คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ทุกคนจะต้องมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยรวมแล้วไม่เกิน 10 - 12 กิโลกรัม แต่หากคุณแม่มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นไม่ถึงเกณฑ์ดังกล่าว เด็กทารกที่คลอดออกมาก็จะมีน้ำหนักตัวน้อยกว่าปกติเช่นกัน วันนี้เราจะมาไขความลับว่า ในน้ำหนักตัวที่เพิ่ม 10 - 12 กิโลกรัมนั้น สัดส่วนน้ำหนักครรภ์มาจากอะไรกันบ้าง
น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นมา 10 - 12 กิโลกรัมนั้นมีองค์ประกอบดังนี้
- น้ำหนักตัวของทารกในครรภ์ 3,000 กรัม
- น้ำหนักของรก 500 - 700 กรัม
- น้ำหนักน้ำคร่ำ 1,000 กรัม
- กล้ามเนื้อมดลูก 1,000 กรัม
- เต้านม 300-500 กรัม
- ปริมาณเลือดที่เพิ่ม 1,000 กรัม
- ปริมาณน้ำในร่างกายของคุณแม่ 1,500 กรัม
- ไขมันที่สะสมในตัวแม่ 3,000 กรัม
ทั้งนี้ตัวเลขของข้อมูลทั้งหมดคือค่าโดยประมาณ ซึ่งอาจจะมีบางข้อที่มีน้ำหนักมากกว่าและน้อยกว่านี้ก็ได้
ฝากครรภ์ คลอดบุตรวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 79 บาท ลดสูงสุด 65%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
โดยในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ คุณแม่บางคนน้ำหนักตัวอาจจะไม่ขึ้นเลยเพราะมีอาการแพ้ท้อง อาเจียน แต่บางคนก็สามารถเพิ่มน้ำหนักได้ถึง 5 กิโลกรัม จึงมีคำถามที่มักจะสงสัยกันว่า แล้วคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์นั้นควรจะต้องมีน้ำหนักตัวเพิ่มเท่าไหร่ในแต่ละเดือนจึงจะถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
โดยเฉลี่ยแล้วน้ำหนักตัวของหญิงที่ตั้งครรภ์จะเพิ่มขึ้นประมาณ 1 - 2 กิโลกรัมภายในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ และน้ำหนักตัวจะเริ่มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเดือนที่ 4 - 8 ซึ่งเมื่อถึงอายุครรภ์ช่วงนี้ น้ำหนักตัวจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยสัปดาห์ละประมาณครึ่งกิโลกรัม ส่วนในเดือนสุดท้ายน้ำหนักตัวจะคงที่หรือลดลงบ้างเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้นหากใครที่มีน้ำหนักเพิ่มมากกว่าหรือน้อยกว่าเกณฑ์ที่ได้กล่าวมาจะต้องควบคุมอาหาร ทำน้ำหนักให้ได้เกณฑ์ และต้องทานแต่อาหารที่มีประโยชน์เสมอและถูกสัดส่วน ซึ่งจะทำให้ทารกในครรภ์ไม่ขาดสารอาหารที่จำเป็นในการเจริญเติบโต