เริมที่ปาก เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง เกิดจากการติดเชื้อ Herpes simplex virus 1 (HSV-1) เป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งความเครียดยังเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคเริมได้เช่นเดียวกัน
ลักษณะของโรคเริมที่ปาก มักจะพบกลุ่มตุ่มแดงๆ ใสๆ เกิดขึ้นบริเวณปากบนและปากล่าง คัน และมีอาการปวดแสบปวดร้อนตลอดเวลา สร้างความรำคาญใจแก่ผู้ที่เป็นได้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
แล้วโรคเริมที่ปากจะมีสาเหตุมาจากอะไรบ้างนั้น รวมไปถึงอาการโดยรวมของโรคนี้เป็นอย่างไร และวิธีการรักษาโรคเริมที่ปาก จะรักษาด้วยวิธีไหนได้บ้าง สำหรับคำถามเหล่านี้ คุณสามารถค้นหาคำตอบได้จากบทความนี้
อาการของโรคเริมที่ปาก
เมื่อผู้ป่วยได้รับเชื้อไวรัส เชื้อไวรัสจะแพร่กระจายและทำการฟักตัวภายใน 2 – 10 วัน และหลังจากนั้นก็จะเกิดเป็นตุ่มน้ำใสๆ ขนาดประมาณ 0.5 - 1.5 เซนติเมตร ขึ้นเป็นกลุ่มบริเวณริมฝีปากอย่างรวดเร็ว
ซึ่งตุ่มน้ำใสๆ นี้จะทำให้เกิดอาการคัน ปวดแสบปวดร้อน แต่จะแห้งและหายไปภายใน 7 - 10 วัน แต่ถ้าหากปล่อยให้รอยแผลที่เกิดขึ้นจากเริม โดนน้ำอยู่ตลอดเวลา ก็จะส่งผลทำให้แผลหายช้าได้
สาเหตุการเกิดโรคเริมที่ปาก
สำหรับโรคเริมที่ปาก สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิด คือ การติดเชื้อไวรัส ที่อาจอยู่ในน้ำลาย น้ำเหลือง หรือแม้กระทั่งอสุจิ ซึ่งเชื้อเหล่านี้สามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านทางผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นแผลถลอก อีกทั้งยังสามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านทางเยื่อเมือกและเยื่อบุช่องปากได้อีกด้วย
ปัจจัยที่เร่งให้เกิดโรคเริมที่ปาก
สำหรับโรคเริมที่เกิดขึ้นบริเวณปาก เมื่อเป็นแล้วรักษาหายแล้ว ก็สามารถกลับมาเป็นอีกได้
โดยเฉพาะถ้าหากผู้ป่วยเกิดอาการเครียดอย่างเป็นประจำ มีลักษณะนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ จนกระทั่งส่งผลทำให้สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง และระบบภูมิคุ้มกันต่ำลง โรคเริมก็จะกลับมาทำร้ายคุณแบบซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้อย่างต่อเนื่อง
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
การติดต่อของโรค
สำหรับโรคเริมที่ปาก นับได้ว่าเป็นโรคชนิดหนึ่งที่สามารถติดต่อกันได้ โดยเฉพาะการติดต่อจะผ่านทางน้ำลาย และน้ำเหลือง โดยการดื่มน้ำแก้วเดียวกัน ใช้ของร่วมกัน หรือแม้กระทั่งการจูบปากกัน เนื่องจากพฤติกรรมเหล่านี้ จะส่งผลทำให้เชื้อไวรัสแพร่กระจายไปยังคนใกล้ตัวได้
วิธีรักษาโรคเริมที่ปาก
เนื่องจากโรคเริมที่ปาก ถือได้ว่าไม่ใช่โรคร้ายแรงแต่อย่างใด หลังจากที่เป็นประมาณ 2 สัปดาห์ แผลจะค่อยๆ แห้งและหายไปเอง แต่ถ้าหากต้องการหายจากโรคเริมอย่างรวดเร็ว สามารถเลือกซื้อยาต้านเชื้อไวรัสเฉพาะที่ มาทาบริเวณที่เกิดโรคเริมได้เช่นเดียวกัน
อีกทั้งผู้ป่วยยังคงสามารถรับประทานยาอะไซโคลเวียร์ร่วมด้วยได้ และถ้าหากมีอาการปวดมาก สามารถประคบด้วยน้ำเกลือหรือน้ำเย็นที่บริเวณแผล วันละประมาณ 4 - 5 ครั้ง เพื่อช่วยลดอาการปวดให้ลดลง แต่ที่สำคัญควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาทุกครั้ง เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้ยาของคุณเอง
การรักษาโรคเริมที่ปากด้วยสมุนไพร
สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการพึ่งยาแผนปัจจุบัน ยังคงสามารถเลือกใช้ยาสมุนไพรเพื่อทำการรักษาโรคเริมที่ปากได้ ซึ่งสมุนไพรที่สามารถนำมารักษาได้คือ พญายอ หรือเสลดพังพอนตัวเมียนั่งเอง
สมุนไพรชนิดนี้จะสามารถช่วยลดอาการคัน อาการปวดแสบปวดร้อน พร้อมทั้งทำให้ตุ่มน้ำใสๆ แห้งตัวได้อย่างรวดเร็ว
วิธีการป้องกันเพื่อไม่ให้เป็นโรคเริมที่ปาก
การดูแลสุขภาพให้แข็งแรงและสมบูรณ์อยู่เสมอ จะช่วยทำให้คุณห่างไกลจากโรคเริมที่ปากได้อย่างง่ายๆ เพราะถ้าหากระบบภูมิคุ้มกันของคุณยังคงดีอยู่ เชื้อไวรัสก็ไม่สามารถทำอะไรคุณได้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
นอกจากนี้ถ้าหากบุคคลใกล้ตัวของคุณเป็นโรคเริม คุณไม่ควรที่จะใช้ของร่วมกันกับผู้ป่วย เนื่องจากโรคเริมเป็นโรคติดต่อกันได้นั่นเอง
ถึงแม้ว่าโรคเริมที่ปากไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่เมื่อเป็นแล้วก็สามารถกลับมาเป็นซ้ำเดิมได้อีกหากคุณไม่ป้องกันและไม่ระมัดระวังตัว
ดังนั้นวิธีที่ง่ายที่สุดคือ หมั่นออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และหากิจกรรมผ่อนคลายความเครียด เพียงเท่านี้คุณก็ไม่ต้องกลัวโรคเริมอีกต่อไป
ดูแพ็กเกจตรวจสุขภาพ เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจเหล่านี้ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android