กองบรรณาธิการ HD
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HD
ทีมแพทย์ HD
ตรวจสอบความถูกต้องโดย
ทีมแพทย์ HD

โรคเริมที่ปาก โรคผิวหนังที่ติดต่อได้หากไม่ระวัง

สาเหตุและวิธีป้องกันของโรคเริมที่ปาก การรักษาที่ถูกต้องหากเป็นเริมที่ปาก
เผยแพร่ครั้งแรก 28 มี.ค. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 ตรวจสอบความถูกต้อง 10 พ.ค. 2019 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
โรคเริมที่ปาก โรคผิวหนังที่ติดต่อได้หากไม่ระวัง

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • โรคเริม เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่เกิดจากการติดเชื้อ Herpes simplex virus 1 (HSV-1) สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งที่ปาก และส่วนอื่นๆ ของร่างกาย
  • อาการของเริมที่ปากจะเกิดตุ่มน้ำใสๆ บริเวณริมฝีปาก ทำให้เกิดอาการคัน ปวดแสบปวดร้อน จะแห้ง และหายไปเองภายใน 7-10 วัน ในระหว่างนี้ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำ เพราะจะทำให้แผลหายช้าได้
  • ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคเริมสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีก โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดโรค เช่น ไวรัส ความเครียด ความร้อน การพักผ่อนไม่เพียงพอ ระบบภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง
  • โรคเริมสามารถติดต่อกันได้ผ่านทางน้ำลาย และน้ำเหลือง การดื่มน้ำแก้วเดียวกัน ใช้ของร่วมกัน หรือแม้กระทั่งจูบปากกันก็อาจทำให้เกิดการติดโรคได้
  • การดูแลสุขภาพให้แข็งแรง และสมบูรณ์อยู่เสมอ จะช่วยป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำได้ (ดูแพ็กเกจตรวจสุขภาพได้ที่นี่)

เริมที่ปาก เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง เกิดจากการติดเชื้อ Herpes simplex virus 1 (HSV-1) เป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งความเครียดยังเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคเริมได้เช่นเดียวกัน 

ลักษณะของโรคเริมที่ปาก มักจะพบกลุ่มตุ่มแดงๆ ใสๆ เกิดขึ้นบริเวณปากบนและปากล่าง คัน และมีอาการปวดแสบปวดร้อนตลอดเวลา สร้างความรำคาญใจแก่ผู้ที่เป็นได้ 

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

แล้วโรคเริมที่ปากจะมีสาเหตุมาจากอะไรบ้างนั้น รวมไปถึงอาการโดยรวมของโรคนี้เป็นอย่างไร และวิธีการรักษาโรคเริมที่ปาก จะรักษาด้วยวิธีไหนได้บ้าง สำหรับคำถามเหล่านี้ คุณสามารถค้นหาคำตอบได้จากบทความนี้

อาการของโรคเริมที่ปาก

เมื่อผู้ป่วยได้รับเชื้อไวรัส เชื้อไวรัสจะแพร่กระจายและทำการฟักตัวภายใน 2 – 10 วัน และหลังจากนั้นก็จะเกิดเป็นตุ่มน้ำใสๆ ขนาดประมาณ 0.5 - 1.5 เซนติเมตร ขึ้นเป็นกลุ่มบริเวณริมฝีปากอย่างรวดเร็ว 

ซึ่งตุ่มน้ำใสๆ นี้จะทำให้เกิดอาการคัน ปวดแสบปวดร้อน แต่จะแห้งและหายไปภายใน 7 - 10 วัน แต่ถ้าหากปล่อยให้รอยแผลที่เกิดขึ้นจากเริม โดนน้ำอยู่ตลอดเวลา ก็จะส่งผลทำให้แผลหายช้าได้                                        

สาเหตุการเกิดโรคเริมที่ปาก

สำหรับโรคเริมที่ปาก สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิด คือ การติดเชื้อไวรัส ที่อาจอยู่ในน้ำลาย น้ำเหลือง หรือแม้กระทั่งอสุจิ ซึ่งเชื้อเหล่านี้สามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านทางผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นแผลถลอก อีกทั้งยังสามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านทางเยื่อเมือกและเยื่อบุช่องปากได้อีกด้วย

