วริษา ศรีเปลี่ยนจันทร์
เขียนโดย
วริษา ศรีเปลี่ยนจันทร์
นพ.ธนู โกมลไสย
ตรวจสอบความถูกต้องโดย
นพ.ธนู โกมลไสย

มือลอกเกิดจากอะไร สาเหตุแค่เพราะขาดวิตามินจริงหรือเปล่า?

รวมสาเหตุที่ทำให้มือลอก วิธีรักษา การดูแล และป้องกันไม่ให้มือลอก
เผยแพร่ครั้งแรก 2 ต.ค. 2020 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 ตรวจสอบความถูกต้อง 11 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 5 นาที
มือลอกเกิดจากอะไร สาเหตุแค่เพราะขาดวิตามินจริงหรือเปล่า?

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • มือลอกเป็นอาการที่หนังกำพร้าบริเวณมือหลุดลอกเป็นขุย มักเกิดร่วมกับอาการมือหยาบกร้าน ไม่สบายผิว รู้สึกคันระคายเคืองด้วย
  • มือลอกมีปัจจัยทำให้เกิดได้หลายอย่าง เช่น สภาพอากาศที่แห้ง การสัมผัสแสงแดดแรงๆ การล้างมือบ่อยเกินไป การแพ้สารเคมี ภาวะผิวหนังอักเสบ โรคสะเก็ดเงิน
  • มือลอกสามารถรักษาได้หลายวิธี เช่น ทาครีมเพิ่มความชุ่มชื้น ประคบเย็น อาบน้ำเย็น งดใช้สารเคมี หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ทำให้แพ้ 
  • วิธีป้องกันอาการมือลอกโดยหลักๆ คือ ทำให้ร่างกายอบอุ่นและผิวหนังมีความชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา รวมถึงไม่ทำให้ร่างกายขาดวิตามินที่มีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิวหนังด้วย เช่น วิตามินบี 3 วิตามินซี วิตามินอี
  • เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจฉีดวิตามิน

มือลอกเป็นอาการที่หลายคนเคยเผชิญแต่มักไม่ค่อยทราบสาเหตุกัน โดยหลายคนจะคิดว่า อาการมือลอกนั้นต้องมาจากการขาดความชุ่มชื้นที่ผิวเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว อาการมือลอกสามารถเกิดได้จากสาเหตุมากกว่านั้น

ความหมายของอาการมือลอก

มือลอก (Skin peeling on hands) เป็นอาการที่ผิวหนังชั้นหนังกำพร้าที่มือหลุดลอกออกมาเป็นขุยๆ หรือเป็นแผ่นๆ และมักมีอาการมือแห้งหยาบกร้าน ไม่นุ่มนวลร่วมด้วยจนทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายผิว ระคายเคือง คัน หรืออาจรู้สึกเจ็บที่ผิว

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจแร่ธาตุวิตามินวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 97 บาท ลดสูงสุด 68%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

ผิวที่อวัยวะส่วนอื่นซึ่งมักมีอาการลอกร่วมกับบริเวณมือคือ บริเวณริมฝีปากและเท้า

สาเหตุที่ทำให้มือลอก

สาเหตุที่มักทำให้เกิดอาการมือลอกขึ้น มีดังต่อไปนี้

1. สภาพอากาศ

เป็นสาเหตุที่หลายคนมักคาดเดาไว้เป็นอันดับหนึ่ง โดยสภาพอากาศที่แห้งมีส่วนทำให้ความชุ่มชื้นของผิวหนังลดน้อยลงได้ และเมื่อผิวหนังแห้งมากๆ ก็มีโอกาสหลุดลอกออกมาได้นั่นเอง

2. การสัมผัสแสงแดด

รังสีอัลตราไวโอเลต หรือรังสียูวี (Ultraviolet: UV) จากแสงแดดสามารถทำให้ผิวหนังไหม้จนกลายเป็นสีแดง ทำให้เกิดความรู้สึกอุ่นและแสบ จากนั้นผิวหนังบริเวณที่สัมผัสรังสีมากๆ จะค่อยๆ หลุดลอกออก

