ปัจจัยที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกวิธีคุมกำเนิด
เมื่อตัดสินใจที่จะคุมกำเนิดแล้วก็จะต้องเลือกวิธีที่จะใช้คุมกำเนิด ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดนั้นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่คุณให้ความสำคัญมากที่สุด อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพของวิธีการคุมกำเนิดนั้นๆ ขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอและวิธีใช้อย่างถูกต้อง นั่นหมายความว่าบางวิธีมีโอกาสที่จะล้มเหลวได้มากกว่าวิธีอื่นๆ อย่างมีนัยสำคัญและคุณจะต้องตัดสินใจว่าคุณจะยอมรับประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดได้ที่ระดับใด อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแปลผลอัตราความล้มเหลวในการคุมกำเนิด มีหลายวิธีที่คุณสามารถทำหรือหยุดทำพฤติกรรมที่อาจส่งผลต่อวิธีการคุมกำเนิดของคุณ อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ 10 สิ่งที่ควรหยุดทำหากคุณต้องการคุมกำเนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การใช้งานในระดับปกติ vs การใช้งานอย่างสมบูรณ์แบบ
เพื่อให้เข้าใจว่าเราจะสามารถระบุประสิทธิภาพของการคุมกำเนิดได้อย่างไรคุณจะต้องทำความเข้าใจกับอัตราของประสิทธิภาพก่อน ซึ่งมักจะมีตัวเลข 2 ค่าคือการใช้งานในระดับปกติและการใช้งานอย่างสมบูรณ์แบบ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- การใช้งานตามปกตินั้นหมายถึงอัตราความล้มเหลวในผู้ที่ใช้วิธีดังกล่าวไม่สม่ำเสมอหรือไม่ได้ใช้วิธีคุมกำเนิดอย่างถูกต้องทุกครั้งค่านี้มักใช้กับบุคคลทั่วไปซึ่งบางครั้งอาจจะไม่สามารถใช้การคุมกำเนิดได้อย่างถูกต้อง
- การใช้งานแบบสมบูรณ์แบบนั้นหมายถึงอัตราความล้มเหลวสำหรับผู้ที่ใช้วิธีดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอและถูกต้องทุกครั้ง อัตราความสำเร็จในกลุ่มผู้ที่ใช้งานตามปกตินั้นมักจะต่ำกว่ากลุ่มที่ใช้งานได้สมบูรณ์แบบ
ประสิทธิภาพ 100%
ไม่มีวิธีใดที่มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดและป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ 100% ทุกวิธีมีโอกาสที่จะล้มเหลว
วิธีที่มีประสิทธิภาพสูงมาก
ห่วงคุมกำเนิด (ParaGard IUD – Copper T 380A, Mirena IUD) การฝังยาคุมกำเนิด การฉีดยาคุมกำเนิด การทำหมันทั้งชายและหญิงนั้นเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดได้สูงที่สุด
- วิธีดังกล่าวทั้งหมดมีอัตราประสบความสำเร็จในผู้ที่ใช้งานทั่วไปอยู่ที่ 97-99%
- นั่นหมายความว่าในจำนวนคน 100 คนที่ใช้วิธีการคุมกำเนิดดังกล่าวใน 1 ปี จะมีเพียง 3 คนหรือน้อยกว่านั้นที่จะตั้งครรภ์
โดยทั่วไป วิธีที่ไม่ต้องให้คนเข้ามามีส่วนร่วมในการคุมกำเนิดนั้นจะมีอัตราการล้มเหลวที่ต่ำกว่า
วิธีที่มีประสิทธิภาพสูง
การรับประทานยาคุมกำเนิด(ทั้งแบบที่มีฮอร์โมน 2 ชนิดและชนิดที่มีเฉพาะฮอร์โมน Progestin) และรูปแบบอื่น ๆ เช่น แผ่นแปะคุมกำเนิดและ NuvaRing นั้นมีอัตราความสำเร็จในผู้ที่ใช้งานทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 92%
- นั่นหมายความว่าในผู้หญิงที่ใช้วิธีดังกล่าว 100 คน จะมี 8 คนที่ตั้งครรภ์
วิธีการคุมกำเนิดโดยการให้นมบุตรต่อเนื่อง (Lactational Amenorrhea Method – LAM) นั้นเป็นวิธีการคุมกำเนิดอีกวิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูงในผู้ที่ใช้งานทั่วไป
