ในช่วงที่โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกแล้วไม่ต่ำกว่า 10,081,522 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้วไม่ต่ำกว่า 501,298 คน และมีรายงานว่า มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นวันละไม่ต่ำกว่า 10,000 คน (ข้อมูลจาก WHO 29 มิถุนายน 2563)
ตัวเลขเหล่านี้เองที่ทำให้หลายคนอดเกิดความวิตกกังวลไม่ได้ว่า ตนเองจะติดเชื้อชนิดนี้ไปด้วยหรือไม่ อีกทั้งปัจจุบันแพทย์ นักวิจัย และนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกต่างก็ยังไม่สามารถคิดค้นยารักษา หรือวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ได้สำเร็จ
ตรวจโควิด-19 (COVID-19) วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 450 บาท ลดสูงสุด 65%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ดังนั้นเพื่อให้คุณสามารถรู้เท่าทันว่า อาการเจ็บป่วยของตนเองใกล้เคียงกับอาการของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไม่ และไม่ทำให้หวั่นวิตกมากเกินไปว่า ตนเองติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไม่ จนเกิดความเครียดตามมา เรามาสำรวจพร้อมกันว่า อาการของผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีอะไรบ้าง
ความหมายของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
โรคติดเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า “โรคโควิด-19 (COVID-19)” หมายถึง โรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus) สายพันธุ์ใหม่ 2019
สำหรับที่มาของชื่อเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) มาจาก CO ซึ่งย่อมาจากชื่อเชื้อไวรัส “Corona” ส่วน VI มาจากคำว่า “Virus” ตัว D มาจากคำว่า “Disease” ซึ่งแปลว่า “โรค” และเลข 19 มาจาก ค.ศ. 2019 ที่เริ่มมีการแพร่ระบาด
เชื้อไวรัสโคโรนาเป็นเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคไข้หวัดธรรมดา รวมถึงโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจอยู่แล้ว โดยเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้ถูกค้นพบแล้วทั้งหมด 6 สายพันธ์
ส่วนเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 คือ เชื้อไวรัสสายพันธุ์ที่ 7 ซึ่งเพิ่งเกิดขึ้นใหม่ และกำลังแพร่ระบาดหนักอยู่ทั่วโลกในขณะนี้ ก่อนจะได้รับการตั้งชื่อใหม่ในภายหลังว่า “เชื้อไวรัสโควิด-19”
อาการของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
อาการทั่วไปของผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะคล้ายคลึงกับอาการโรคไข้หวัดมาก โดยอาการทั่วไปที่สังเกตได้ และพบได้มาก ได้แก่
โปรแกรมตรวจสุขภาพวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 99 บาท ลดสูงสุด 96%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
- อ่อนเพลีย
- น้ำมูกไหล
- หายใจลำบาก
- ไอแห้ง
- เจ็บคอ
- มีเสมหะมาก
- เบื่ออาหาร
- ปวดเมื่อยตามตัว
- มีไข้
อาการเหล่านี้จะแสดงออกมาภายใน 2-14 วันหลังจากติดเชื้อไวรัส นอกจากนี้ ยังมีอาการอื่นๆ ที่พบได้อีก แต่มักเป็นอาการไม่รุนแรงมากนัก เช่น
- ปวดศีรษะ
- หนาวสั่น
- ประสาทการรับกลิ่น และรับรสไม่เหมือนเดิม
- คลื่นไส้อาเจียน
- ท้องเสีย
จะเห็นได้ว่า อาการของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะใกล้เคียงกับอาการโรคไข้หวัดธรรมดามาก เพียงแต่โรคไข้หวัดธรรมดาจะไม่ทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนรุนแรง หากพักผ่อนให้เพียงพอร่วมกับรับประทานยาตามแพทย์สั่งก็หายได้
แต่การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สามารถลุกลามทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการปอดอักเสบ ปอดบวม ไตวาย และเสียชีวิตได้
วิธีรับมือหากมีอาการของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
หากคุณพบว่า ตนเองมีอาการเจ็บป่วยคล้ายกับอาการของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือได้ไปอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัส หรือเพิ่งเดินทางกลับจากประเทศและพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ให้สังเกตว่า ตนเองมีอาการรุนแรงมากขนาดไหน