สำหรับผิวบริเวณแขน มือ และขา ซึ่งเป็นผิวหนังที่มักจะอยู่นอกร่มผ้าจึงมีโอกาสสัมผัสแสงแดดได้บ่อยๆ ผิวหนังบริเวณนี้จึงมีโอกาสหลุดลอกได้ง่ายกว่าผิวหนังส่วนอื่นๆ 

ส่วนผู้ที่ต้องทำงานด้านนอกอาคารอยู่บ่อยๆ ควรสวมถุงมือ และทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันรังสียูวี มิฉะนั้นจะมีความเสี่ยงที่ผิวจะไหม้ และเป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้ง่ายกว่าคนทั่วไป 

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจแร่ธาตุวิตามินวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 97 บาท ลดสูงสุด 68%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

3. ล้างมือบ่อยๆ

หลายคนอาจคิดว่า การล้างมืออย่างถูกวิธีสามารถช่วยชะล้างเชื้อโรคออกไปจากมือได้ นั่นถือเป็นเรื่องที่เหมาะสมและควรปฏิบัติอย่างยิ่งโดยเฉพาะในช่วงที่โควิด-19 กำลังแพร่ระบาด 

แต่ในทางกลับกัน การล้างมือไม่ว่าจะด้วยน้ำเปล่า ล้างด้วยสบู่ หรือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ก็ถือเป็นการชะล้างเอาน้ำมันที่ช่วยสร้างความชุ่มชื้นออกไปจากผิวด้วย

เมื่อน้ำมันธรรมชาติถูกชะล้างออกไปจากผิวบ่อยๆ จึงทำให้ผิวบริเวณนั้นเหลือสารน้ำหล่อเลี้ยงให้เกิดความชุ่มชื้นไม่เพียงพอ และทำให้ผิวแห้งจนหลุดลอก หรือเกิดอาการผื่นแพ้สารในสบู่ หรือสารในน้ำยาล้างมือที่ใช้ล้างมือได้

4. พฤติกรรมดูดนิ้ว

พฤติกรรมดูดนิ้ว (Finger sucking) มักพบมากที่สุดในกลุ่มเด็กๆ ตั้งแต่เด็กทารกอายุ 18 สัปดาห์ไปจนถึงเด็กอายุประมาณ 4 ขวบ แล้วหลังจากนั้นพฤติกรรมนี้ก็จะค่อยๆ ลดลงไปเมื่อพวกเขาโตขึ้น

พฤติกรรมดูดนิ้วอย่างต่อเนื่องและเป็นประจำทำให้น้ำลายไปที่ล้างเอาน้ำมันธรรมชาติที่ผิวนิ้วออกไป เมื่อผิวหนังของนิ้วที่เด็กดูดมีความชื้นจากน้ำลายมากขึ้นๆ จะเกิดอาการเปื่อยและเซลล์ผิวชั้นนอกก็จะค่อยๆ หลุดลอกออกได้ในที่สุด 

5. การสัมผัสสารเคมี

สารเคมีที่ทุกคนใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นสบู่ แชมพู ครีมบำรุงผิว ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม สามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพผิวได้ทั้งนั้น

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจแร่ธาตุวิตามินวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 97 บาท ลดสูงสุด 68%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

โดยสารเคมีในผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจเข้าไปสร้างความระคายเคืองในชั้นผิว ถึงแม้จะเป็นสารต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย หรือช่วยบำรุงผิวก็ตาม

แต่เพราะผิวของแต่ละคนมีการตอบสนองต่อสารที่สัมผัสกับร่างกายแตกต่างกัน ถึงแม้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะมีการโฆษณาว่า ช่วยสร้างความชุ่มชื้น หรือเหมาะกับผู้ที่แพ้สารเคมีง่าย แต่ทุกคนก็สามารถแพ้สารเคมีทุกตัวได้โดยไม่อาจคาดเดาได้ล่วงหน้า

