บอกลาปัญหาเล็บแห้งหรือลอกด้วย 8 วิธีบำรุงเล็บที่ใครๆ ก็ทำได้

เผยแพร่ครั้งแรก 19 ก.ค. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
บอกลาปัญหาเล็บแห้งหรือลอกด้วย 8 วิธีบำรุงเล็บที่ใครๆ ก็ทำได้

หนึ่งในกิจกรรมยามว่างที่ผู้หญิงหลายคนโปรดปรานก็คือ การทาเล็บนั่นเอง แม้ว่ามันทำให้เรามีเล็บที่สวยสะดุดตา แต่หลังจากนั้นคุณอาจพบว่ามีปัญหาต่างๆ ตามมา เล็บของคุณอาจลอก แตก หรือแห้งกร้าน ส่งผลให้คุณมีสภาพเล็บที่ไม่น่ามองและทำให้คุณเจ็บตัวหากเล็บที่เปราะบางหัก หากตอนนี้คุณกำลังเผชิญปัญหาดังกล่าว วันนี้เราได้รวบรวมหลากวิธีดูแลเล็บมาให้คุณดูเป็นแนวทางแล้วดังนี้

1.แช่เล็บในน้ำมันมะกอก

หากเล็บของคุณบางและอ่อนแอ ให้คุณแช่เล็บในน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษ 10-15 นาทีต่อวันเป็นเวลา 1 เดือน แล้วค่อยลดเหลือ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งมันจะช่วยเสริมความแข็งแรงให้เล็บที่เสียหาย อ่อนแอ หรือลอก น้ำมันจะดูดซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อรองเล็บ (Nail Bed) และเพิ่มความชุ่มชื้นได้นานกว่าครีมหรือเจล

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

2.ใช้ Cuticle Cream

การใช้ Cuticle Cream สามารถช่วยบำรุงจมูกเล็บที่แห้ง เปราะ และเสียหาย โดยให้คุณใช้ครีมนวดบนเล็บและรอบๆ เล็บก่อนเข้านอน อย่างไรก็ดี การล้างมือบ่อยๆ และการตกแต่งเล็บสามารถทำให้จมูกเล็บแห้ง หากไม่บำรุงอย่างเหมาะสม มันก็จะแตกและถลอก ทำให้มีโอกาสติดเชื้อมากขึ้น

3.อย่าใช้เล็บมากเกินไป

เล็บมือของเราไม่ได้เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เปิดกระป๋องน้ำอัดลมหรือสิ่งต่างๆ ซึ่งการใช้เล็บทำอย่างที่ว่าสามารถทำให้เล็บเปราะได้ ทางที่ดีให้คุณใช้ปากกาหรือวัตถุอื่นๆ แทนเล็บมือในการฉีก แกะ หรือเปิดสิ่งของ เพื่อที่เล็บของคุณจะได้มีสุขภาพดีไปนานๆ

4.ใส่ถุงมือทำงานบ้าน

ในขณะที่คุณล้างจาน ทำความสะอาดบ้าน และทำสวน คุณควรสวมถุงมือ เพราะผงซักฟอก และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสามารถทำร้ายเล็บมือ ทำให้เล็บแห้งและลอก ในขณะที่การขุดดินและการปลูกต้นไม้ก็สามารถทำให้เล็บเสียหาย นอกจากนี้ให้คุณใช้มอยส์เจอไรเซอร์เพื่อล็อคความชุ่มชื้นให้ทั้งมือและเล็บ

5.ทานอาหารที่มีไบโอติน

ถ้าอยากให้เล็บมีสุขภาพดี คุณก็ควรทานอาหารที่มีไบโอตินสูง เช่น ตับ ไข่ โฮลเกรน กะหล่ำดอก อะโวคาโด ฯลฯ ซึ่งไบโอตินสามารถช่วยเสริมความแข็งแรงและความหนาให้เล็บ นอกจากนี้คุณยังทานไบโอตินได้ในรูปแบบของอาหารเสริมเช่นกัน

6.ทานวิตามินรวมทุกวัน

วิตามินเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อสุขภาพในภาพรวม และมันยังดีต่อเล็บเช่นกัน อย่างไรก็ดี การขาดวิตามินเอ วิตามินซี และแคลเซียมสามารถทำให้เล็บแห้งและเปราะ นอกจากการทานอาหารที่มีโปรตีนและแคลเซียมสูงแล้ว คุณอาจทานวิตามินรวมและแคลเซียมในรูปแบบอาหารเสริมทุกวัน

7.หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ล้างเล็บ

หากเป็นไปได้ คุณไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ล้างเล็บมากกว่า 1 หรือ 2 ครั้งต่อเดือน และไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างเล็บที่มีส่วนผสมของสารอะซีโตน เพราะมันสามารถทำให้เล็บแห้งและเสียหาย อย่างไรก็ตาม การใช้ยาทาเล็บมากเกินไปจะป้องกันไม่ให้แสงแดดเข้าไปถึงเนื้อเยื่อรองเล็บ และอาจป้องกันไม่ให้เล็บรักษาตัวเองและสร้างเซลล์ใหม่ ซึ่งแสงแดดเป็นสิ่งที่สำคัญต่อทั้งผิว ผม และเล็บของเรา

8.นวดเล็บ

การนวดเล็บมือจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้มาที่บริเวณนี้ ทำให้เล็บยาวและแข็งแรงขึ้น นอกจากนี้ให้คุณทาโลชั่นที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและนวดมือ จมูกเล็บ และเล็บ รวมถึงให้คุณทาโลชั่นทันทีหลังจากล้างมือจนติดเป็นนิสัย การทำเช่นนี้จะช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้เล็บได้นั่นเอง

การที่คุณจะมีเล็บที่มีสุขภาพดีได้นั้น คุณจำเป็นต้องดูแลในเรื่องของอาหารการกิน โดยเฉพาะการทานอาหารที่เรากล่าวไป รวมถึงหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมีด้วยมือเปล่า รวมถึงหมั่นบำรุงเล็บด้วยมอยส์เจอไรเซอร์

ที่มา:https://www.sheknows.com/beaut...


5 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Peeling skin: Treatment, prevention, and timescales. Medical News Today. (https://www.medicalnewstoday.com/articles/322771)
About Face: How to Handle Dry Skin Under Your Eyes. Healthline. (https://www.healthline.com/health/dry-skin-under-eyes)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป
10 อาหารสุขภาพที่มีวิตามิน E สูง
10 อาหารสุขภาพที่มีวิตามิน E สูง

รวบรวมอาหารเพื่อสุขภาพที่อุดมด้วยวิตามิน E เพื่อจะได้เติมประโยชน์ได้ร่างกายกันได้ง่ายขึ้น

อ่านเพิ่ม