ตั้งแต่ในปี ค.ศ. 1910 นาทาเนียล บอลด์วิน (Nathaniel Baldwin) ชาวอังกฤษ ได้คิดค้นประดิษฐ์ชุดหูฟังวิทยุเป็นคนแรก ทำให้มีการพัฒนาต่อยอดมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน สิ่งที่ใช้ควบคู่กับสมาร์ตโฟนหรือแล็ปท็อปที่ขาดไม่ได้ ก็คือ “หูฟัง” นั่นเอง
หูฟังของหลายค่ายต่างแข่งกันพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้ทันสมัย มีลูกเล่นหลากหลาย หลายคนจึงใช้หูฟังติดหูเป็นเวลานาน ในบทความนี้จะอธิบายถึงว่า การใช้หูฟังนั้นเป็นอันตรายต่อการได้ยินหรือไม่ เปิดเพลงดังเท่าไรถึงจะเป็นอันตราย ใช้หูฟังได้นานแค่ไหนถึงจะปลอดภัย
ตรวจ รักษา หู คอ จมูก วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 854 บาท ลดสูงสุด 54%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
การใส่หูฟังมีผลต่อการสูญเสียการได้ยินหรือไม่ อย่างไร?
การได้รับเสียงดังจนเกินไปย่อมเป็นอันตรายต่อการได้ยิน ทำให้สูญเสียการได้ยินจากเสียงได้ (Noise-induced hearing loss) เสียงจากหูฟังก็เช่นกัน หากผู้ฟังเปิดเสียงดังเกินไป ฟังติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน จะทำให้สูญเสียการได้ยินได้
ตามคำแนะนำในผู้ที่ทำงานซึ่งต้องได้รับมลภาวะทางเสียง ของหน่วยงานป้องกันโรคติดต่อของประเทศสหรัฐอเมริกา (Centers for Disease Control:CDC) กำหนดให้ไม่ควรได้รับเสียงความดัง 85 เดซิเบล ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 8 ชั่วโมง
ซึ่งมีการศึกษาวิจัยว่า หากได้รับเสียงดังเท่านี้เกินเวลา 8 ชั่วโมงจะเป็นอันตรายต่อการได้ยิน และในทุกๆ ความดังที่เพิ่มขึ้น 3 เดซิเบลจาก 85 เดซิเบลนั้น จะสามารถรับเสียงได้ติดต่อกันนานลดลงครึ่งหนึ่ง เพื่อความเข้าใจและประมาณความดังของเสียงต่างๆ ที่ชัดเจน จึงทำเปรียบเทียบดังตารางด้านล่าง
ความดัง | เปรียบเทียบความดังกับสิ่งใกล้ตัว | ระยะเวลาที่ไม่ควรได้รับเสียงติดต่อกันเกิน |
85 dB | เสียงนกหวีด, เสียงรถจักรยานยนต์, เสียงในที่มีการจราจรหนาแน่น | 8 ชั่วโมง |
88 dB | 4 ชั่วโมง | |
91 dB | เสียงแตรรถยนต์, เสียงเครื่องตัดหญ้า, เสียงเครื่องจักรในโรงงาน | 2 ชั่วโมง |
94 dB | 1 ชั่วโมง | |
97 dB | เสียงไซเรนในระยะประมาณ 30 เมตร, เสียงขุดเจาะถนน | 30 นาที |
100 dB | 15 นาที |
มีการสำรวจค่าเฉลี่ยของหูฟังที่คนทั่วไปฟัง พบว่ามีความดังประมาณ 100 เดซิเบล ซึ่งหมายความว่า ไม่ควรได้รับเสียงความดังนี้ติดต่อกันเกิน 15 นาที แต่โดยปกติแล้ว การฟังเพลงหรือใช้หูฟังในกิจกรรมต่างๆ มักจะเกิน 15 นาทีแน่นอน
ตรวจ รักษา หู คอ จมูก วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 854 บาท ลดสูงสุด 54%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า พฤติกรรมการใช้หูฟังของคนทั่วไปนั้นเป็นอันตรายต่อการได้ยิน
หูฟังแต่ละประเภทมีผลต่อการสูญเสียการได้ยินต่างกันหรือไม่ อย่างไร?
