เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์และมีการไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาล คุณแม่ทุกท่านจะได้รับสมุดสีชมพูมา 1 เล่ม ซึ่งเป็นสมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็กนั่นเอง สมุดเล่มนี้มีความสำคัญมาก คุณแม่จะต้องใช้บันทึกตั้งแต่ไปฝากครรภ์ครั้งแรกจนลูกอายุ 5 ปี ทุกครั้งที่หมอนัดคุณแม่จะต้องพกเมื่อเวลาไปหาหมอทุกครั้ง และยังต้องพกติดตัวเสมอไม่ว่าจะเดินทางไปไหน สำหรับคุณแม่มือใหม่ที่สงสัยว่าสมุดเล่มนี้มีความสำคัญอย่างไร ใช้งานอย่างไร สามารถหาคำตอบได้ที่บทความนี้ค่ะ
สมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็กมีความสำคัญอย่างไร
สมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก หรือที่คุณแม่มักเรียกว่า “สมุดบันทึกสีชมพู” คุณแม่จะได้รับตั้งแต่การไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลครั้งแรก เป็นสมุดที่มีความสำคัญสำหรับคุณแม่และคุณลูกเป็นอย่างมาก มีประโยชน์ในการบันทึกสุขเพื่อใช้ในการดูแลสุขภาพแม่และเด็ก โดยมีการบันทึกผลการตรวจร่างกายของหญิงตั้งครรภ์และคำแนะนำต่างๆ จะใช้บันทึกข้อมูลของลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิดต่อเนื่องจนถึงเด็กมีอายุได้ 5 ปี
ฝากครรภ์ คลอดบุตรวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 79 บาท ลดสูงสุด 65%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ในสมุดบันทึกสุขภาพมีอะไรบ้าง
ในสมุดเล่มสีชมพู ประกอบไปด้วยส่วนต่าง ๆ มากมาย ที่เกี่ยวข้องทั้งคุณแม่และลูกน้อย คุณแม่สามารถเปิดสมุดและดูควบคู่กันไป และทำความเข้าใจถึงวิธการใช้ส่วนต่าง ๆ ดังนี้
- ประเมินความเสี่ยงของหญิงตั้งครรภ์ ส่วนแรกนี้เป็นส่วนสำคัญอันดับแรกที่ใช้ในการประเมินความเสี่ยงของคุณแม่ เพื่อดูว่ามีภาวะเสี่ยงในการตั้งครรภ์หรือไม่ ส่วนนี้เจ้าหน้าที่จะสอบถามประวัติของคุณแม่และเป็นผู้ประเมินด้วยตัวเอง หากพบว่าคุณแม่มีความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ เช่นคุณแม่เคยมีประวัติคลอดบุตรที่น้ำหนักน้อยกว่า2500 กรัม ทางเจ้าหน้าที่โรงยาบาลจะทำการประเมินการดูแลครรภ์ในลำดับต่อไป
- ประวัติการตั้งครรภ์ปัจจุบัน ส่วนนี้เจ้าหน้าที่จะเป็นผู้บันทึกเช่นกัน แพทย์จะคำนวณประจำเดือนครั้งสุดท้ายเพื่อเป็นตัวคะเนกำหนดการคลอด เพื่อช่วยให้คุณแม่ได้เตรียมตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยคุณแม่สามารถดูได้ว่าจะครบกำหนดคลอดเมื่อไหร่ เกินกำหนดแล้วหรือยัง
- บันทึกการตรวจครรภ์ เป็นส่วนที่จะทำให้คุณแม่ทราบข้อมูลในการมาฝากครรภ์ในแต่ละครั้ง เจ้าหน้าที่จะเป็นผู้บันทึกว่า น้ำหนักตัวของคุณแม่เท่าไหร่และเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ในแต่ละครั้ง เป็นการดูการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ คุณแม่จะสามารถน้ำน้ำหนักนี้ไปบันทึกในกราฟในลำดับถัดไปเพื่อดูพัฒนาการของลูกน้อยได้ด้วย ข้อดีคือหากพบความผิดปกติ แพทย์ก็จะสามารถจะทำการวินิจฉัยและรักษาทันทีตั้งแต่ทารกอยู่ในครรภ์
- แบบตรวจสอบความครบถ้วนของบริการตามช่วงอายุครรภ์ โดยปกติคุณแม่จะต้องมาฝากครรภ์ 5 ครั้ง คุณแม่จะต้องเข้ารับบริการตามช่วงอายุครรภ์ในแต่ละครั้งที่กำหนด
- ครั้งแรกเมื่อรู้ว่าตั้งท้อง โดยครั้งแรกที่มาฝากครรภ์ควรมาก่อน 12 สัปดาห์
- ครั้งที่ 2 เมื่ออายุครรภ์ 20 สัปดาห์
- ครั้งที่ 3 เมื่ออายุครรภ์ 26 สัปดาห์
- ครั้งที่ 4 เมื่ออายุครรภ์ 32
- ครั้งที่ 5 เมื่ออายุครรภ์ 38 สัปดาห์