- วิธีนี้มีอัตราความสำเร็จอยู่ที่ 95%
- ผู้หญิง 100 คนที่ใช้วิธีนี้จะมีเพียง 5 คนที่ตั้งครรภ์ภายใน 6 เดือนแรก
แต่ค่าประสิทธิภาพดังกล่าวนั้นที่คิดจากผู้หญิงที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวเท่านั้น และหมายความว่าผู้หญิงคนนั้นจะต้องให้ลูกดื่มนมอย่างน้อย 6 ครั้งต่อวันด้วยเต้านมทั้ง 2 ข้าง ไม่มีการใช้นมหรืออาหารอื่นแทนนมแม่และให้นมลูกทุก 4 ชั่วโมงในช่วงกลางวันและทุก 6 ชั่วโมงในช่วงกลางคืน
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
นอกจากนั้นวิธีนี้จะมีประสิทธิภาพลดลงหากผู้หญิงมีประจำเดือนหลังคลอดผู้หญิงไม่ควรเชื่อถือการคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้เมื่อเกิน 6 เดือนหลังจากคลอดเพราะหลังจาก 6 เดือนไปแล้ววิธีนี้ก็ไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไป
วิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพปานกลาง
การวางแผนครอบครัวตามธรรมชาตินั้นมักมีอัตราประสบความสำเร็จในผู้ที่ใช้งานทั่วไปอยู่ที่ 78-88%
- ในจำนวนผู้ที่คุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ 100 คน (ยกเว้นการหลั่งนอก) นั้นจะมี 12-22คนที่ตั้งครรภ์ในปีแรก
การคุมกำเนิดด้วยการใช้ถุงยางอนามัยทั้งของผู้ชายและผู้หญิง, diaphragm, ยาฆ่าอสุจิ, cervical cap และ sponge (สำหรับผู้ที่ไม่เคยคลอดลูก) นั้นมีอัตราความสำเร็จอยู่ที่ 71-85%ในผู้ที่ใช้งานโดยทั่วไป
- ในจำนวนผู้ที่ใช้งาน 100 คน จะมี 15-29 คนที่ตั้งครรภ์
เมื่อเปรียบเทียบกับการไม่คุมกำเนิดเพื่อให้คุณสามารถเปรียบเทียบค่าดังกล่าวได้ คุณอาจจะอยากรู้ค่าสถิติของผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอ 1 ปีและไม่ได้คุมกำเนิดนั้นจะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ถึง 85% ในปีนั้น
- นั่นหมายความว่าผู้หญิง 100 คนที่เข้าข่ายดังกล่าวจะมีประมาณ 85 คนที่ตั้งครรภ์
อย่างไรก็ตามตัวเลขนี้มีโอกาสเปลี่ยนแปลงได้สูงโดยขึ้นอยู่กับอายุและความถี่ในการมีเพศสัมพันธ์ นอกจากนั้นผู้หญิงยังจะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงขึ้นหากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันในช่วงวันไข่สุกซึ่งมีโอกาสในการตั้งครรภ์สูงที่สุด
สุดท้ายนี้
การที่คุณประเมินถึงประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดของแต่ละวิธีนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ นอกจากนั้นยังมีอีกหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด เช่น
- ความอ้วนกับประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด
- ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดในผู้หญิงที่มีน้ำหนักเกิน
- ยาที่จะลดประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดแบบใช้ฮอร์โมน
- น้ำหนักและประสิทธิภาพของการใช้ยาคุมกำเนิด
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลของประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดแต่ละวิธีได้ที่
- ประสิทธิภาพของการคุมกำเนิดด้วยวิธีธรรมชาติ
- ประสิทธิภาพของการใช้ยาคุมกำเนิดที่ซื้อได้เองตามร้านขายยา
- ประสิทธิภาพของการใช้วิธีการคุมกำเนิดที่ต้องใช้ใบสั่งยา
- ประสิทธิภาพของการคุมกำเนิดแบบถาวร