ในปัจจุบันการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีสุขภาพเป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยควรจะทำให้เกิดการพัฒนาระบบสุขภาพและการดูแลผู้ป่วย แต่ความจริงแล้วการพยายามแก้ปัญหาเหล่านี้อาจเป็นการทำให้ปัญหาเดิมที่มีอยู่เพิ่มมากขึ้น
ปัจจุบันสภาพแวดล้อมของระบบสุขภาพมีการพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมาเพื่อช่วยในการรักษา แต่บางครั้งตัวมันเองกลับขัดขวางการพัฒนาได้ โดยปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาของทั้งระบบสาธารณสุขที่มีหลายแง่มุม ซึ่งต้องใช้ความร่วมมือระหว่างองค์กรต่าง ๆ ในระบบสาธารสุขช่วยกันแก้ปัญหา และยังสร้างความกดดันให้กับบรรดาผู้ให้การรักษาอีกด้วย
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ข้อมูลที่ใช้การไม่ได้
ด้วยเครื่องมือในปัจจุบันทำให้มีการเก็บข้อมูลทางสุขภาพมากมาย แต่ข้อมูลเหล่านั้นส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกนำไปใช้ และถูกทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์
แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ที่มีความสามารถที่จะนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้นั้นมักจะยุ่งอยู่กับงานประจำเกินกว่าที่จะมีเวลามาศึกษาและจัดการกับข้อมูลเหล่านี้
ทำให้ข้อมูลต่าง ๆ ที่เก็บได้จากอุปกรณ์เพื่อสุขภาพในปัจจุบัน ไม่สามารถนำไปใช้ได้จริงสำหรับแพทย์ส่วนใหญ่ ซึ่ง Dr.Paul Abramson แพทย์หน่วยปฐมภูมิใน San Francisco ชี้แจงว่า ผู้ป่วยควรนำข้อมูลดิบที่ได้จากอุปกรณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ตั้งแต่วันที่มาพบแพทย์ครั้งสุดท้าย มาด้วยในนัดครั้งต่อไป แต่ข้อมูลดิบที่ได้มานั้นมักจะเป็นข้อมูลที่มากเกินไป และมักจะไม่จำเป็นในขั้นตอนการรักษาขณะนั้น
ในความเป็นจริงแล้ว แพทย์จำนวนมากในสหรัฐอเมริกาจะถูกประเมินจากประสิทธิภาพของพวกเขา และมักจะมีเวลาจำกัดสำหรับผู้ป่วยแต่ละคน นั่นทำให้การเพิ่มขั้นตอนในกระบวนการวินิจฉัยโรคเป็นเรื่องที่ยากขึ้นสำหรับบรรดาแพทย์ในสหรัฐอเมริกา
นอกจากนั้น แพทย์อาจจำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนเพิ่มเติมเพื่อใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการตรวจรักษาผู้ป่วย แม้ว่าแพทย์หลายท่านจะสามารถประยุกต์เทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ในการรักษาได้แล้ว แต่อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีในปัจจุบันจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์และผู้ป่วยเปลี่ยนไป ซึ่งอาจเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคย
ไม่ใช่ทุกอุปกรณ์จะมีประโยชน์สำหรับแพทย์
การต่อต้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ ไม่ได้แปลว่าแพทย์จะไม่เชื่อการพัฒนาด้านการดูแลสุขภาพ แพทย์หลายท่านเข้าใจถึงความสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านสุขภาพ แต่พวกเขาจะยังไม่ไว้ใจเทคโนโลยีที่ยังไม่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้อง นอกจากนั้นยังเป็นเรื่องยากที่จะไว้ใจว่าผู้ป่วยจะใช้อุปกรณ์ใหม่ ๆ ในการเก็บข้อมูลได้อย่างถูกต้อง นั่นทำให้อุปกรณ์เหล่านั้นไม่สามารถใช้ได้กับทุกคน และอาจยังไม่เหมาะสมสำหรับการใช้เพื่อติดตามโรคบางชนิด
