ประวัติศาสตร์ของน้ำมันงู

น้ำมันงูของแท้อาจจะมีคุณสมบัติ ในการรักษา
เผยแพร่ครั้งแรก 17 ก.ค. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที
ประวัติศาสตร์ของน้ำมันงู

นี่ก็น้ำมันงู และนั่นก็น้ำมันงู เมื่อคุณได้ยินคำว่า “น้ำมันงู” คุณอาจคิดถึงยาผีบอกและหากคุณมีอายุมากพอ คุณอาจจำได้ถึงหนังคาวบอยเก่าๆ ที่มีคนเรียกแทนตัวเองว่าหมอ เดินทางเข้าเมืองมาพร้อมเกวียนที่บรรทุก “ยาอายุวัฒนะ” ไว้เต็ม เขาจะยืนบนยกพื้น (ซึ่งอาจจะติดอยู่กับเกวียน) และเริ่มประกาศสรรพคุณของยา โดยอ้างว่าสามารถรักษาโรคได้สารพัด ตั้งแต่อาการปวด บวมจนถึงผื่นผิวหนัง ผู้คนกลุ่มเล็ก ๆ จะเข้ามาห้อมล้อมฟังเขาหน้าม้าที่อยู่ในฝูงชน(ซึ่งได้รับเงินมาก่อนแล้ว) จะตะโกนเสียงดังเพื่อช่วยยืนยันว่าเขาได้ใช้ยาของหมออะไรซักอย่างนี่แล้ว และหายดีเสียด้วยและผู้คนก็จะจ่ายเงินที่พวกเขาหามาอย่างยากลำบากเพื่อที่จะได้หายจากอาการป่วยอะไรก็ตามที่พวกเขาเป็นอยู่ 

แน่นอนว่าในหนังนักขายคนนั้นเป็นพวกต้มตุ๋นเป็นแค่หมอน้ำมันงู ซึ่งคือหมอที่ไม่ได้ผ่านการฝึกฝนหรือได้รับการรับรองซึ่งขายขี้ผึ้งทาแผล ยานวด ยาน้ำ ที่เป็นของปลอมกว่าลูกค้าคนซื่อจะตระหนักได้ว่ายาของเขาไม่ได้ช่วยอะไรเลยและพวกเขาก็เสียเงินไปเปล่าๆ เขาก็หายตัวไปนานแล้ว ทุกวันนี้พวกเราส่วนใหญ่เชื่อว่าการขายน้ำมันงูเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ซึ่งหากคุณเชื่อเช่นนั้นคุณก็เข้าใจผิดแล้ว คุณสามารถซื้อน้ำมันงูของแท้ที่สกัดมาจากงูจริง ๆ ซึ่งอาจจะมีคุณสมบัติในการรักษาจริง ๆ ก็ได้

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเข้าใจความแตกต่างเสียก่อน ข้อแรกสุด มีน้ำมันงูอยู่จริง ๆ......และใช้เป็นตำรับยาแก้ปวดมาหลายร้อยปีแล้วด้วยน้ำมันงูของแท้นั้นทำมาจากงูน้ำของจีน และใช้ในจีนเพื่อรักษาอาการข้ออักเสบ ถุงน้ำรอบข้ออักเสบและอาการปวดข้ออื่น ๆ เชื่อกันว่าน้ำมันงูถูกนำเข้ามาในอเมริกาเหนือในยุคตื่นทองช่วงกลางของยุค 1800 

น้ำมัน ซึ่งจริง ๆ แล้วคือไขมันที่ได้มาจากงู ได้รับการศึกษาอย่างจริงจังในช่วงทศวรรษ 1980 และพบว่าเต็มไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 แน่นอนว่าเรารู้ว่าทุกวันนี้กรดไขมันโอเมก้า 3 ใช้ในการลดอาการอักเสบ (ซึ่งนำไปสู่ข้ออักเสบได้) ลดความดันโลหิต และอื่น ๆ อีกมาก การศึกษาอื่น ๆก็มีรายงานเช่นกัน ในญี่ปุ่นน้ำมันงูนั้นทำมาจากงูทะเลอิราบุ ซึ่งเป็นสปีชีส์เดียวกันกับงูน้ำของจีน และพบว่ามีโอเมก้า 3ในไขมันของพวกมันเช่นกัน ในปี 2007 นักวิจัยชาวญี่ปุ่นรายงานการทดลองในหนูที่แสดงให้เห็นว่าสมรรถภาพของหนูที่กินน้ำมันงูจากงูอิราบุเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับหนูที่กินน้ำมันหมูเพียงอย่างเดียว 

ถ้าอย่างนั้นน้ำมันงูได้ชื่อฉาวโฉ่มาได้อย่างไร ?