ผลจากการแพ้สารเคมี หรือเกิดความระคายเคืองนี้ สามารถแสดงอาการผิดปกติได้ด้วยอาการผิวหนังลอกนั่นเอง

6. ภาวะผิวหนังอักเสบ

ภาวะผิวหนังอักเสบจนเกิดการหลุดลอก (Exfoliative keratolysis) เป็นประเภทของภาวะผิวหนังอักเสบที่มักพบในช่วงฤดูร้อน หรือเวลาอากาศร้อนจัด

ภาวะผิวหนังอักเสบนี้จะมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำขึ้นมาก่อน ก่อนที่จะแตกออก และทำให้ชั้นผิวหนังกำพร้าแยกออกจากกันจนกลายเป็นแผลแห้ง มีสีแดง และทำให้เกิดอาการเจ็บแสบตามมา แต่จะไม่เกิดอาการคันระคายเคือง

ภาวะผิวหนังอักเสบจนเกิดการหลุดลอกนอกจากจะเกิดจากสภาพได้แล้ว ยังเกิดได้จากการสัมผัสสารเคมีบางอย่างที่สร้างความระคายเคืองได้อีกด้วย

นอกจากภาวะผิวหนังอักเสบ ยังมีอีกโรคที่มีอาการคล้ายกันอีก ชื่อว่า “โรคผื่นผิวหนังอักเสบที่มือ (Hand eczema)” ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อยๆ ในกลุ่มวัยกลางคน หรือวัยทำงาน เพราะมีการสัมผัสสารเคมี หรือสิ่งแปลกปลอมได้บ่อย

กลุ่มผู้ที่สัมผัสสารเคมีบ่อยๆ อย่างช่างเสริมสวย ช่างทำผม ช่างทาเล็บ ทันตแพทย์ พยาบาล คนงานก่อสร้าง เป็นอีกกลุ่มอาชีพที่เสี่ยงเป็นโรคนี้ได้ โดยอาการของโรคผื่นผิวหนังอักเสบที่มือโดยหลักๆ จะได้แก่

  • เป็นผื่นแดง และอาจมีน้ำหนองไหลออกมาด้วย
  • ผิวหนังเป็นขุย แห้ง และหลุดลอก
  • มีตุ่มน้ำเล็กๆ ขึ้นที่มือ รวมถึงซอกนิ้ว ง่ามมือ
  • รู้สึกคันระคายเคืองผิวหนัง

7. โรคสะเก็ดเงิน

โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) เป็นโรคผิวหนังอักเสบซึ่งเกิดจากการแบ่งตัวผิดปกติของเซลล์ผิวหนัง มักเกิดบริเวณหนังศีรษะ แผ่นหลังส่วนล่าง ข้อศอก หัวเข่า หนังศีรษะ แต่ก็สามารถเกิดที่บริเวณอื่นๆ ของร่างกายได้เช่นกัน

โรคสะเก็ดเงินมีอาการโดยหลักๆ คือ เกิดผื่นแดงเรื้อรัง มีขอบชัดเจน ก่อนจะกลายเป็นขุยหลุดลอกในภายหลัง

ขาดวิตามินทำให้มือลอกได้จริงหรือไม่?

อีกสาเหตุที่หลายๆ คนมักกล่าวกันว่า เป็นตัวการทำให้เกิดอาการผิวมือลอกก็คือ ร่างกายขาดวิตามินและแร่ธาตุบางชนิด ซึ่งก็มีส่วนได้เช่นกัน เช่น

  • วิตามินบีสาม เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนสำคัญในบำรุงดูแลผิวหนัง การขาดวิตามินบี 3 จึงมีส่วนทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย ปวดท้อง เบื่ออาหาร และอีกอาการ คือ ผิวแห้งจนหลุดลอกเป็นขุย

  • วิตามินซี เป็นสารวิตามินเสริมสร้างคอลลาเจน เพิ่มความชุ่มชื้น และเสริมเซลล์ผิวของร่างกายให้เพียงพอ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเกือบทุกชนิดจึงมักมีสารวิตามินซีรวมอยู่ด้วย ดังนั้นจึงไม่แปลกที่หากขาดวิตามินตัวนี้ แล้วผิวมือรวมถึงผิวหนังส่วนอื่นๆ จะมีสุขภาพแย่ลงจนหลุดลอกออกมา