ปัจจัยที่เร่งให้เกิดโรคเริมที่ปาก

สำหรับโรคเริมที่เกิดขึ้นบริเวณปาก เมื่อเป็นแล้วรักษาหายแล้ว ก็สามารถกลับมาเป็นอีกได้ 

โดยเฉพาะถ้าหากผู้ป่วยเกิดอาการเครียดอย่างเป็นประจำ มีลักษณะนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ จนกระทั่งส่งผลทำให้สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง และระบบภูมิคุ้มกันต่ำลง โรคเริมก็จะกลับมาทำร้ายคุณแบบซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้อย่างต่อเนื่อง

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

การติดต่อของโรค

สำหรับโรคเริมที่ปาก นับได้ว่าเป็นโรคชนิดหนึ่งที่สามารถติดต่อกันได้ โดยเฉพาะการติดต่อจะผ่านทางน้ำลาย และน้ำเหลือง โดยการดื่มน้ำแก้วเดียวกัน ใช้ของร่วมกัน หรือแม้กระทั่งการจูบปากกัน เนื่องจากพฤติกรรมเหล่านี้ จะส่งผลทำให้เชื้อไวรัสแพร่กระจายไปยังคนใกล้ตัวได้

วิธีรักษาโรคเริมที่ปาก

เนื่องจากโรคเริมที่ปาก ถือได้ว่าไม่ใช่โรคร้ายแรงแต่อย่างใด หลังจากที่เป็นประมาณ 2 สัปดาห์ แผลจะค่อยๆ แห้งและหายไปเอง แต่ถ้าหากต้องการหายจากโรคเริมอย่างรวดเร็ว สามารถเลือกซื้อยาต้านเชื้อไวรัสเฉพาะที่ มาทาบริเวณที่เกิดโรคเริมได้เช่นเดียวกัน 

อีกทั้งผู้ป่วยยังคงสามารถรับประทานยาอะไซโคลเวียร์ร่วมด้วยได้ และถ้าหากมีอาการปวดมาก สามารถประคบด้วยน้ำเกลือหรือน้ำเย็นที่บริเวณแผล วันละประมาณ 4 - 5 ครั้ง เพื่อช่วยลดอาการปวดให้ลดลง แต่ที่สำคัญควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาทุกครั้ง เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้ยาของคุณเอง

การรักษาโรคเริมที่ปากด้วยสมุนไพร

สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการพึ่งยาแผนปัจจุบัน ยังคงสามารถเลือกใช้ยาสมุนไพรเพื่อทำการรักษาโรคเริมที่ปากได้ ซึ่งสมุนไพรที่สามารถนำมารักษาได้คือ พญายอ หรือเสลดพังพอนตัวเมียนั่งเอง 

สมุนไพรชนิดนี้จะสามารถช่วยลดอาการคัน อาการปวดแสบปวดร้อน พร้อมทั้งทำให้ตุ่มน้ำใสๆ แห้งตัวได้อย่างรวดเร็ว

วิธีการป้องกันเพื่อไม่ให้เป็นโรคเริมที่ปาก

การดูแลสุขภาพให้แข็งแรงและสมบูรณ์อยู่เสมอ จะช่วยทำให้คุณห่างไกลจากโรคเริมที่ปากได้อย่างง่ายๆ เพราะถ้าหากระบบภูมิคุ้มกันของคุณยังคงดีอยู่ เชื้อไวรัสก็ไม่สามารถทำอะไรคุณได้ 

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

นอกจากนี้ถ้าหากบุคคลใกล้ตัวของคุณเป็นโรคเริม คุณไม่ควรที่จะใช้ของร่วมกันกับผู้ป่วย เนื่องจากโรคเริมเป็นโรคติดต่อกันได้นั่นเอง

ถึงแม้ว่าโรคเริมที่ปากไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่เมื่อเป็นแล้วก็สามารถกลับมาเป็นซ้ำเดิมได้อีกหากคุณไม่ป้องกันและไม่ระมัดระวังตัว 

ดังนั้นวิธีที่ง่ายที่สุดคือ หมั่นออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และหากิจกรรมผ่อนคลายความเครียด เพียงเท่านี้คุณก็ไม่ต้องกลัวโรคเริมอีกต่อไป

ดูแพ็กเกจตรวจสุขภาพ เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจเหล่านี้ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android


2 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)