ภาวะมีบุตรยากในคู่สมรสที่แต่งงานกันมานาน โดยอาจเกิดจากหลายสาเหตุอย่างเช่นอายุมากและไข่หรืออสุจิไม่แข็งแรง ดังนั้นวิวัฒนาการทางการแพทย์จึงได้มีการทำ IVF หรือที่เรียกกันว่า “การทำเด็กหลอดแก้ว” ซึ่งเป็นวิธีการทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยให้คู่สมรสมีโอกาสมีบุตรได้ง่ายขึ้น จึงนับว่ามีประโยชน์เป็นอย่างมาก
IVF หรือการทำเด็กหลอดแก้ว คืออะไร?
IVF (In – vitro Fertilization) หรือการทำเด็กหลอดแก้ว ก็คือการนำไข่ของฝ่ายหญิงกับอสุจิของฝ่ายชายมาผสมกันนอกร่างกาย เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ หลังจากนั้นจึงจะนำกลับคืนเข้าสู่มดลูก เพื่อให้เจริญเติบโตอยู่ในครรภ์ของฝ่ายหญิงตามปกติต่อไป
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
โดยจากขั้นตอนที่ขณะผสมต้องนำไข่และอสุจิผสมกันในหลอดทดลองที่มีลักษณะเป็นแก้ว จึงเป็นที่มาของการเรียกเด็กที่เกิดจากการผสมและปฏิสนธิแบบนี้ว่า “เด็กหลอดแก้ว”
การทำเด็กหลอดแก้วเหมาะกับใครบ้าง?
การทำเด็กหลอดแก้วไม่ได้เหมาะกับทุกคน เพราะหากคู่ไหนมีบุตรได้ตามปกติด้วยวิธีธรรมชาติ ก็ไม่จำเป็นต้องทำ แต่เด็กหลอดแก้วอาจเหมาะกับคนที่มีความผิดปกติดัง ต่อไปนี้
- คู่สมรสที่ฝ่ายหญิงมีท่อนำไข่อุดตันหรือถูกทำลาย
- ฝ่ายชายเชื้ออสุจิมีจำนวนน้อย ไม่แข็งแรง หรือเคลื่อนที่ไม่ดี
- คู่สมรสที่พยายามมีบุตรด้วยวิธีธรรมชาติมาแล้ว 3 ปี แต่ยังคงไม่สามารถมีบุตรได้โดยไม่ทราบสาเหตุ
- คู่สมรสที่ได้รับการทำด้วยวิธี IUI มาแล้ว แต่ไม่สำเร็จ
ขั้นตอนในการทำเด็กหลอดแก้ว?
- ฝ่ายหญิงจะต้องควบคุมให้ประจำเดือนมาตามปกติ จากนั้นแพทย์จะฉีดยากระตุ้นไข่ให้ฝ่ายหญิงประมาณ 10 – 12 วัน อย่างต่อเนื่อง
- ดูผลของการตกไข่และทำการฉีดฮอร์โมนก่อนไข่ตกประมาณ 34 – 38 ชั่วโมง
- แพทย์จะทำการวางยาสลบ เพื่อทำการดูดไข่ออกจากฝ่ายหญิงด้วยการใช้เข็มดูดผ่านทางช่องคลอด โดยใช้การอัลตราซาวด์ร่วมด้วย ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาประมาณ 30 นาที เมื่อเก็บไข่เสร็จเรียบร้อย แพทย์จะรักษาฝ่ายหญิงด้วยการใช้ฮอร์โมนสอดหรือฉีดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการเตรียมตัวฝ่ายหญิงให้พร้อมสำหรับการย้ายตัวอ่อนที่ผสมแล้วเข้ามาเพื่อการตั้งครรภ์ต่อไป
- นำไข่ที่ได้มาผสมกับอสุจิ พร้อมทั้งเลี้ยงและควบคุมคุณภาพภายในห้องปฏิบัติการ
- ไข่และอสุจิที่ผสมกันแล้วจะกลายเป็นตัวอ่อน และพร้อมย้ายเข้าโพรงมดลูกภายใน 3 – 5 วัน หลังการเก็บไข่ ซึ่งขั้นตอนนี้ฝ่ายหญิงไม่ต้องงดอาหารหรือน้ำ และไม่ต้องดมยาสลบ โดยใช้เวลา 30 นาที ก็เสร็จเรียบร้อย
- เมื่อฝ่ายหญิงได้รับตัวอ่อนให้เข้าไปฝังในโพรงมดลูกแล้ว จะต้องกลับมาพบแพทย์เพื่อตรวจการตั้งครรภ์ภายใน 12 – 14 วัน และแพทย์จะยังคงให้ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนต่อไปอีก 8 – 10 สัปดาห์ เพื่อป้องกันภาวะการแท้ง
การเตรียมตัวก่อนการทำเด็กหลอดแก้ว?
สามีภรรยาจะต้องไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาและรับทราบถึงข้อจำกัด รวมทั้งรับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ก่อน โดยถ้าเป็นฝ่ายหญิงจะต้องมีการตรวจร่างกายอย่างเช่นการทำงานของรังไข่และคัดกรองภาวะติดเชื้อ ส่วนฝ่ายชายจะต้องตรวจดูคุณภาพของอสุจิ
การเตรียมตัวหลังการทำเด็กหลอดแก้ว?
- ภายใน 3 – 4 วัน หลังการทำเด็กหลอดแก้ว ฝ่ายหญิงควรพักผ่อนมากๆ และไม่ควรทำงานหนัก เช่น การยกของหนัก การออกกำลังกายหนักๆ หรือการเดินทางไกล
- ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์และงดการสวนล้างช่องคลอด
- ไม่รับประทานยานอกเหนือจากแพทย์สั่ง และควรปฏิบัติตนตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- หากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดท้อง มีเลือดออก หรือมีตกขาวมากผิดปกติ ควรรีบมาพบแพทย์ที่ดูแลทันที
ราคาของการทำเด็กหลอดแก้ว?
การทำเด็กหลอดแก้วยังคงมีราคาค่อนข้างแพง ในการทำต่อครั้งราคาจะอยู่ที่ประมาณ 100,000 – 300,000 บาท โดยมีสถานที่ให้บริการของรัฐ เช่น รพ.จุฬาลงกรณ์ รพ.ศิริราช สำหรับโรงพยาบาลของเอกชน เช่น รพ.บำรุงราษฎร์ รพ. สมิติเวช
การทำ IVF หรือการทำเด็กหลอดแก้วเป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ส่งผลให้คู่สมรสสามารถสมหวังได้บุตรตามปรารถนา แต่ทั้งนี้ฝ่ายหญิงก็ควรทำจิตใจให้ผ่องใส ไม่เครียด หรือไม่กังวลจนมากเกินไป โดยพยายามพักผ่อนให้เพียงพอ รวมทั้งรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ สิ่งเหล่านี้จะช่วยเสริมให้การฝังของตัวอ่อนเป็นไปอย่างสมบูรณ์ และลดความผิดปกติต่างๆ พร้อมจะเจริญเป็นลูกน้อยที่แข็งแรงต่อไป