  • วิตามินอี ซึ่งเป็นวิตามินเสริมสร้างคอลลาเจนให้กับผิว หากร่างกายไม่ได้วิตามินตัวนี้เพียงพอ ก็อาจเกิดอาการผิวแห้ง และแตกจนลอกเป็นขุยได้

หากอยากให้ร่างกายได้รับสารวิตามินครบถ้วนในเวลาอันเร่งด่วน ก็สามารถไปเข้ารับตัวช่วยด้วยการฉีดวิตามิน หรือรับวิตามินบำรุงทางเส้นเลือดได้ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดโอกาสการเกิดมือลอกได้แล้ว ยังช่วยให้ผิวพรรณและสุขภาพของคุณดีขึ้นไปอีกด้วย

การรักษาอาการมือลอก

วิธีการรักษาอาการมือลอกนั้นทำได้ไม่ยาก และมักรักษาไปตามสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ

  • ทาครีม หรือเจลเพิ่มความชุ่มชื้นเป็นประจำ ทั้งหลังล้างมือและหลังอาบน้ำ เพื่อให้ผิวคงความชุ่มชื้นเอาไว้
  • ประคบเย็น หากอาการมือลอกเกิดจากการสัมผัสแดด หรือของร้อนจัด จากนั้นทายาสำหรับรักษาอาการผิวไหม้ หรือแสบร้อนบริเวณที่ผิวลอก
  • หากอาการมือลอกมาจากสภาพอากาศร้อน หรือแห้ง ให้อาบน้ำเย็น เพื่อให้ผิวได้สัมผัสอุณหภูมิที่ต่ำลง รวมถึงเปิดเครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศร่วมด้วย
  • หากผิวมือลอกจากการสัมผัสสารเคมี ให้รีบล้างมือให้สะอาดโดยใช้สบู่สูตรอ่อนโยนต่อผิว หลังจากนั้นให้หยุดใช้สารที่ทำให้เกิดอาการผิวลอกโดยทันที
  • หากรู้สึกเจ็บแสบผิวมาก ให้รับประทานยาแก้ปวดบรรเทาอาการ เช่น พาราเซตามอล (Paracetamol) 
  • ทายาสำหรับผลัดเซลล์ผิวซึ่งโดยปกติจะเป็นยาประเภทที่มีกรดแลคติค (Lactic acid) หรือสารยูเรีย (Urea) ผสมอยู่ด้วย
  • สวมถุงมือหากมีอาการผิวมือลอกร่วมกับมีตุ่มน้ำ เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บ และไม่ทำให้ตุ่มน้ำแตก อย่าเพิ่งใช้ครีม หรือเจลเพิ่มความชุ่มชื้นใดๆ แต่ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อหาวิธีรักษาอาการนี้อย่างเหมาะสม

    โดยวิธีรักษานั้น แพทย์อาจจ่ายยาสเตียรอยด์สำหรับลดอาการคันระคายเคืองและลดผื่นขึ้นมาให้ โดยให้ใช้ร่วมกับครีมเพิ่มความชุ่มชื้น นอกจากนี้แพทย์อาจจ่ายผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือที่อ่อนโยนเป็นพิเศษต่อผิวมาให้ด้วย

  • การฉายแสง เป็นวิธีที่แพทย์ใช้รักษาในผู้ที่มีอาการผิวหนังอักเสบอย่างรุนแรง และไม่สามารถรักษาด้วยยาทา หรือยารับประทานได้

วิธีป้องกันอาการมือลอก

คุณสามารถทำตามคำแนะนำต่อไปนี้ เพื่อลดโอกาสเกิดอาการมือลอก รวมถึงผิวหนังลอกที่อวัยวะส่วนอื่นๆ ด้วย

