแต่ละส่วน ต่อไปนี้เป็นสิ่งที่แพทย์แผนจีนใช้ประเมินเพื่อประกอบการวินิจฉัย
1. สีของลิ้น
ลิ้นสีแดงเรื่อแสดงว่าพลังงานที่จำเป็นของร่างกายนั้นแข็งแรง (หรือที่เรียกว่าพลังงานชี่) หากสีของลิ้นเปลี่ยนไปมักจะหมายถึงมีอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง ตัวอย่างเช่น ลิ้นสีซีด แสดงถึงปัญหาเกี่ยวกับตับอ่อนและ/หรือระบบย่อยอาหาร ในขณะที่สีม่วงจะหมายความว่ามีการอุดกั้นการไหลเวียนของพลังงานชี่
2. รูปร่างของลิ้น
ลิ้นปกติจะไม่หนาหรือบางจนเกินไป ต้องมีลักษณะเรียบไม่แตก โดยทั่วไปแล้วการเปลี่ยนแปลงของลักษณะลิ้นจะแสดงถึงความเจ็บป่วยเรื้อรังซึ่งส่งผลต่อเลือด สารน้ำในร่างกาย หรือชี่
การเปลี่ยนแปลงรูปร่างของลิ้นที่เกิดขึ้นได้ เช่น ลิ้นบวม (เชื่อว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่แสดงถึงปัญหาเกี่ยวกับตับอ่อนและ/หรือระบบย่อยอาหาร), มีรอยแยกของลิ้น (อาจเป็นสัญญาณของหัวใจไม่สมดุล มีปัญหาเกี่ยวกับการนอนไม่หลับและความจำ) และการที่ลิ้นม้วนเข้าทั้ง 2 ข้าง (เชื่อว่าแสดงว่ามีพลังงานชี่ที่ตับน้อย)
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
3. สารเคลือบลิ้น
ถึงแม้ว่าปกติแล้วลิ้นมักจะถูกเคลือบด้วยสีขาวบาง ๆ แต่สีเหลืองอ่อนและความหนาที่เพิ่มขึ้นบริเวณโคนลิ้นนั้นก็อาจเป็นเรื่องปกติเช่นกัน
สารเคลือบลิ้นนี้แสดงถึงม้ามและกระเพาะ นอกจากนี้ยังแสดงถึงการเจ็บป่วยแบบฉับพลัน (เช่น ไข้หวัด) ตัวอย่างเช่น หากไม่มีสารเคลือบลิ้นหรือว่าสารเคลือบลิ้นลอก อาจหมายถึงการขาดธาตุหยินที่ไตซึ่งอาจเกิดร่วมกับอาการปวดหลังส่วนล่างและหูอื้อ
คำแนะนำสำหรับการเข้ารับการวินิจฉัยจากลิ้น
นี่เป็นหัวข้อหลักที่คุณจะต้องคิดถึงอยู่เสมอหากต้องการเข้ารับการวินิจฉัยจากลิ้น
- มีความผิดปกติบางอย่างที่ไม่ปรากฏที่ลิ้น และแพทย์แผนจีนนั้นไม่ได้วินิจฉัยจากลิ้นเพียงอย่างเดียว
- ในกรณีส่วนมากนั้นจะตรวจลิ้นไม่เกิน 15 วินาที การตรวจนานกว่านั้นอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของรูปร่างและสีของลิ้นได้ (ซึ่งเป็น 2 สิ่งที่สำคัญของการวินิจฉัยจากลิ้น)
- ก่อนที่จะเข้ารับการตรวจ คุณจะต้องหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่อาจเปลี่ยนสีของลิ้นคุณได้ (เช่น กาแฟและอาหารที่ทำจากสีผสมอาหาร) การรับประทานวิตามินซีก็อาจเปลี่ยนสีของลิ้นคุณได้เช่นกัน
- หากคุณมีการแปรงลิ้นเป็นประจำ ควรหยุดแปรงอย่างน้อย 1 วันเต็มก่อนเข้ารับการตรวจ
หากคุณมีอาการหรือมีปัญหาทางสุขภาพที่กำลังกังวล ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวคุณทันที การเข้ารับการรักษาตามมาตรฐานที่ช้ากว่าปกติอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงได้