ข้อดีและข้อเสียของการตรวจ total cholesterol, HDL, LDL และ triglyceride
ถึงเวลาตรวจโคเลสเตอรอลแล้ว แต่คุณควรเลือกการตรวจไหนล่ะ? มันไม่ง่ายอีกต่อไปแล้ว ต่อไปนี้เป็นรายการตัวเลือกบางอย่างและข้อดีข้อเสียของมัน
Total cholesterol นี่เป็นการตรวจที่ง่ายที่สุดและถูกที่สุด และไม่จำเป็นต้องงดอาหาร การตรวจนี้ไม่ต้องใช้ขั้นตอนทางห้องปฏิบัติการที่ละเอียดอ่อนด้วย การตรวจที่ง่ายดายดังกล่าวนี้วัดระดับ total cholesterol ของคุณ หากคุณมีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจต่ำ ค่าที่ได้ไม่เกิน 200 ก็จัดว่าอยู่ในระดับที่ดี 200 - 239 คือค่อนข้างสูง และจัดว่าสูง หากมากกว่า 240 ขึ้นไป
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
แต่ total cholesterol ก็มีทั้ง HDL (high-density lipoprotein) ที่จัดว่าดี และกลุ่มที่จัดว่าไม่ดี หลักๆ คือ LDL (low density lipoprotein) และ VLDL (very low density lipoprotein) ดังนั้นหากระดับ total cholesterol ของคุณดี ก็ยังเป็นไปได้ว่าคุณอาจจะมีระดับของ HDL ที่ไม่ดี (ต่ำเกินไป) หรือ ระดับของ LDL หรือ VLDL ที่ไม่ดี (สูงเกินไป) ให้คิดว่า total cholesterol เป็นแค่การดูอย่างคร่าวๆ แพทย์จะไม่ตัดสินใจทำการรักษาโดยอ้างอิงจากค่านี้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ระดับโคเลสเตอรอลอาจต่ำลงได้จากความเครียด (ทั้งทางร่างกายและจิตใจ) หรือการติดเชื้อ การบาดเจ็บ อัมพาต หรือภาวะหัวใจขาดเลือดอาจทำให้เกิดผลดังกล่าวได้เช่นกัน ในบางครั้ง สัญญาณแรกของมะเร็งก็คือการที่ค่าโคเลสเตอรอลลดต่ำลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ดังนั้นหากระดับโคเลสเตอรอลของคุณสูงหรือต่ำผิดปกติ แพทย์อาจอยากให้ตรวจซ้ำในอีกหลายสัปดาห์ถัดมา ค่าที่ผิดปกติอาจนำไปสู่การตรวจเพื่อค้นหาภาวะอื่น ๆ ได้อีกด้วย
Total cholesterol และ HDL
HDL จัดว่าเป็นที่สุดของโคเลสเตอรอลที่ดี เนื่องจากดูดซับโคเลสเตอรอลจากผนังหลอดเลือดและส่งต่อไปยังตับเพื่อการกำจัด ในทางกลับกัน LDL จะสะสมไขมันอันตรายไว้ที่ผนังหลอดเลือด
อ้างอิงจากแนวทางการรักษาในปี 2004 ระดับของ HDL ที่มากกว่า 60 เป็นต้นไปจะมีผลป้องกันการเป็นโรคหัวใจได้ และหากต่ำกว่า 40 ก็ทำให้คุณมีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
อัตราส่วนของ total cholesterol ต่อ HDL เป็นสิ่งสำคัญ คือยิ่งตัวเลขน้อยก็ยิ่งดี ตัวอย่างเช่น คนที่มี total cholesterol 200 และ HDL 60 จะมีอัตราส่วนเป็น 3.3 (200 ÷ 60 = 3.3) หากระดับ HDL ของคนๆ นั้นต่ำ เช่นสมมติว่าเป็น 35 อัตราส่วนของ total cholesterol ต่อ HDL ก็จะสูงขึ้นเป็น 5.7
รายงานจาก Framingham Heart Study แนะนำว่าในผู้ชาย อัตราส่วนของ total cholesterol ต่อ HDL เท่ากับ 5 จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจอยู่ในระดับทั่วไป หากมีค่า 3.4 ก็จะลดความเสี่ยงดังกล่าวลงได้ครึ่งหนึ่ง และหากมีค่า 9.6 จะเพิ่มความเสี่ยงดังกล่าวขึ้นเป็นสองเท่าตัว ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะมีระดับ HDL ที่สูงกว่า ดังนั้น ในผู้หญิง อัตราส่วนที่ 4.4 บ่งบอกถึงความเสี่ยงในระดับทั่วไป 3.3 คือความเสี่ยงลดลงครึ่งหนึ่ง และ 7 คือเพิ่มเป็นสองเท่า หากคุณมีระดับของ total cholesterol ที่สูง ก็อาจจะน่าวิตกน้อยลงหากอัตราส่วนดังกล่าวของคุณต่ำ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
