ด้วยไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปในยุคนี้ ผู้คนจึงคุ้นเคยกับการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างสมาร์ทโฟน และคอมพิวเตอร์ กันมาตั้งแต่เด็กๆ ส่งผลให้มีโอกาสเกิดภาวะสายตาผิดปกติ เช่น สายตาสั้น หรือสายตาเอียง เป็นต้น
อาการผิดปกติทางสายตา สามารถเกิดขึ้นได้สูงตั้งแต่อายุยังน้อย แว่นสายตาจึงเป็นที่ต้องการมากขึ้นในยุคปัจจุบัน และทำให้ธุรกิจร้านวัดสายตาประกอบแว่นผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด แต่เชื่อว่ามีไม่น้อยทีเดียว ที่หนุ่มๆ สาวๆ ไปตัดแว่นใหม่ แต่พอมาลองใส่แล้วกลับรู้สึกเวียนหัว มองไม่ถนัด เวลาเดินก็รู้สึกเหมือนพื้นสูงต่ำไม่เท่ากัน เห็นภาพเบี้ยวๆ ผิดเพี้ยนจากความเป็นจริง ไปจนถึงมีอาการปวดตา ปวดหัว และคลื่นไส้
ตรวจตา รักษาโรคตาวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 437 บาท ลดสูงสุด 61%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
เรามาดูกันดีกว่าว่าการสวมแว่นตาแล้วเวียนหัว เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง
ตัดแว่นใหม่ แล้วเวียนหัว เป็นเพราะอะไร?
1. ยังไม่ชินกับแว่นใหม่
สำหรับคนที่เพิ่งเคยใส่แว่นเป็นครั้งแรก หรือเพิ่งปรับค่าสายตาของเลนส์ใหม่ อาจจะยังไม่คุ้นชินและยังปรับโฟกัสการมองไม่ได้ รวมถึงลักษณะของกรอบแว่นอาจมีบางส่วนที่บดบังสายตาทำให้มองเห็นไม่ถนัด จนบางครั้งรู้สึกเวียนหัวได้
ดังนั้น หากมีอาการเวียนหัวให้ลองมองไปไกลๆ หรือหลับตาสัก 20 วินาทีเพื่อพักสายตา ไม่ควรใส่ๆ ถอดๆ เพราะจะทำให้สายตาปรับช้าขึ้น และทำให้อาการเวียนหัวเป็นมากขึ้น แต่อาการนี้จะค่อยๆ หายไปหลังใส่แว่น 1- 2 วัน
2. เลนส์แว่นไม่เหมาะสมกับค่าสายตา
สาเหตุนี้พบได้บ่อย และเกินครึ่งของผู้ที่มีอาการมึนหัวก็เกิดจากค่าสายตาไม่ตรงกับแว่น ซึ่งปัญหานี้เกิดจาก...
- ไม่ได้วัดสายตาก่อนตัดแว่น
บางคนอาจซื้อแว่นสำเร็จรูปที่ขายตามห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้า โดยไม่ผ่านการวัดค่าสายตาก่อน ซึ่งแน่นอนว่าค่าเลนส์ไม่มีทางจะตรงกับค่าสายตาเรา 100% ได้ เพราะบางคนมีค่าสายตา 2 ข้างไม่เท่ากัน อีกทั้งอาจมีสายตาเอียงอีก
รวมถึงผู้ที่ไปตัดแว่นใหม่โดยอ้างอิงจากค่าสายตาเดิม ก็มีโอกาสใส่แล้วมองเห็นไม่ชัด และเกิดอาการวิงเวียนได้ เพราะสายตาของเรามีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ การวัดสายตาก่อนตัดแว่นจึงเป็นวิธีที่มั่นใจได้มากที่สุด
- การวัดสายตาคลาดเคลื่อน
ปัจจุบันร้านตัดแว่นทั่วๆ ไป นิยมวัดสายตาด้วยเครื่องวัดคอมพิวเตอร์ โดยให้พนักงานเป็นผู้วัดให้ การวัดสายตาด้วยวิธีนี้โดยไม่มีจักษุแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญมาควบคุมนั้นมีโอกาสคลาดเคลื่อนได้สูง เนื่องจาก การวัดด้วยคอมพิวเตอร์ต้องอาศัยแสงที่พอดี อีกทั้งการจ้องหรือเพ่งมากเกินไปก็ทำให้ค่าผิดเพี้ยนได้ โดยเฉพาะในเด็กเล็กๆ
3. มีความผิดปกติอื่นๆ ของตา
เช่น มีต้อหิน ต้อกระจก หนังตาตก เป็นต้น การตรวจวัดค่าสายตาโดยทั่วไปจะไม่สามารถบ่งบอกความผิดปกติเหล่านี้ได้ และถึงแม้แว่นที่ตัดมาจะมีค่าเลนส์เหมาะสมกับค่าสายตาก็ตาม ผู้ใส่ที่มีความผิดปกติก็อาจมองเห็นไม่ชัดและรู้สึกเวียนหัวได้อยู่ดี
4. มีความผิดพลาดในขั้นตอนการประกอบแว่น
เช่น ตั้งศูนย์แว่นผิด หรือใช้ชนิดของเลนส์ไม่เหมาะสม ทำให้การมองเห็นของผู้ใส่ผิดเพี้ยน และมีอาการมึนหัวได้
ตรวจตา รักษาโรคตาวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 437 บาท ลดสูงสุด 61%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
5. แว่นเกิดการชำรุด
เช่น โครงแว่นบิดเบี้ยว โค้งงอ ทำให้จุดโฟกัส และแสงตกกระทบสู่จอตาผิดตำแหน่ง จนส่งผลกระทบต่อการมองเห็นได้
หากตัดแว่นแล้วมึนหัว ควรทำอย่างไร?
หากเพิ่งใส่แว่นเป็นครั้งแรก หรือเพิ่งตัดแว่นมาใหม่ ให้ลองใส่และทำกิจกรรมปกติ ประมาณ 1 - 2 วัน (กรณีใส่แว่นครั้งแรกอาจะใช้เวลาปรับความคุ้นชินนานได้ถึง 2 สัปดาห์) หากปัญหาเกิดจากความไม่เคยชินกับการสวมแว่นใหม่ อาการมึนหัวจะค่อยๆ หายไปเองเมื่อเราเริ่มปรับการมองเห็นให้เข้ากับเลนส์ได้แล้ว
แต่หากเวลาผ่านไป 1 - 2 วัน หรือ 2 สัปดาห์แล้ว ยังมีอาการมึนหัวอยู่ สำหรับผู้ที่เริ่มใส่แว่นใหม่ หรืออาการรุนแรงถึงขั้นปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน เดินแล้วพื้นเอียงตลอดเวลา ขอแนะนำให้ไปตรวจวัดค่าสายตาและตัดแว่นใหม่ โดยให้จักษุแพทย์และนักทัศนมาตรเป็นผู้ตรวจวัดให้ เพื่อให้ได้แว่นที่เหมาะสมกับสายตาเราจริงๆ
อย่าลืมว่า เรื่องเกี่ยวกับดวงตาและการมองเห็นเป็นสิ่งสำคัญ หากการมองเห็นไม่ชัดเจนก็จะเป็นอุปสรรคในชีวิตประจำวัน และอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้น หากรู้สึกว่าแว่นที่สวมใส่ไม่โอเค หนุ่มแว่นสาวแว่นต้องรีบหาทางแก้ไข ไม่ควรขับรถหรือทำกิจกรรมที่เสี่ยงอันตราย และระมัดระวังในการเดินและขึ้นบันได