สุขอนามัยของเล็บมือนั้นเป็นเรื่องสำคัญ หลายคนมั่นใจว่ามีเล็บที่สะอาดและสุขภาพดี แต่บางคนก็ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าสุขภาพเล็บที่ดีนั้นควรมีลักษณะอย่างไร ไม่ต้องกังวลไป เรามีวิธีการสังเกตและดูแลสุขภาพเล็บมาฝาก
ลักษณะของเล็บมือที่สุขภาพดี และลักษณะที่เป็นอันตราย
เล็บที่มีสุขภาพดี คือเล็บที่สะอาด แข็งแรง และไม่มีสิ่งผิดปกติในเรื่องของรูปทรง ผิวสัมผัส สี หรือแม้กระทั่งกลิ่น ซึ่งควรมีลักษณะดังนี้
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
- มีรูปทรงปกติ ไม่บิดเบี้ยว
- มีผิวสัมผัสที่เรียบ
- มีสีขาวขุ่น ไม่มีรอยด่าง
- ไม่มีกลิ่น
แต่ก็ไม่ใช่ว่าสิ่งผิดปกตินั้นจะเป็นอันตรายไปเสียทั้งหมด อย่างเช่น เส้นสีขาวบนเล็บ
เส้นในแนวตั้ง ไล่ตั้งแต่โคนเล็บไปจนถึงปลายเล็บ มักพบในวัยกลางคนและวัยชรา เป็นไปตามธรรมชาติและไม่ก่อให้เกิดอันตราย ส่วน เส้นในแนวนอน เกิดจากการที่เล็บถูกกดทับทำให้สูญเสียโปรตีนในบริเวณนั้น เมื่อเล็บยาวเส้นสีขาวนี้ก็จะงอกไปกับเล็บด้วย แค่ตัดออกก็จะหายไป ไม่เป็นอันตรายอีกเช่นกัน
สิ่งผิดปกติที่มีลักษณะนอกเหนือจากนี้บ่งบอกถึงลักษณะของ เล็บที่มีสุขภาพไม่ดี และไม่ควรมองข้าม อย่างเช่นตัวอย่างด่านล้างนี้
มีสีที่ผิดปกติทั่วบริเวณเล็บ เช่นมีสีเหลือง สีเขียว มีรอยด่าง หรือมีรอยดำใต้เล็บ
- รูปทรงบิดเบี้ยว
- มีผิวเล็บที่ขรุขระ
- เล็บบางและอ่อนมาก หรือหนาและแข็งมาก
- เล็บเปราะและลอกง่าย
- ตัวเล็บไม่ติดกับผิวใต้เล็บ สามารถแยกออกจากกันได้
- มีเลือดออกหรือเจ็บบริเวณเล็บ
- มีกลิ่นเหม็น
สิ่งผิดปกติเหล่านี้คือสัญญาณเตือนว่าเล็บของคุณกำลังเผชิญหน้ากับเหล่าสิ่งสกปรกและอาจทำให้ติดเชื้อได้ ซึ่งควรพบแพทย์ทันทีและเริ่มเอาใจใส่สุขอนามัยของเล็บเป็นพิเศษ
วิธีการดูแลเล็บมือ
- ตัดเล็บให้สั้นเพื่อกำจัดแหล่งสะสมเชื้อโรคที่เล็บและเพื่อให้การทำความสะอาดง่ายขึ้น การไว้เล็บยาวหรือต่อเล็บอาจทำให้ทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึง
- รักษาความสะอาดบริเวณมือและซอกเล็บด้วยสบู่และน้ำสะอาด และควรล้างมือทันทีหลังสัมผัสสิ่งสกปรก
- อย่าปล่อยให้เล็บเปียกชื้นเป็นเวลานาน เช็ดด้วยผ้าสะอาด กระดาษเช็ดมือ หรือเป่าให้แห้งทุกครั้งหลังล้างมือ เพราะความเปียกชื้นเป็นหนึ่งสาเหตุหลักของการเกิดเชื้อรา
- เลี่ยงการทาสีเล็บ เพราะสารเคมีในสีทาเล็บและน้ำยาล้างเล็บมักทำให้เล็บมีสีเหลือง
- ใช้ครีมบำรุงมือและเล็บเป็นประจำเพื่อเพิ่มวิตามินและความเงางามให้กับเล็บ
- เคลือบเล็บด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลเล็บที่บางหรือฉีกง่าย เพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้แก่ชั้นผิวของเล็บ
- ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการเพิ่มไบโอตินให้กับเล็บที่เปราะง่าย เพราะการที่เล็บเปราะเกิดจากการขาดไบโอตินในร่างกาย
บทความที่เกี่ยวข้อง
การทำเล็บ...ตัวช่วยเรื่องความงามที่ใครก็ทำได้