โคเลสเตอรอล: ตัวที่ดีและตัวที่ไม่ดี
HDL High-density lipoprotein
- มีปริมาณเป็น 20-30% ของโคเลสเตอรอลทั้งหมด
- โคเลสเตอรอล “ที่ดี”
- ย้ายโคเลสเตอรอลจากหลอดเลือดแดงไปที่ตับ
- กลุ่มหลักของโคเลสเตอรอล “ที่ไม่ดี”
- เป็นสาเหตุของการเกิดคราบไขมัน (plaque) ในหลอดเลือดแดง
LDL Low-density lipoprotein
- มีปริมาณเป็น 60-70% ของโคเลสเตอรอลทั้งหมด
- มีปริมาณเป็น 10-15% ของโคเลสเตอรอลทั้งหมด
VLDL Very-low-density lipoprotein
- เป็นหนึ่งในกลุ่มหลักของโคเลสเตอรอล “ที่ไม่ดี” ร่วมกับ LDL
- เป็นสารตั้งต้นของ LDL
LDL การวัด LDL มักได้รับการพิจารณาว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการประเมินความเสี่ยงและการตัดสินใจในการรักษา และคำจำกัดความของระดับที่ดีต่อสุขภาพก็ยังคงลดต่ำลงเรื่อยๆ สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจต่ำ ระดับ LDL ที่น้อยกว่า 100 จัดว่าดี แต่ในผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจสูงกว่านั้น LDL ที่น้อยกว่า 70 หรืออาจน้อยกว่านั้น จึงถือว่าเหมาะสม ผู้เชี่ยวชาญบางรายกล่าวว่า ระดับ LDL ที่น้อยกว่า 70 ควรเป็นเป้าหมายของระดับ LDL ที่ดีสำหรับทุกคน
ระดับ LDL ของคุณได้รับการคำนวณโดยการแทนค่าของ total cholesterol, HDL และ triglycerides ที่วัดได้ในสมการ LDL = Total cholesterol – HDL – (Triglycerides ÷ 5) โดย LDL ยังสามารถตรวจวัดได้โดยตรงจากตัวอย่างเลือดที่เจาะมาขณะงดอาหารด้วย
คุณจะต้องงดอาหารเป็นเวลา 12 ชั่วโมงก่อนการตรวจ เพราะระดับ triglyceride สามารถเพิ่มขึ้นได้ 20 - 30% หลังมื้ออาหาร ซึ่งจะทำให้ใช้สมการไม่ได้ แอลกอฮอลล์ก็ทำให้ triglyceride เพิ่มสูงได้เช่นกัน ดังนั้นคุณไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 24 ชั่วโมงก่อนการตรวจโคเลสเตอรอลที่ต้องทำการงดอาหาร
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
อีกข้อจำกัดที่สำคัญคือ หากระดับ triglyceride สูงกว่าหรือเท่ากับ 250 การคำนวณจะเชื่อถือได้น้อยลง เพราะการหารค่า triglyceride ด้วยค่า 5 จะทำให้การประมาณค่าของ VLDL แม่นยำน้อยลง
C-reactive protein (CRP) คือโปรตีนในเลือดที่เพิ่มขึ้นได้จากการอักเสบ เนื่องจากโดยพื้นฐานแล้วภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง (atherosclerosis) ก็คือกระบวนการอักเสบ ผู้เชี่ยวชาญหลายรายจึงเชื่อว่าการตรวจ CRP สามารถนำไปสู่การตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มแรก และช่วยรักษาชีวิตไว้ได้ ทาง American heart association กล่าวว่าการตรวจ CRP ได้รับการรับรองสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจในระดับปานกลาง แต่ไม่เป็นเช่นนั้นสำหรับกลุ่มที่มีความเสี่ยงอยู่ในระดับสูงหรือต่ำมาก
คุณควรได้รับการตรวจระดับโคเลสเตอรอลแบบที่ต้องงดอาหารอย่างน้อยทุกๆ ห้าปี เริ่มต้นที่อายุ 20 ปี การตรวจระดับโคเลสเตอรอลที่ต้องงดอาหารจะทำให้คุณรู้ค่าที่สำคัญ คือ total cholesterol, LDL และ HDL เช่นเดียวกันกับระดับ triglyceride