มันไม่ใช่เรื่องง่ายในการเป็นพ่อแม่ที่ให้การสนับสนุนลูก ๆ ที่เล่นกีฬา แล้วอะไรคือวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยให้ลูกของคุณสามารถโตขึ้นและพัฒนาต่อไปได้ ? คุณจะต้องมีส่วนร่วมมากขนาดไหนและอะไรที่ควรเป็นหน้าที่ของผู้ฝึกสอน ? ในขั้นแรกควรเริ่มจากการหลีกเลี่ยงคำพูดทั่ว ๆ ไปเหล่านี้ที่จะทำร้ายมากกว่าช่วยเหลือ
อย่าพูดว่า ทำได้ดีแล้ว
ผู้ใหญ่ที่หวังดีมักชอบพูดประโยคนี้ตลอดเวลาใช่หรือไม่ ? นั่นจึงเป็นสิ่งที่ทำให้คำนี้ไม่มีความหมายและอาจจะส่อความหมายในแง่ลบได้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ซึ่งนั่นไม่ใช่ความตั้งใจของคุณเลยแม้แต่น้อย ! คำว่าทำดีแล้วฟังดูกลวง ๆ แม้กระทั่งสำหรับเด็ก พวกเขาสามารถบอกได้ว่าคุณแค่พูดมันไปอย่างนั้นเพื่อชมเชย และมันก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีที่ได้รับคำชมจากสิ่งที่คุณไม่ได้ทำ ดังนั้นควรเก็บคำชมไว้สำหรับเหตุการณ์ที่สมควรได้รับ และอธิบายถึงสิ่งที่คุณต้องการจะสื่อไม่ว่าจะเป็น “แม่เห็นว่าลูกพยายามอย่างหนักระหว่างการซ้อม” หรือ “การจับลูกบอลครั้งนั้นมันเจ๋งมาก สิ่งที่ลูกฝึกมากำลังได้ผล” เป็นต้น
อย่าพูดว่า “ทำไมลูกไม่....”
ประโยคนี้แสดงว่าคุณสังเกตว่าลูกของคุณทำอะไรแต่ไม่ใช่ในทางที่ดี คุณกำลังหยิบความผิดพลาดมาแทนโอกาสในการพัฒนา Jordan Fliegel ผู้ก่อตั้ง CoachUp (บริษัทฝึกสอนกีฬาส่วนตัว) ได้ยกตัวอย่างเช่น นักกีฬาบาสเกตบอลต้องการฝึกเลี้ยงลูก แทนที่จะพูดว่าทักษะการเลี้ยงลูกของลูกยังแย่อยู่เลยนะหรือลูกไม่ควรเลี้ยงลูกแบบนั้น ลองเปลี่ยนเป็น ลูกรู้มั้ยว่าถ้าลูกพยายามฝึกการเลี้ยงลูกเพิ่มขึ้นอีกสักหน่อย มันจะทำให้ลูกทำได้ดีตลอดทั้งเกม
สิ่งที่เราต้องการสื่อนั้นยังเหมือนเดิมแต่คำพูดที่ใช้นั้นต่างกันออกไป
อย่าพูดว่า “กรรมการน่าจะ....”
นี่เป็นคำพูดที่ไม่ควรพูด กรรมการมีไว้เพื่อทำให้ทุกคนปลอดภัยและยังคงเล่นตามกติกา ทำให้กีฬาเป็นเรื่องสนุกและยุติธรรม ส่วนมากแล้วกรรมการเหล่านี้นั้นอาสามาหรือได้รับค่าตอบแทนเพียงเล็กน้อย
การว่ากล่าวกรรมการจากอัฒจันทร์นั้นไม่ใช่น้ำใจนักกีฬาที่ดี (95% ของผู้ฝึกสอนกีฬาเด็กที่บริษัท CoachUp ที่ทำการสำรวจได้กล่าวว่าพวกเขาได้ยินคำพูดเหล่านี้) หรือแม้กระทั่งการเดินเข้าไปต่อว่าเป็นการส่วนตัวทีหลังนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเช่นกัน และยังเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับลูกของคุณอีกด้วย รวมถึงทำให้พวกเขาไม่ต้องรับผิดชอบจากความผิดที่ทีมของพวกเขาได้ทำ
อย่าพูดว่า “ทำไมผู้ฝึกสอนของลูกไม่สามารถ......”
เช่นเดียวกับกรรมการ ผู้ฝึกสอนนั้นเข้ามาร่วมกีฬาของเด็ก ๆ ก็เพราะว่าพวกเขารักในกีฬาเหล่านั้น ไม่ใช่เพื่อค่าตอบแทนจำนวนมาก และพวกเขาก็เป็นหัวหน้าของที่นี่ ดังนั้นคุณควรถอยไปด้านหลังและให้พวกเขาเป็นผู้ตัดสินใจ ลูกของคุณต้องการให้คุณสนับสนุนเขาโดยไม่มีเงื่อนไข และนั่นจะไม่เกิดขึ้นหากเขาต้องเลือกระหว่างคำแนะนำของผู้ฝึกสอนกับของพ่อแม่
อย่าพูดว่า “แม่ไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้ร่วมทีมของลูก....”
Fliegel ได้ให้คำแนะนำนี้แก่ผู้ฝึกสอนและมันสามารถปรับมาใช้กับพ่อแม่ได้ด้วย “อย่าพูดอะไรในแง่ลบเกี่ยวกับผู้เล่นคนหนึ่งต่อผู้เล่นอีกคน นอกจากมันจะไม่เกิดประโยชน์แล้วยังทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในทีมแย่ลงอีกด้วย” ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับลูกของคุณหรือเพื่อนร่วมทีมของเขา
แล้วจะต้องพูดอย่างไร ?
Dr. Amy Baltzell ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาการกีฬา Boston University และอดีตนักกีฬาพายเรือโอลิมปิก ผู้ฝึกสอนเยาวชนและผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกที่เล่นกีฬาที่ชื่อ Whose Game Is It, Anyway ? ได้เสนอให้เปลี่ยนมาใช้คำถามและคำพูดแง่บวก ตัวอย่างเช่น
- ลูกสนุกกับการซ้อมในวันนี้หรือไม่ ? และชอบอะไรมากที่สุด ?
- ลูกได้เรียนรู้อะไรบ้างจากการเล่นครั้งนี้ ?
- แม่สังเกตว่าลูกได้พยายามอย่างหนักและทุ่มเทอย่างเต็มที่
- แม่ภูมิใจในความพยายามของลูก
- แม่เห็นลูกให้กำลังใจเพื่อนร่วมทีมและแม่ภูมิใจในตัวลูกมาก
แม่สังเกตว่าหลังจากที่อีกทีมหนึ่งทำคะแนนได้ ลูกก็ยังคงมีความกล้าที่จะพยายามต่อไป