หากอาการยังไม่รุนแรง เช่น มีไข้ต่ำ ไอเพียงเล็กน้อย ก็ยังไม่ต้องมาพบแพทย์ แต่ให้กักตัวอยู่ในบ้าน รวมถึงแยกตัวอยู่ให้ห่างจากสมาชิกภายในบ้านเดียวกันเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อเป็นเวลา 14 วัน หากต้องพบเจอใครในพื้นที่ใกล้เคียง ต้องเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร
ในระหว่างการกักตัว ต้องรักษาสุขอนามัยร่างกายให้สะอาดอย่างเคร่งครัด และหากครบกำหนดการกักตัวแล้วแต่อาการยังไม่ดีขึ้น หรือหายใจลำบาก ให้ติดต่อโรงพยาบาลเพื่อขอรับการวินิจฉัยทันที
โปรแกรมตรวจสุขภาพวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 99 บาท ลดสูงสุด 96%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
นอกจากนี้ยังมีอาการฉุกเฉินอื่นๆ ที่ควรรีบติดต่อโรงพยาบาลโดยทันที
- หายใจไม่ออก
- เจ็บหน้าอก หรือแน่นหน้าอกกระทันหัน
- ปากซีด หรือหน้าซีด
- มีอาการสับสน รู้สึกตัวน้อยลง
วิธีตรวจหาเชื้อ
หากอยากรู้ว่า ตนเองติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไม่ คุณจะต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลเพื่อขอตรวจทางห้องปฏิบัติการต่อไป
วิธีตรวจวิเคราะห์ที่ทางห้องปฏิบัติการเครือข่ายของโรงพยาบาล กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สถาบันวิทยาศาสตร์สาธารณสุข และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ในส่วนภูมิภาคใช้ในการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้แก่
- การตรวจหาสายพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโควิด-19 (Real-Time PCR: RT-PCR)
- การเพาะเลี้ยงเชื้อไวรัส
- การตรวจหาแอนติเจน (Antigen) ของเชื้อไวรัส
- การตรวจภูมิคุ้มกันด้วยชุดทดสอบ (IgM/IgG) แบบรวดเร็ว (Rapid Test) แต่วิธีนี้จะทำได้ในผู้ป่วยที่มีอาการป่วยมาแล้ว 5-7 วัน หรือเคยได้รับเชื้อมาแล้ว 10-14 วัน
ปัจจุบันยังไม่มียา หรือวัคซีนสำหรับรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้โดยตรง มีแต่การจ่ายยาเพื่อรักษา หรือบรรเทาอาการของโรคให้ดีขึ้นเท่านั้น ซึ่งยาเหล่านั้นจะต้องเป็นยาที่สั่งจ่ายจากแพทย์เท่านั้น
มีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หลายราย รวมถึงประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดว่า สามารถซื้อยาต้านไวรัส หรือยาปฏิชีวนะมารับประทานเองเพื่อรักษาโรค นั่นเป็นความเชื่อที่ผิดเพราะอาการของโรคติดเชื้อโควิด -19 ยังไม่มีการคิดค้นยาตัวใหม่ หรือวัคซีนเพื่อป้องกันโรคได้โดยเฉพาะ
ดังนั้นจึงต้องรู้จักวิธีป้องกันตนเองให้ห่างไกลจากการติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ เช่น
- สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกไปในพื้นที่สาธารณะ
- หมั่นล้างมือด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล อย่างน้อย 20 วินาที/ครั้ง
- หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายกับติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เช่น ไอ จาม น้ำมูกไหล เหนื่อยหอบ
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่แออัดไปด้วยผู้คน ง่ายต่อการกระจายเชื้อโรค และไม่สัมผัสพื้นผิว หรือสิ่งที่คนจับอยู่บ่อยๆ เช่น ราวบันได ก๊อกน้ำ ห่วงจับบนรถไฟฟ้า หากจับแล้วให้รีบล้างมือ หรืออย่านำไปสัมผัสโดนใบหน้า จมูก ปาก รวมทั้งข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว
ที่สำคัญอย่าเพิ่งวางใจแม้ว่า จะมีรายงานเกี่ยวกับปริมาณผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศลดน้อยลงเรื่อยๆ หรือมีตัวเลขเป็นศูนย์ติดต่อกันนานเกิน 28 วัน หรือทางรัฐมีมาตรการลดหย่อนให้ผู้คนสามารถออกมาในพื้นที่สาธารณะได้ ร้านค้า ธุรกิจ และบริการต่างๆ สามารถเปิดบริการเป็นปตกิแล้ว
เหตุผลเนื่องจากตราบใดที่ยังไม่มีการคิดค้นยา หรือวัคซีนป้องกันไวรัสชนิดนี้ได้ คุณก็ยังต้องดูแลตนเองอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้ตนเองติดเชื้อไปด้วย
เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจหาเชื้อ COVID-19 จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android