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารที่แพ้ หรือทำให้เกิดอาการผิวหนังระคายเคืองทุกชนิด
  • ไม่ควรล้างมือบ่อยๆ เกิน 2-3 ครั้งต่อวัน ยกเว้นแต่มีการสัมผัสสิ่งสกปรกอย่างต่อเนื่องทั้งวัน และไม่ควรล้างมือด้วยน้ำอุ่น หรือน้ำร้อน เพราะจะทำให้ความชุ่มชื้นของผิวหายไป
  • ทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะหลังอาบน้ำ และหลังล้างมือ
  • ทาครีมกันแดดบริเวณผิวหนังที่อยู่นอกร่มผ้าซึ่งให้ค่า SPF 30 ขึ้นไปทุกครั้งที่ต้องออกนอกบ้าน และหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่แดดจัดเป็นเวลานาน
  • สวมถุงมือและปลอกแขนหากต้องสัมผัสสารเคมี หรืออยู่ในที่แดดจัดมากๆ เพื่อไม่ให้ผิวสัมผัสความร้อน หรือสารอันตรายจนเกิดผลข้างเคียง
  • ทำร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอเมื่ออยู่ในฤดูกาลที่สภาพอากาศแห้งจัด หากมีอาการอย่างรุนแรง แนะนำให้ซื้อเครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศติดไว้ที่บ้านด้วย
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ให้สารอาหาร และวิตามินครบถ้วน เพื่อไม่ให้เกิดภาวะขาดวิตามินจนส่งผลให้เกิดอาการผิวลอก

อาการผิวลอกไม่ใช่อาการร้ายแรงถึงชีวิต แต่ก็สามารถสร้างความรำคาญ ทำให้เกิดอาการเจ็บแสบระหว่างทำกิจกรรมต่างๆ ได้ ดังนั้นคุณจึงต้องดูแลสุขภาพผิวของตนเองให้ดี โดยไม่ใช่แค่ผิวมือเท่านั้น 

แต่ยังรวมไปถึงผิวหนังส่วนอื่นๆ ของร่างกายที่ต้องได้รับการบำรุงดูแลอย่างดีด้วยเช่นกัน

เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจฉีดวิตามิน จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android


9 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Stacy Sampson, Can Cracked Heels Be Caused by a Vitamin Deficiency? (https://www.healthline.com/health/cracked-heels-vitamin-deficiency), 29 September 2020.
Owen Kramer, What Causes Skin Peeling on Hands? (https://www.healthline.com/health/skin-peeling-on-hands), 29 September 2020.
Jackson, Simon M.; Williams, Mary L.; Feingold, Kenneth R.; Elias, Peter M. (1993). "Pathobiology of the Stratum Corneum". The Western Journal of Medicine. 158 (3): 279–85. PMC 1311754. PMID 8460510.

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป
ปากนกกระจอก เกิดจากอะไร หายเองได้ไหม?
ปากนกกระจอก เกิดจากอะไร หายเองได้ไหม?

ปากนกกระจอก เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น มีสรีระหรือพฤติกรรมที่ทำให้เกิดน้ำลายขังมุมปาก มีโรคภายใน ติดเชื้อ ฯลฯ บางสาเหตุหายเองได้ บางสาเหตุต้องรับการรักษาจากแพทย์เท่านั้น

อ่านเพิ่ม
โรคขาดสารอาหาร คืออะไร มีกี่แบบ รักษาได้อย่างไรบ้าง?
โรคขาดสารอาหาร คืออะไร มีกี่แบบ รักษาได้อย่างไรบ้าง?

โรคขาดสารเป็นโรคที่ยังพบได้แม้ภาวะเศรษฐกิจและรายได้ประชากรเพิ่มขึ้น โรคนี้มีหลายสาเหตุ การรักษาเฉพาะสำหรับแต่ละสาเหตุจึงแตกต่างกันออกไป

อ่านเพิ่ม
บลูเบอร์รีมีดีอย่างไร?
บลูเบอร์รีมีดีอย่างไร?

รวมประโยชน์ต่อสุขภาพของผลเบอร์รี

อ่านเพิ่ม