การใช้หูฟังแต่ละประเภทนั้น ถ้าเสียงที่เข้าไปในหูมีความดังเท่าๆ กัน ก็จะมีผลต่อการสูญเสียการได้ยินไม่แตกต่างกัน แต่การออกแบบหูฟังแต่ละประเภททำให้เสียงที่เข้าสู่หูของผู้ฟังมีลักษณะต่างกัน
เช่น การใช้หูฟังแบบครอบหู (Headphones) จะมีค่าเฉลี่ยความดังที่ใช้ต่ำกว่าการใช้หูฟังแบบเอียร์บัด (Earbuds) ประมาณ 9 เดซิเบล นั่นหมายความว่า จะสามารถใช้หูฟังได้เป็นระยะเวลานานสูงสุดที่จะไม่เป็นอันตรายได้แตกต่างกันถึง 8 เท่า
นอกจากนี้ การใช้หูฟังประเภทได้ยินผ่านกระดูก (Bone conduction headphones) จะมีประโยชน์ในเรื่องของความปลอดภัยในการขับขี่พาหนะบนถนน เนื่องจากสามารถได้ยินเสียงผ่านเข้าไปในรูหูได้ปกติ ขณะกำลังใช้หูฟังชนิดนี้
โดยสรุปแล้ว หูฟังแต่ละชนิดมีการออกแบบให้ใช้ประโยชน์ได้แตกต่างกัน ผู้ฟังควรเลือกชนิดที่เหมาะสม และควรหยุดพักบ้าง ไม่ฟังต่อเนื่องนานเกินไป
นอกจากเรื่องสูญเสียการได้ยิน การใส่หูฟังนานๆ ยังทำให้เกิดผลอะไรได้อีกบ้าง
โดยทั่วไปแล้ว ในรูหูมีเชื้อแบคทีเรียต่างๆ มากมาย แต่ไม่ได้เป็นอันตรายต่อมนุษย์ เนื่องจากในสภาวะปกติ เชื้อแบคทีเรียไม่ได้เจริญเติบโตได้ดีพอที่จะเป็นอันตราย
ตรวจ รักษา หู คอ จมูก วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 854 บาท ลดสูงสุด 54%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
แต่เมื่อมีการใช้หูฟังนานๆ บ่อยๆ จะมีการสะสมของแบคทีเรียจากความชื้น เหงื่อจากการออกกำลังกาย และสิ่งต่างๆทำให้เชื้อแบคทีเรียเพิ่มจำนวนขึ้น เป็นสาเหตุให้มีการติดเชื้อในบริเวณหูชั้นนอก (Otitis externa) ได้
นอกจากนี้การใช้หูฟังที่มีขนาดไม่เหมาะสมกับรูหู เช่น ใส่หูฟังแน่นจนเกินไป อาจทำให้มีอาการเจ็บและเกิดเป็นแผลบริเวณรูหูได้ ซึ่งแผลจากการเสียดสีจากหูฟังก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้มีการอักเสบติดเชื้อบริเวณหูชั้นนอกได้อีกด้วย
จะเห็นได้ว่าพฤติกรรมใกล้ตัวอย่างการใส่หูฟังต่อเนื่องนานๆ ก็อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาการผิดปกติได้ ดังนั้นจึงหมั่นระมัดระวังการทำกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งเป็นเวลานาน และหาโอกาสตรวจสุขภาพประจำปีอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะได้พบความผิดปกติตั้งแต่ในระยะแรกๆ หรือปรึกษาแพทย์ออนไลน์หากพบความผิดปกติบริเวณหู
ข้อแนะนำการใช้งานหูฟังให้ปลอดภัย
คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้หูฟัง ทั้งการเลือกชนิดหูฟัง การปรับระดับความดัง และวิธีเก็บรักษาทำความสะอาด มีดังนี้
- เปิดความดังของหูฟังไม่เกิน 60-70% ของความดังสูงสุด
- แนะนำให้ใช้กฎ 60/60 หมายถึง ฟังที่ระดับความดังไม่เกิน 60% ของความดังสูงสุด เป็นระยะเวลาไม่เกิน 60 นาที แล้วพักการใช้งานเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 30 นาทีก่อนการใช้ครั้งถัดไป
- ใช้หูฟังแบบครอบหูแทนการใช้งานหูฟังแบบอื่นๆ เพื่อตัดเสียงรบกวนจากภายนอก จะได้ใช้ความดังของหูฟังในระดับที่ต่ำลง
- ใช้หูฟังที่สามารถตัดเสียงรบกวนได้ หรือที่รู้จักกันในชื่อ Noise-cancelling headphones หลักการทำงานคือการตัดเสียงรบกวนที่มีความถี่ต่ำออกไป เช่น เสียงรบกวนจากสิ่งแวดล้อม การจราจรที่หนาแน่น ผู้คนพูดคุยกันในที่สาธารณะ
โดยการปล่อยคลื่นที่ตรงกันข้ามกับคลื่นความถี่ต่ำนั้น ทำให้มีการแทรกสอดของคลื่นจากหูฟังและคลื่นจากเสียงรบกวน เมื่อมีเฟส (Phase) ที่ตรงกันข้ามกัน เสียงรบกวนนั้นจึงหายไป การใช้หูฟังชนิดนี้จึงทำให้ใช้ความดังในการฟังลดลงนั่นเอง
- ทำความสะอาดหูฟัง ด้วยสำลีชุบแอลกอฮอล์หมาดๆ เช็ดสิ่งสกปรกออกไปอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
- ไม่ใช้หูฟังร่วมกับผู้อื่น
- เก็บรักษาหูฟังในที่แห้งและสะอาด
ดูแพ็กเกจตรวจสุขภาพ เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจเหล่านี้ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android