วัคซีน MMR คืออะไร?
วัคซีน MMR หรือ วัคซีคป้องกันโรคหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน (Measles-Mumps-Rubella Vaccine) จะมีการให้ 2 ครั้ง และจาก “ตารางการให้วัคซีนในเด็กไทยปกติ ปี 2561” ที่แนะนำโดยสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย กำหนดให้ฉีดวัคซีนเข็มแรกในช่วงอายุ 9 – 12 เดือน และฉีดเข็มที่สองเมื่ออายุ 2 ปีครึ่ง
ฉีดวัคซีน MMR วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 475 บาท ลดสูงสุด 65%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ซึ่งมีข้อสังเกตว่าช่วงอายุในการฉีดวัคซีนของประเทศไทย จะต่างไปจากแนวทางที่แนะนำโดยศูนย์ควบคุมโรค สหรัฐอเมริกา (ฉบับปรับปรุงล่าสุด ปี 2561) ที่แนะนำให้ฉีดวัคซีนเข็มแรกในช่วงอายุ 12 – 15 เดือน และฉีดเข็มที่สองในช่วงอายุ 4 – 6 ปี
นั่นก็เพราะ ผลการศึกษาชี้ว่าการฉีดวัคซีน MMR เข็มแรกที่ 12 หรือ 15 เดือน จะกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อโรคหัดได้ดีกว่าการฉีดที่ 9 เดือน แต่ในพื้นที่ที่ยังมีรายงานโรคหัดจำนวนมาก ก็จำเป็นจะต้องฉีดโดยเร็ว คือในช่วง 9 – 12 เดือนนั่นเอง
และเมื่อมีการฉีดวัคซีน MMR เข็มแรกเร็ว ซึ่งอาจกระตุ้นภูมิได้น้อยกว่า จึงแนะนำให้ฉีดเข็มที่สองเร็วขึ้นนะคะ โดยในปี 2557 มีการเปลี่ยนกำหนดการฉีดวัคซีน MMR เข็มที่สอง ตามแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของประเทศไทย จาก 4 – 6 ปี มาเป็น 2 ½ ปี เพื่อกระตุ้นภูมิให้สูงขึ้นโดยเร็ว ป้องกันการแพร่ระบาดและการติดเชื้อในเด็กก่อนวัยเรียน
เข้าสู่วัยรุ่นแล้วจะฉีดได้ไหม?
ส่วนในวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน และยังไม่มีภูมิต้านทานต่อโรค ก็สามารถฉีดวัคซีน MMR ได้ โดยเมื่อฉีดเข็มที่ 1 ไปแล้ว ให้ฉีดเข็มที่ 2 เพื่อกระตุ้นภูมิห่างจากเข็มแรกอย่างน้อย 28 วัน
อย่างไรก็ตาม คำแนะนำการให้วัคซีนป้องกันโรคสำหรับผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ ปี 2561 โดยสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย แนะนำให้ฉีดวัคซีน MMR ในผู้ที่มีอายุไม่เกิน 40 ปี เนื่องจากพบรายงานการเกิดโรคหัดได้มากกว่าผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี
หากฉีดวัคซีน MMR ไปเพียงเข็มเดียว มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคหัด 93%, คางทูม 78% (หรือระหว่าง 49 – 92%) และหัดเยอรมัน 97% แต่เมื่อฉีดครบ 2 เข็ม จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคหัดเพิ่มขึ้นเป็น 97% และโรคคางทูมเพิ่มขึ้นเป็น 88% (หรือระหว่าง 66 – 95%)
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
จะเห็นได้ว่าแม้จะเคยได้รับวัคซีนไปแล้ว แต่ก็ยังมีโอกาสติดเชื้อและป่วยได้เช่นกันนะคะ อย่างไรก็ตาม อาการมักจะไม่รุนแรงและมีการแพร่เชื้อได้น้อยกว่า เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อนค่ะ
แม้ว่ารายงานการเกิดโรคหัด, คางทูม และหัดเยอรมัน จะลดลงมากหลังมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่องให้ฉีดวัคซีน MMR อย่างไรก็ตาม ในระยะหลังกลับพบการระบาดของโรคคางทูมในผู้ใหญ่ในหลายประเทศ แม้กระทั่งสหรัฐอเมริกาที่มีความครอบคลุมของการได้รับวัคซีนสูงมาเป็นเวลานาน โดยพบการติดเชื้อได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน หรือผู้เคยฉีด MMR มาแล้วก็ตาม
และในผู้ที่เคยได้รับวัคซีนมาครบ 2 ครั้ง พบว่ายิ่งฉีด MMR เข็มที่ 2 มานานมากเท่าไหร่ก่อนการระบาด ก็ยิ่งเสี่ยงที่จะติดเชื้อสูงขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับวัคซีนเข็มที่สองมาไม่เกิน 2 ปี
จึงได้มีการศึกษาประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ เมื่อให้ MMR เข็มที่ 3 กับผู้ที่อยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคคางทูม ซึ่งพบว่าในกลุ่มที่ได้รับวัคซีน MMR เข็มที่ 3 หรือมากกว่า มีอัตราป่วยที่ลดลง
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ในเดือนตุลาคม ปี 2560 อนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค หรือ The Advisory Committee on Immunization Practices (ACIP) ของศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐอเมริกา (US CDC) จึงแนะนำว่าผู้ที่เคยได้รับวัคซีน MMR มาครบ 2 ครั้ง หากมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อในช่วงที่มีการระบาดของโรคคางทูม ควรได้รับวัคซีน MMR เป็นครั้งที่ 3 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันโรคหรือภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทยยังไม่มีการกำหนดแนวทางชัดเจนในเรื่องดังกล่าวนะคะ อาจเพราะมีแนวโน้มการป่วยด้วยโรคคางทูมลดลงเรื่อย ๆ นั่นเอง
เพราะฉะนั้น คุณผู้อ่านก็รู้ไว้พอให้ไม่ตกข่าวในแวดวงวัคซีนก็พอ แต่ไม่ต้องอินกับข่าวมากจนรีบไปฉีดวัคซีน MMR เข็มที่ 3 หรอกนะคะ