หญิงตั้งครรภ์มักตั้งคำถามแบบกังวลใจเกี่ยวกับอาการจากภาวะตั้งครรภ์(Pregnancy symptoms)ว่า "ทำไมเป็นๆหายๆ." ซึ่งสามารถตอบได้หลายแบบ หญิงตั้งครรภ์มักวนเวียนกับอาการจากภาวะตั้งครรภ์(Pregnancy symptoms) คุณเคยรู้สึกตัวไหมว่ามักถามคำถามซ้ำๆเหล่านี้?
- ฉันมีอาการจากภาวะตั้งครรภ์ (Pregnancy symptoms) ใช่ไหม?
- ฉันมีอาการจากภาวะตั้งครรภ์ (Pregnancy symptoms) พอดีหรือไม่?
- ฉันมีอาการจากภาวะตั้งครรภ์ (Pregnancy symptoms) มากไปไหม?
- ฉันจะมีอาการจากภาวะตั้งครรภ์ (Pregnancy symptoms) ในวันนี้เหมือนอาการเมื่อวานนี้ไหม?
- ร่างกายที่แปลกไปคืออาการจากภาวะตั้งครรภ์ (Pregnancy symptoms) ใช่หรือไม่?
อาการเจ็บเต้านม มันเป็นสัญญาณหนึ่งของการตั้งครรภ์เมื่อมีอาการเจ็บเต้านม คุณคงต้องตรวจสอบตัวเองในระหว่างวันดังนี้ ; ลองยกแขนของคุณขึ้นเหนือหน้าอกและกดเล็กน้อย หากรู้สึกเจ็บ ก็คง "ใช่!" แต่ถ้าไม่เจ็บคุณคง
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- กังวล
- กดแรงขึ้นเพื่อตรวจสอบ
- หลังการตรวจสอบคุณเริ่มที่จะกังวลมากขึ้นถ้าหน้าอกของคุณมีอาการเจ็บ เพราะอาจจะไม่ได้เป็นอาการจากภาวะตั้งครรภ์(Pregnancy symptoms)แต่อาจเป็นอาการเจ็บที่เกิดจากการกด
มีคำถามถึงกรณีหญิงตั้งครรภ์ที่ยังหมั่นไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสว่าควรทำตัวอย่างไร ? ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้หญิงมักทำอย่างต่อเนื่อง คำตอบคือไม่ควรกังวลมากไปเกี่ยวกับอาการที่เกิดขึ้น สิ่งสำคัญคือควรปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อมีอาการจากภาวะตั้งครรภ์(Pregnancy symptoms)
เมื่อคุณมีอาการไอ, อาการไออาจเป็นๆหายๆ ไอสักครู่แล้วหยุด แล้วไอต่อในภายหลัง ไม่ได้นั่งและไออย่างต่อเนื่องเป็นเวลาสองสัปดาห์ แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ได้มีอาการไอ
เช่นเดียวกันอาการตั้งครรภ์ อาจเป็นๆหายๆ ไม่ได้เป็นต่อเนื่อง และเมื่อไม่มีอาการ ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ได้ตั้งครรภ์ อาการจากภาวะตั้งครรภ์ก็จะมีอาการเป็นๆหายๆเช่นนี้เสมอ
เมื่อไหร่ที่ควรกังวลเกี่ยวกับอาการจากภาวะตั้งครรภ์ (Pregnancy symptoms)?
ความกังวลที่เหมาะสมคือความถี่หรือจำนวนวันที่เกิดอาการไม่สบาย พึงระลึกไว้ว่าบางวันคุณจะไม่รู้สึกป่วย และบางวันก็ป่วยมากกว่าวันอื่นๆ นี่คือความปกติของอาการจากภาวะตั้งครรภ์(Pregnancy symptoms) คุณอาจสังเกต 5 -6 อาการแสดงที่เกิดขึ้นระหว่างวัน เช่น : แพ้ท้อง(morning sickness) อ่อนเพลีย(fatigue) เจ็บหน้าอก(sore breast) หนักท้อง(heavy uterus) และวิงเวียน(dizzy) คุณอาจไม่มีอาการแสดงครบหมดหรือเกิดอาการตลอดเวลา แต่อาจเกิดอาการใดอาการหนึ่งในระหว่างวัน
สิ่งที่อาจเป็นปัญหาคือการตื่นขึ้นมาและไม่พบอาการของภาวะตั้งครรภ์เลย คุณรู้สึกเหมือนไม่ได้ตั้งครรภ์อีกแล้ว ซึ่งกรณีนี้ควรไปปรึกษาแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพบสัญญาณที่น่าเป็นห่วงเช่น ตะคริวหรือมีเลือดออก แต่ก็ไม่ต้องกังวลมากนัก เพราะอาจไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่การพูดคุยกับพยาบาลหรือแพทย์จะช่วยให้คุณลดความกังวลใจได้ดีกว่า
สิ่งที่ควรทำคือการเข้าเรียนเรื่องการตั้งครรภ์ หรือเข้าคอร์สฝากครรภ์ จะทำให้คุณสามารถเริ่มต้นการตั้งครรภ์ด้วยข้อมูลที่ถูกต้องและรวดเร็ว คุณจะรู้ว่าควรจะเรียกแพทย์เมื่อไหร่ ภาวะตั้งครรภ์ปกติเป็นอย่างไร ได้พบปะและพูดคุยกับผู้อื่นที่อยู่ในภาวะเดียวกัน สามารถผ่านภาวะตั้งครรภ์ด้วยความสดวกสบายมากขึ้น
คุณสามารถมีวงจรชีวิตในภาวะตั้งครรภ์ที่เป็นธรรมชาติอย่างสมบูรณ์แม้จะมีอาการแสดงที่เป็นๆหายๆ ในบางคนอาจไม่แสดงอาการตั้งครรภ์เลย คุณควรกังวลเมื่อคุณมีอาการแพ้แต่จู่ๆก็หายไป หรือเมื่อคุณมีอาการแพ้แบบที่มีปัญหา