เรามักจะคิดถึงผู้ดูแลที่เป็นผู้หญิง ตามสถิติแล้ว มีผู้ดูแลที่เป็นเพศหญิงดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวมากกว่าผู้ดูแลเพศชายในอัตราส่วนที่เหมาะสม
ความแตกต่างระหว่างผู้ดูแลชายและหญิง
เหตุผลหนึ่งที่ผู้ดูแลชายไม่ค่อยได้รับความสนใจ คือ พวกเขามีแนวโน้มที่จะดูแลคนที่รักแตกต่างจากผู้หญิง ตัวอย่างของความแตกต่างระหว่างผู้ดูแลชายและหญิง มีดังนี้
ศูนย์ดูแลและฟื้นฟูผู้ป่วย-ผู้สูงอายุวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 495 ลดสูงสุด 51%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
- ผู้ดูแลชายจะแสดงให้เห็นถึงการบริหารจัดการได้ดีกว่า เช่น มีแนวโน้มที่จะจ้างคนมาช่วยงานบางอย่าง เช่น การอาบน้ำหรือการแต่งกายของภรรยาหรือพ่อของเขา ซึ่งต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับกิจกรรมประจำวันเหล่านี้ พวกเขาอาจรู้สึกไม่สะดวกที่จะทำกิจกรรมเหล่านี้เท่าผู้หญิง
- ผู้ชายมีแนวโน้มที่จะบ่นกับคนในบ้าน เพื่อน หรือเพื่อนร่วมงาน เกี่ยวกับความเครียดของปัญหาจากการดูแลน้อยกว่าผู้หญิง ซึ่งหมายความว่า พวกเขาไม่ได้ดิ้นรนแสวงหาการสนับสนุนในลักษณะเดียวกับผู้ดูแลผู้หญิง
- โดยทั่วไปผู้ดูแลชายมักใช้การบริหารจัดการมาแก้ปัญหาในการดูแลกิจกรรมบางอย่างที่ยุ่งยาก ขณะที่ผู้หญิงจะใช้อารมณ์และรู้สึกว่าทำไมการดูแลเป็นสิ่งจำเป็น ตัวอย่างเช่น ผู้ชายอาจใช้เทคโนโลยีระยะไกลเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนการดูแลมากกว่า
- ผู้ชายมักแสดงความรู้สึกน้อยกว่าและเตรียมพร้อมกับการดูแลมากกว่าผู้หญิง ดังนั้น เมื่อมีคำถามเกิดขึ้น พวกเขามักไม่แน่ใจว่าจะถามใครดี
- ผู้ชายมีแนวโน้มที่จะไม่รอความช่วยเหลือจากมืออาชีพสำหรับสมาชิกในครอบครัวจนกว่าจะมีภาวะวิกฤต เช่น ต้องเข้าโรงพยาบาล แต่ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะมองหาความช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มเหนื่อยหน่ายจากการดูแล
ภายในความแตกต่างเหล่านี้ ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยในคนที่ดูแลภรรยาของเขา คนที่ดูแลเด็กพิการ และคนที่ดูแลพ่อแม่สูงอายุ ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีของคนที่ให้การดูแลภรรยา มีแนวโน้มที่จะให้การดูแลส่วนบุคคล (personal care) มากกว่าผู้ดูแลที่ไม่ใช่คู่แต่งงาน
อย่าทำอะไรคนเดียว
เนื่องจากผู้ชายไม่ค่อยแบ่งปันความกังวลเรื่องการดูแลผู้ใกล้ชิด นี่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่ต้องการการสนับสนุน การวิจัยแสดงให้เห็นว่าผู้ชายจะพบกับภาวะซึมเศร้าสูงสุดสำหรับผู้ที่ปล่อยภรรยาที่มีภาวะสมองเสื่อมไว้ที่สถานพยาบาล (nursing home) ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้นและสามารถยอมรับกับสภาวะของตัวเอง เคล็ดลับสำหรับผู้ดูแลชายและหญิง คือ อย่าปล่อยให้เกิดภาวะเหนื่อยล้ามากเกินไป
- เข้าร่วมกับกลุ่มสนับสนุน พูดคุยออนไลน์ หรือพูดคุยส่วนบุคคลเป็นประจำ มีกลุ่มสนับสนุนหลายชนิด บางกลุ่มอาจเฉพาะผู้ชาย บางกลุ่มก็เจาะจงโรคเฉพาะ บางกลุ่มอาจเกี่ยวข้องกับศาสนาและอื่น ๆ นี่คือโอกาสที่ไม่ได้เป็นเพียงการแบ่งปันความทุกข์ร้อนของคุณ แต่ยังจะได้รับข้อมูลเชิงลึกจากผู้ที่มีเส้นทางชีวิตแบบเดียวกัน
- ควรดูแลตัวเอง เริ่มต้นกินอาหารสุขภาพ และออกกำลังกายเป็นประจำ มีการนอนหลับที่ดีต่อเนื่อง แม้เป็นผู้ดูแลผู้ป่วยระยะยาวก็ควรจัดเวลาในการดูแลตนเอง เพื่อการดูแลคนที่คุณรักได้อย่างดี การละเลยดูแลตัวเองทำให้มีภาวะไม่ยั่งยืนและเสี่ยงต่อการไม่สามารถที่จะดูแลคนที่คุณรักแบบเดิม
- การขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากสมาชิกในครอบครัวอื่นๆ หรือผู้ให้บริการด้านดูแลสุขภาพ หรือการช่วยเหลือทางการแพทย์ เป็นการดีกว่าอดทนเก็บไว้กับตัวเอง ผู้ชายมีแนวโน้มที่จะมีบทบาทเป็นผู้ดูแลครอบครัว ซึ่งเป็นงานที่พวกเขาต้องจัดการอย่างอิสระ
- พักผ่อนให้เพียงพอ ทีมดูแลที่มีคุณภาพจะทำให้ได้รับประโยชน์ในทุกคน มีองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร เช่น Caregifted และ Well Spouse Association ที่ให้โอกาสผู้ดูแลครอบครัวสามารถมีการพักผ่อนได้ แม้กระทั่งหนึ่งชั่วโมงในการทำภาระกิจส่วนตัวอย่างใดอย่างหนึ่ง วันละครั้งหรือสัปดาห์ละครั้งก็สามารถสร้างความแตกต่างและช่วยในการเติมพลังของชีวิตได้
หากคุณเป็นผู้ดูแลครอบครัวชาย โปรดรู้ว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียว ถ้าคุณรู้จักผู้ชายที่ให้การดูแลครอบครัว ควรเข้าไปดูว่าเขาได้รับการสนับสนุนที่เขาต้องการเพียงพอแล้วหรือยัง