ทำอย่างไรให้รูปของคุณดูดีเวลาลงแข่งขัน

คำแนะนำ 6 ข้อในการทำให้มีรูปที่ดูดี
เผยแพร่ครั้งแรก 19 ก.ค. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
ทำอย่างไรให้รูปของคุณดูดีเวลาลงแข่งขัน

ฉันเคยคิดมาตลอดว่ารูปที่ถ่ายระหว่างที่ฉันลงแข่งนั้นมักจะเป็นรูปตอนที่ฉันแย่เสมอ ฉันมองดูรูปที่ส่งมาให้แล้วก็เห็นแต่ท่าทางที่ดูไม่ดี ทั้งหน้าตาที่ดูเจ็บปวด หน้าแดง เหงื่อออก หลับตา แขนและขาอยู่ในท่าประหลาด และก้มหน้าเวลาวิ่งเข้าเส้นชัย หลังจากที่เห็นรูปเหล่านี้แล้วฉันก็เริ่มสังเกตว่าช่างถ่ายภาพนั้นไม่ได้จับภาพฉันแบบสุ่ม ๆ แต่ฉันแค่ไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับการถูกถ่าย ฉันก็เลยเริ่มคิดว่าบางทีฉันอาจจะลองพัฒนาตัวเองสักหน่อยเพื่อให้รูปที่ออกมาไม่แย่จนเกินไปเวลาที่ฉันย้อนกลับมาดู

 

ฉันได้ลองสอบถามผู้เชี่ยวชาญ (ช่างภาพและเพื่อนนักวิ่งที่มักจะมีรูปที่ดูดี) เกี่ยวกับความลับในการมีรูปที่ดูดี และนี่คือสิ่งที่ฉันสามารถรวบรวมมาได้

 

1 มองหาช่างถ่ายภาพ

 

รูปที่แย่ที่สุดของเรามักเกิดขึ้นเวลาที่เราถูกถ่ายโดยไม่ทันตั้งตัว ตัวอย่างเช่น เวลาที่พวกเขาถ่ายรูปคุณที่กำลังเทน้ำราดศีรษะเพื่อให้รู้สึกเย็นตัวมากขึ้น

 

ส่วนมากแล้วคุณมักจะรู้ก่อนว่าช่างถ่ายภาพจะอยู่ที่จุดใดของทางวิ่งบ้าง โดยสามารถหาได้จากข้อมูลบนเว็บไซต์หรือแผนที่การวิ่ง ฉันเคยเห็นป้ายระหว่างการแข่งด้วยซ้ำที่บอกว่าช่างภาพอยู่ข้างหน้า ดังนั้นหากคุณรู้ว่ากำลังจะเจอช่างภาพ คุณก็จะสามารถคิดท่าและเตรียมพร้อมสำหรับการถูกถ่ายได้

 

2 ทำให้ตัวเลขของคุณมองเห็นชัด

 

ยิ่งคุณมีรูประหว่างการแข่งขันมากเท่าไร โอกาสที่รูปของคุณจะดีขึ้นก็มีมากขึ้นเท่านั้น ผู้จัดการแข่งขันจะใช้หมายเลขของคุณในการจับคู่กับผู้เข้าร่วม ดังนั้นหากพวกเขาไม่เห็นหมายเลขของคุณไม่ว่าจะถูกเสื้อผ้าที่ถูกลมพัดบัง หรือถูกคนข้างหน้าบังก็ตาม คุณอาจจะไม่ได้รูปนั้น ดังนั้นเมื่อคุณเห็นช่างภาพ คุณจะต้องทำให้พวกเขาเห็นหมายเลขของคุณอย่างชัดเจนและอยู่ตรงกลางด้วย

 

3. อกผายไหล่ผึ่งและเชิดหน้า

 

ท่าวิ่งที่ดีไม่ได้ทำให้คุณเป็นนักวิ่งที่มีประสิทธิภาพเท่านั้นแต่ยังทำให้คุณดูดีในรูปถ่ายอีกด้วย ควรวิ่งให้ไหล่ไปข้างหลัง (แต่ไม่ต้องเกร็ง) และให้แขนตั้งฉาก มองตรงไปข้างหน้า อย่าก้มมองพื้น (หรือนาฬิกา) เวลาที่วิ่งเข้าเส้นชัย

 

4. ยิ้ม!

 

มันจะมีบางครั้งที่เราอาจจะเห็นช่างภาพอย่างชัดเจนแต่เลือกที่จะทำหน้าเป็น “นักวิ่งที่จริงจัง” แทนการยิ้ม แน่นอนว่ามันทำให้รูปดูเหมือนว่าฉันกำลังท้องผูกหรืออยากให้การแข่งขันนี่จบเร็ว ๆ โดยส่วนมากแล้วคุณจะดูดีขึ้นอย่างมากเมื่อยิ้ม ดังนั้นแม้ว่าคุณอาจจะไม่ได้มีความสุขหรือกระตือรือร้นมากนัก คุณก็ควรยิ้มให้ช่างภาพอยู่ดี

 

5. ฝึกซ้อมท่าวิ่งเข้าเส้นชัย

 

รูปที่คุณต้องการมากที่สุดจากการแข่งขันก็คือรูปที่คุณวิ่งเข้าเส้นชัย และเมื่อคุณรู้ว่าคุณกำลังจะวิ่งเข้าเส้นชัย คุณก็จะมีเวลาเตรียมตัวสำหรับช่วงเวลานั้น

 

ลองคิดถึงท่าทางการวิ่งเข้าเส้นชัยที่คุณชอบ บางคนอาจจะเลือกท่าวิ่งที่ดูแข็งแรงโดยการยกแขนขึ้นสูง บางคนชอบการยกนิ้วโป้งหรือส่งกำปั้น ในขณะที่บางคนอาจจะชูมือขึ้นเหนือศีรษะเพื่อแสดงชัยชนะ ลองฝึกซ้อมหลาย ๆ ท่าทางเพื่อให้สามารถตัดสินใจได้ว่าท่าใดที่จะดีที่สุด ควรเลือกท่าทางที่คุณจะมีความสุขและภาคภูมิใจเพราะรูปนี้อาจจะอยู่บนโต๊ะของคุณไปอีกนาน

 

6. ถ่ายรูปหลังจบการแข่งขัน

 

หากคุณล้มเหลวกับคำแนะนำที่ผ่านมาทั้งหมด คุณยังมีตัวช่วยสุดท้าย การแข่งขันใหญ่ ๆ มักจะมีช่างภาพประจำอยู่หลังจากที่คุณได้รับเหรียญ ณ จุดนั้นคุณอาจจะรู้สึกมีความสุขมากขึ้นกว่าตอนที่เห็นช่างภาพอยู่ระหว่างทางวิ่ง และนี่จะเป็นโอกาสที่ให้คุณโพสต์ท่าทางได้อย่างเต็มที่ เลือกท่าที่คุณชอบและอย่าลืมโชว์เหรียญที่คุณเพิ่งได้รับพร้อมกับหมายเลขประจำตัวของคุณ


1 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
What to Wear Running: The Best Clothes & Gear for Beginners. Verywell Fit. (https://www.verywellfit.com/basic-running-clothes-for-beginners-2911840)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)