- การนับลูกดิ้น มีจุดประสงค์เพื่อป้องกันลูกน้อยเสียชีวิตในครรภ์ คุณแม่จะต้องนับการดิ้นของลูกทุกวัน โดยจะเริ่มนับตั้งแต่อายุครรภ์ 6 เดือนขึ้นไปเพื่อดูว่าลูกยังดิ้นปกติหรือไม่ วิธีการนับคือวันละ 3 เวลา เช้า กลางวัน ก่อนนอน ส่วนมากมักนับเวลาหลังทานอาหารเนื่องจากเป็นเวลาที่คุณแม่ไม่ทำงาน โดยสังเกตภายใน 1 ชั่วโมง ลูกควรดิ้นอย่างน้อย 3 ครั้ง หากพบว่าลูกดิ้นน้อยกว่านี้ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจทันที
ความรู้ที่จำเป็นเพื่อการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยมีคุณภาพ
ในส่วนนี้จะให้ข้อมูลที่เกี่ยวกับอาการที่จะทำให้คุณแม่รู้สึกไม่สบายตัวในขณะตั้งครรภ์ หากคุณแม่ได้ทราบถึงภาวะที่อาจเกิดขึ้น ก็จะช่วยคลายความกังวลและสามารถดูแลตัวเองได้อย่างถูกวิธี เช่นอาการแพ้ท้อง ตกขาว ท้องลาย มีเส้นเลือดขอด
นอกจากนี้ก็ยังมีส่วนของตารางและกราฟต่าง ๆ ที่จะช่วยสังเกตพัฒนาการของทารก มีตั้งแต่การติดตามน้ำหนักตัวของคุณแม่ เนื่องจากมีความสัมพันธ์กับอายุครรภ์ มีโภชนาการของหญิงตั้งครรภ์ มีตารางเปรียบเทียบร้อยละค่ามาตรฐานของดรรชนีมวลกาย ซึ่งคุณแม่จะต้องเช็คน้ำหนัก ส่วนสูงและอายุครรภ์อยู่เสมอ จากนั้นนำข้อมูลไปวัดกับกราฟเพื่อประเมินว่าลูกจะมีน้ำหนักแรกคลอดตามเกณฑ์หรือไม่
ส่วนที่ให้ความรู้เกี่ยวกับลูกรักหลังจากคลอดแล้ว
เมื่อลูกคลอดแล้ว สมุดเล่มนี้ก็ยังต้องใช้ต่อไป โดยจะมีการให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลลูกเพื่อให้ลูกรักแข็งแรง ตั้งแต่เรื่องของนมแม่ซี่งมีความสำคัญที่สุด ช่วงอายุที่เริ่มทานอาหารได้ อาหารและโภชนาการที่เหมาะสม คำแนะนำในเรื่องต่าง ๆ เช่นการดูแลฟันลูกน้อย การฉีดวัคซีน รวมถึงการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก เป็นต้น
บันทึกพัฒนาการเด็กและการได้รับวัคซีนป้องกันโรค
ส่วนนี้จะเป็นการบันทึกพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของลูกน้อยเพื่อติดตามการเจริญเติบโตให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่เหมาะสม ซึ่งจะมีกราฟมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การใช้กราฟแสดงน้ำหนักตามเกณฑ์อายุเพื่อติดตามการเจริญเติบโตด้านน้ำหนักของลูก การใช้กราฟแสดงส่วนสูงตามอายุ เป็นต้น ซึ่งจะเป็นการติดตามความเหมาะสมระหว่างน้ำหนักกับส่วนสูง เพื่อดูว่าลูกมีรูปร่างสมส่วนหรือไม่ หากลูกผอมเกินไปอาจขาดสารอาหารได้ หรือหากลูกท้วมหรืออ้วนเกินไปก็อาจเป็นโรคอ้วนในเด็กได้
บันทึกการฉีดวัคซีนของลูก
ส่วนสุดท้ายของสมุดเป็นการบันทึกการฉีดวัคซีนของลูก เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายแข็งแรง เด็กเล็กตองได้รับการฉีดวัคซีนหลายอย่าง และวัคซีนบางชนิดต้องได้รับมากกว่า 1 ครั้ง สมุดเล่มนี้จึงมีประโยชน์มากในการช่วยบันทึกว่าลูกน้อยได้รับวัคซีนอะไรไปบ้างแล้ว หมอนัดครั้งหน้าเมื่อไหร่ เพื่อฉีดวัคซีนอะไร ลูกได้รับวัคซีนครบถ้วนหรือไม่ ช่วยบันทึกการให้วัคซีนที่ครบถ้วนโดยไม่ต้องกังวลว่าจะลืม
สมุดบันทึกแม่และเด็กนี้มีประโยชน์มากมาย เป็นทั้งคู่มือในการดูแลตนเองตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ เป็นทั้งคู่มือในการดูแลลูกที่จะช่วยสังเกตพัฒนาการทุกด้านของลูกน้อยอย่างเป็นระยะจนอายุ 5 ปี อีกทั้งยังเป็นหลักฐานสำคัญในการแจ้งเกิดและออกสูติบัตรด้วย ฉะนั้นคุณแม่ต้องเก็บรักษาให้ดี พกติดตัวอยู่เสมอ และปฏิบัติตามคำแนะนำในสมุดอย่างเคร่งครัด ก็จะช่วยดูแลลูกรักได้อย่างครอบคลุมครบถ้วนค่ะ