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ทางองค์กรอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาเองยังไม่ได้วางแผนที่จะควบคุมการใช้อุปกรณ์ด้านสุขภาพใหม่ ๆ นี้ในการเสริมสร้างสุขภาพ เช่น การเสริมสร้างสมรรถภาพ หรือการติดตามความเครียด โดยอุปกรณ์เหล่านี้ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีความเสี่ยงต่ำที่ถูกพิจารณาถึงความแม่นยำและความสามารถในการเก็บข้อมูลที่เชื่อถือได้ทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งอุปกรณ์บางชนิดจำเป็นต้องได้รับการรับรองก่อนที่จะสามารถนำมาใช้ในทางสาธารณสุข หรือใช้ในการตัดสินใจให้การรักษาบางอย่าง
เทคโนโลยีใหม่ ๆ ทำให้สามารถเข้าถึงแพทย์ได้ทุกเวลา
การมีเทคโนโลยีและสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ เป็นเสมือนพื้นที่ให้เกิดการสื่อสารระหว่างแพทย์และผู้ป่วย ในบางครั้งส่งผลกระทบต่อแพทย์ในการจัดการความสมดุลในชีวิตของพวกเขา โดยพบว่าแพทย์เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่มีอัตราความเหนื่อยหน่ายของพนักงานมากที่สุดหน่วยงานหนึ่ง การศึกษาเรื่องแนวทางดำรงชีวิตของแพทย์ จาก Medscape พบว่า ร้อยละ 46 ของแพทย์ที่เข้าร่วมการสำรวจเคยประสบปัญหากับความเหนื่อยหน่ายนี้
แพทย์ก็เหมือนกับบุคคลทั่วไปที่ต้องการการพักผ่อนและเวลาเป็นของตนเอง เทคโนโลยีปัจจุบันที่ทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงแพทย์ได้ตลอดเวลาทำให้แพทย์ไม่สามารถละเลยการเตือนหรือข้อความปรึกษาที่มีเข้ามาตลอดเวลาได้ เทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้หลายคนขาดการติดต่อกับพื้นที่อื่น ๆ ในชีวิตของพวกเขา รวมทั้งสร้างความคาดหวังที่ว่าแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญบางสาขาจะมีเวลาตอบคำถามของพวกเขาทันทีตลอดเวลา โรงพยาบาลบางแห่งถึงขั้นประเมินแพทย์จากความพึงพอใจของผู้เข้ารับการรักษาเลยทีเดียว
การเข้าถึงบุคลากรทางสาธารณสุขเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของเทคโนโลยีที่เข้าไปมีส่วนสำคัญในชีวิตของหลาย ๆ คน ทำให้ชีวิตของแพทย์ในการจัดการและการเจรจาเปลี่ยนไปในทางที่ยากลำบากมากขึ้น
ความห่วงใยผู้ป่วยก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ในระบบสาธารณสุขที่ไม่ปกตินั้นสร้างความกดดันอย่างมากให้กับแพทย์ เป็นการยากที่จะทิ้งงานทั้งหมดไว้ที่ทำงานและหลุดออกมาจากความเป็นแพทย์ในเมื่อยังมีความคาดหวังว่าพวกเขาจะต้องเข้าถึงได้ตลอดเวลา นอกจากนั้นเทคโนโลยีปัจจุบันจะเพิ่มภาระให้กับสถานการณ์ทางสาธารณสุขที่ย่ำแย่อยู่แล้ว ยังอาจทำให้ทุกอย่างแย่ลงไปอีกจากการเพิ่มความคาดหวังและเบียดเบียนแวลาพักผ่อนของผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ ดังนั้น การนำเทคโนโลยีทางด้านสุขภาพเข้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์จะต้องระมัดระวังและคำนึงถึงการเข้าถึงและการจัดการอย่างเป็นองค์รวม ที่จะมองเห็นความสำคัญและคุณค่าของทั้งผู้ป่วยและแพทย์ เพื่อที่ทั้งสองฝ่ายจะได้มีชีวิตที่ดี