สิ่งที่น่าจะเป็นปัญหาคือความเข้มข้น น้ำมันงูจีนของแท้จะมีเปอร์เซ็นต์ความเข้มข้นของไขมันงูในปริมาณสูงที่แม้แต่วิทยาศาสตร์ปัจจุบันก็ยังบอกเราว่าน่าจะช่วยบรรเทาอาการได้จริง แต่พวกหมอเก๊อาจจะเจือจางผลิตภัณฑ์ของพวกเขาเสียจนกระทั่งมันไม่มีสรรพคุณในการบรรเทาอาการปวดหลงเหลืออยู่ ความเป็นไปได้อีกอย่างคือการขยายคำนิยามของคำว่าไขมันงู “ของแท้” โดยการใช้งูหางกระดิ่งหรืองูพื้นถิ่นใด ๆ ในอเมริกาเหนือมาทำน้ำมันงูแทนที่จะเป็นงูน้ำหรืองูทะเลหรือบางทีพวกเขาอาจจะไม่ได้ใช้ อะไรที่เกี่ยวข้องกับงูเลยก็ได้ยกเว้นแต่การเขียนตัวใหญ่ ๆ ว่าเป็นน้ำมันงูจากจีน

อินเทอร์เน็ตในฐานะหมอน้ำมันงู ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันงูอะไรก็ตามแม้จะเป็นของแท้ที่มีโอเมก้า 3 ก็มีประวัติที่น่าสนใจ ปัญหาของยาหลอกและยาที่ขายกันบนอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันกำลังขยายวงกว้าง เมื่อพวกเราที่เป็นคนไข้สิ้นหวังเราก็ตัดสินใจที่จเป็นการทำอันตรายแก่ตัวเองได้อย่างง่ายๆ แทนที่จะเป็นการช่วยเหลือและหมอน้ำมันงูในปัจจุบันซึ่งมาในรูปแบบของเว็บไซต์ก็พร้อมที่จะเอาเปรียบความสิ้นหวังของพวกเรา เช่นเดียวกับในอดีตพวกเขาฉลองอยู่บนความกลัวของเรา พวกเขามีหน้าม้าที่จะยืนยันกับเราว่ายาหลอกของพวกเขาสามารถช่วยเราได้ และเอาเงินของเราไป กว่าเราจะรู้พวกเขาก็ไปแล้วหากจะให้ชั่วร้ายยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาอาจจะเอาเลขบัตรเครดิตจริง ๆที่เรากรอกไปใช้ประโยชน์ด้วยคุณอาจจะได้ยินคำว่าน้ำมันงูที่ใช้สำหรับการรักษาแพทย์ทางเลือกหรือการรักษาเสริมอยู่บ่อย ๆ ซึ่งถึงแม้ว่าการรักษาบางอย่างเหล่านี้จะได้ผลจริง แต่ก็ไม่ใช่ทุกอย่าง และยิ่งกว่านั้นยังไม่ได้รับการรับรองจาก FDA ที่จะบอกได้ว่าอะไรที่เป็นประโยชน์กับคุณจริง ๆ ด้วย ดังนั้นผู้ซื้อต้องระวังตัวเองผู้ป่วยที่ฉลาดจะรู้ว่าจะหาข้อมูลที่น่าเชื่อถือและมีแหล่งที่มาทางออนไลน์ได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านี้เขาหรือเธอจะเข้าใจว่าจะหลีกเลี่ยงสัญญาปลอม ๆ ได้อย่างไรด้วยการใช้เงินที่หามาได้อย่างยากลำบากเพื่อซื้อน้ำมันงูปลอมหรือยาปลอมหรือการรักษาปลอมอะไรก็ตาม ไม่เพียงแต่เสียเงินเปล่าแต่อาจยังรบกวนการรักษาจริง ๆ ที่อาจช่วยคุณได้อีกด้วยหากคุณอยากจะซื้อยาหรือสารใดๆ ก็ตามจากเว็บไซต์ คุณคงอยากแน่ใจว่าเว็บไซต์พวกนั้นถูกกฎหมายและปลอดภัยที่จะทำธุรกรรมด้วยเสียก่อน 


3 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
The history of snake oil. The Pharmaceutical Journal. (Available via: https://www.pharmaceutical-journal.com/opinion/blogs/the-history-of-snake-oil/20067691.blog?firstPass=false)
Snake Oil Salesmen Were on to Something. Scientific American. (Available via: https://www.scientificamerican.com/article/snake-oil-salesmen-knew-something/)
A History Of 'Snake Oil Salesmen'. National Public Radio (NPR). (Available via: https://www.npr.org/sections/codeswitch/2013/08/26/215761377/a-history-of-snake-oil-salesmen)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป