เด็กจะเริ่มนอนหลับแล้วมีความฝันได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป และเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปีจะไม่สามารถแยกระหว่างความฝันและความจริงได้ ดังนั้นหลายครั้งที่ลูกของเราอาจจะผวาหรือร้องไห้กลางดึกเพราะว่าฝันร้าย วันนี้เราจะมาเรียนรู้กันว่าความฝันเกิดจากอะไร และเราจะรับมือกับฝันร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นกับลูกของเราได้อย่างไร
ความฝันของเด็กจะเกิดจากความรู้สึกหรือความคิดของเด็กต่อสิ่งที่ได้พบเจอในตอนกลางวัน เช่น หากเด็กได้ชมภาพยนตร์หรือโทรทัศน์ที่มีภาพหรือเสียงที่น่ากลัว หรือมีความรุนแรง พอถึงเวลานอนตอนกลางคืนเด็กมักจะฝันร้าย ถ้าเด็กอายุยังน้อยจะตื่นขึ้นมาร้องไห้จนกว่าพ่อแม่จะมาปลอบโยน เด็กที่อายุ 2-5 ปี ที่แยกห้องนอนกับแม่แล้วจะวิ่งมาหาพ่อแม่และขอนอนด้วย แต่หากโตกว่านี้ก็จะรู้ว่าเป็นเพียงฝันร้ายก็จะนอนหลับต่อได้เอง
ดังนั้นพ่อแม่ควรเอาใจใส่เรื่องการดูโทรทัศน์ของเด็ก ไม่ควรให้เด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีชมภาพที่น่ากลัว มีความรุนแรง ควรให้ลูกได้ชมเรื่องราวที่ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ ให้ความรู้ สร้างเสริมปัญญา จริยธรรมและความเมตตาให้กับเด็กดีกว่า และควรให้เข้านอน และตื่นนอนตรงเวลา
แต่ถ้าลูกฝันร้าย พ่อแม่ควรจะปลอบให้ลูกหายจากความกลัวโดยกอดลูกเอาไว้และพูดกับลูกช้าๆ เมื่อลูกสงบลงแล้วก็พูดกับลูกด้วยความอ่อนโยนอีกครั้ง ถ้าลูกหิวก็ให้ทานอาหารอ่อนๆ หรือดื่มนมอุ่นๆ และควรให้ลูกกลับไปนอนที่ห้องของตัวเอง พอเช้ามาควรจะคุยกับลูกเรื่องความฝันที่ลูกได้เจอมา พยายามพูดให้ลูกได้ผ่อนคลายและสบายใจ สร้างความเข้มแข็งและเชื่อมั่นในตนเองมากขึ้น เพียงเท่านี้ฝันร้ายที่ลูกกลัวก็จะผ่านไปได้