ผู้ป่วยโรคเบาหวานมักได้รับคำเตือนจากแพทย์ว่าต้องดูแลเท้าไม่ให้บาดเจ็บหรือติดเชื้อ เพราะการบาดเจ็บใดๆ อาจถึงขั้นทำให้ผู้ป่วยเบาหวานถึงแก่ชีวิตได้ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจากสมาคมโรคเบาหวานแห่งสหรัฐอเมริกา (The American Diabetes Association (ADA)) ระบุว่า ปัญหาที่เกี่ยวกับเท้าถือเป็นสาเหตุสำคัญของการเจ็บป่วย พิการ และเสียชีวิตในผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ซึ่ง ADA ได้แนะนำวิธีดูแลเท้าผู้ป่วยเบาหวานไว้ ดังนี้
1. สำรวจฝ่าเท้าทุกวัน
การดูแลเท้าผู้ป่วยเบาหวาน ควรเริ่มตั้งแต่การสำรวจความผิดปกติอย่างสม่ำเสมอ แม้จะยังไม่รู้สึกเจ็บที่ฝ่าเท้าเลย โดยควรตรวจว่าเกิดรอยแผลจากของมีคม มีแผลเปื่อย บวม มีจุดสีแดง หรือเล็บเท้าติดเชื้อหรือไม่ สำหรับผู้ที่ไม่สามารถโน้มตัวเพื่อดูเท้าของตัวเองได้ และไม่สามารถยกเท้าขึ้นมาดูได้ ให้นำกระจกมาช่วย หรือจะขอให้คนในครอบครัวช่วยดูแลเท้าผู้ป่วยเบาหวานให้
ตรวจเบาหวานวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 78 บาท ลดสูงสุด 83%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
2. ล้างฝ่าเท้าให้สะอาดจนทั่ว
ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรล้างเท้าด้วยน้ำอุ่นทุกวัน หลังจากล้างเท้าแล้ว ให้เช็ดฝ่าเท้าจนแห้ง และใช้แป้งข้าวโพด หรือแป้งทัลคัมทาระหว่างนิ้วเท้าเพื่อให้มั่นใจว่าผิวแห้งสนิท ดูแลเท้าผู้ป่วยเบาหวานด้วยการหลีกเลี่ยงการแช่เท้าในน้ำอุ่นนานๆ เพราะอาจทำให้ผิวแห้ง ซึ่งจะทำให้เกิดแผลที่เท้าได้ง่ายขึ้น
3. เพิ่มความชุ่มชื้นให้ฝ่าเท้า
หลังจากทำความสะอาดฝ่าเท้าแล้ว อย่าลืมทาโลชั่น ครีม หรือปิโตรเลียมเจลลีที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ที่ฝ่าเท้าเพื่อรักษาผิวให้เนียนนุ่ม และชุ่มชื้น ควรทาผลิตภัณฑ์เหล่านี้บริเวณด้านบนและด้านล่างของฝ่าเท้าทุกครั้ง เพื่อดูแลเท้าผู้ป่วยเบาหวาน
4. ตัดเล็บ
ดูแลเท้าผู้ป่วยเบาหวานอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญ คือการตัดเล็บ โดยช่วงเวลาที่เหมาะแก่การตัดเล็บมากที่สุดคือหลังจากอาบน้ำ เพราะเล็บจะเปียกและนุ่มกว่าปกติ และวิธีการตัดเล็บที่ดีที่สุดคือตัดให้เป็นแนวตรง และหลีกเลี่ยงการตัดเล็บที่มุมเล็บเท้า เพื่อป้องกันการเกิดเล็บขบ หลังจากที่ตัดเล็บเสร็จแล้ว ให้ลดความแหลมคมของมุมเล็บด้วยการใช้ตะไบขัดตามที่ต้องการ
5. ใส่รองเท้าที่เหมาะและพอดีกับเท้า
ผู้ป่วยเบาหวานควรใส่รองเท้าเพื่อปกป้องฝ่าเท้าตลอดเวลาที่อยู่ในบ้านและนอกบ้าน รวมถึงควรใส่ถุงเท้าเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดบาดแผลหรือแผลพุพอง หรือดูแลเท้าผู้ป่วยเบาหวานด้วยการให้สวมรองเท้าเพื่อสุขภาพ ที่ถูกออกแบบมาสำหรับผู้ป่วยเบาหวานโดยเฉพาะ เช่น พื้นรองเท้าไม่นิ่มหรือไม่แข็งจนเกินไป บริเวณหัวรองเท้าต้องไม่บีบรัดนิ้วเท้า และภายในรองเท้าต้องสามารถระบายอากาศได้ตลอดเวลา หลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าส้นสูง เพราะอาจทำให้เกิดแรงกดที่ส้นเท้า และอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับเท้าได้
อ่านเพิ่มเติม: วิธีเลือกรองเท้าเพื่อสุขภาพ
6.ทำให้เลือดไหลเวียน
ผู้ป่วยโรคเบาหวานไม่ควรปล่อยให้มีสิ่งใดมากีดขวางการไหลเวียนของเลือดไปยังฝ่าเท้า ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการใส่ถุงเท้าที่รัดแน่น หรือถุงเท้าที่มียางยืดรัดรอบขา รวมถึงไม่ควรนั่งไขว่ห้างและยกขาสูงขณะนั่ง ผู้ช่วยดูแลเท้าผู้ป่วยเบาหวานอาจต้องคอยเตือนให้ผู้ป่วยพยายามเคลื่อนไหวข้อเท้าไปมา หรือกระดิกนิ้วเท้าต่อเนื่องประมาณ 5 นาที จำนวน 2-3 ครั้งต่อวัน หากผู้ป่วยเบาหวานนั้นยังสูบบุหรี่ ควรเลิกสูบโดยเร็วที่สุด เพราะสารพิษในบุหรี่จะไปขัดขวางการไหลเวียนของเลือด และทำให้ออกซิเจนในเลือดน้อยลง ซึ่งอาจทำให้เลือดไหลลงมาเลี้ยงฝ่าเท้าไม่พอ
อ่านเพิ่มเติม: โทษของบุหรี่ และวิธีเลิกบุหรี่
7.ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายเป็นวิธีกระตุ้นให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้น และช่วยให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้น หากผู้ป่วยโรคเบาหวานไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน อาจดูแลเท้าผู้ป่วยเบาหวานง่ายๆ โดยให้เริ่มจากการเดินหรือวิ่งเหยาะๆ ประมาณ 15 นาที อย่าลืมสวมรองเท้าสำหรับเล่นกีฬาโดยเฉพาะ เพื่อเป็นการดูแลเท้าผู้ป่วยเบาหวานอย่างครบถ้วน ครอบคลุม และควรระมัดระวังการเกิดอุบัติเหตุจากการออกกำลังกาย หากเกิดอาการบาดเจ็บขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ทันที