รู้หรือไม่ว่า หากเรารับประทานข้าวครั้งละ 1 ทัพพี ซึ่งคิดเป็น 100 กรัม ใน 1 เดือนจะเท่ากับว่าเรารับประทานข้าวโดยเฉลี่ยประมาณเกือบ 10 กิโลกรัม
จึงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าข้าวนั้นเป็นเสมือนหัวใจสำคัญในการรับประทานอาหารของคนไทย ซึ่งในอดีตคนไทยมักนิยมรับประทานข้าวขาว อาจเป็นเพราะข้าวขาวมีทรงเรียวสวย ขาวเนียน น่ารับประทาน ต่างกับข้าวกล้อง ที่มีลักษณะเป็นเมล็ดสีน้ำตาลอ่อนถึงเข็ม ให้เนื้อสัมผัสและรสชาติมันปานกลาง
แต่ปัจจุบัน ข้าวกล้องกลับมีแนวโน้มเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่องในกลุ่มคนที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ
ข้าวกล้อง คืออะไร?
ตามปกติ ข้าวจะมีเปลือกแข็งหรือที่เรียกว่าแกลบห่อหุ้มอยู่ ก่อนการนำมาบริโภคจึงต้องทำการกะเทาะเปลือกออก
เมล็ดที่ได้นี้เรียกกันว่า ข้าวกล้อง (Brown rice) หรือข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี หรืออาจมีการขัดเพียงครั้งเดียว ข้าวกล้องจึงมีสีน้ำตาลอ่อนถึงเข้ม
ข้าวกล้อง มีประโยชน์อย่างไร?
แน่นอนว่า ข้าว คือสิ่งที่อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรตและโปรตีน แต่จากการกะเทาะเปลือกออกเพียงครั้งเดียวของ ข้าวกล้อง ทำให้ยังมีเยื่อหุ้มเมล็ดอยู่
ส่วนนี้เองเป็นส่วนที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินต่างๆ รวมทั้งกากใยอาหารที่มีมากกว่าในข้าวขาวถึง 3 เท่า ในปริมาณเท่ากัน
ข้าวกล้องประกอบไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายดังต่อไปนี้
- วิตามินบี 1 มีส่วนช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ช่วยในการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
- วิตามินบี 2 ช่วยป้องกันโรคปากนกกระจอก
- วิตามินบี 3 ช่วยในการทำงานของระบบผิวหนังและระบบประสาท
- วิตามินบี 5 ช่วยรักษาสมดุลของของเหลวในเนื้อเยื่อ ช่วยต้านความเครียด
- วิตามินอี ช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือด ตลอดจนบำรุงระบบประสาท
- กรดโฟลิก ช่วยบำรุงเลือด
- เส้นใยอาหาร ช่วยในการขับถ่าย ป้องกันโรคท้องผูก และมะเร็งลำไส้ใหญ่
ข้าวกล้อง กินแล้วอ้วนหรือไม่?
ขึ้นชื่อว่าข้าว อย่างไรก็มาพร้อมกับคาร์โบไฮเดรต ซึ่งนับได้ว่าเป็นศัตรูกับหลายๆ คนที่มีความต้องการที่จะลดน้ำหนัก
แต่รู้หรือไม่ว่า ข้าวกล้องนับเป็นสิ่งที่เหมาะกับคนที่กำลังลดน้ำหนักอย่างมาก เนื่องจากข้าวกล้องมีเยื่อบางๆ หุ้มติดกับเนื้อข้าวอยู่ ซึ่งมีความเหนียว แตกตัวยาก เยื่อนี้ไม่สามารถย่อยได้ในร่างกาย ทำให้ร่างกายไม่ได้รับพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตเท่ากับข้าวขาว ทั้งยังมีพื้นที่สัมผัสกับน้ำย่อยน้อยกว่าข้าวขาว ส่งผลให้มีการหลั่งอินซูลินออกมาน้อย ดังนั้นร่างกายจึงใช้พลังงานจากไขมันแทน
นอกจากนี้ข้าวกล้องยังเต็มไปด้วยกากใยอาหาร ซึ่งมีส่วนช่วยโดยตรงในเรื่องของการขับถ่าย
ทั้งนี้ กากใยอาหารยังทำให้ข้าวกล้องมีดัชนีน้ำตาลต่ำ หมายถึง ข้าวกล้องจะทำให้ระดับน้ำตาลในร่างกายขึ้นช้าๆ และลงช้าๆ มีประโยชน์ต่อการควบคุมระดับน้ำตาลและการควบคุมความหิว
ผู้ที่รับประทานข้าวกล้องจึงรู้สึกอิ่มนานมากยิ่งขึ้นและไม่หิวง่าย
กินข้าวกล้องอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพ?
ถึงแม้ว่าข้าวกล้องจะมีคุณประโยชน์มากมาย แต่การรับประทานข้าวกล้องให้ดีต่อสุขภาพจำเป็นต้องคำนวณปริมาณที่เหมาะสม เช่นเดียวกับการรับประทานข้าวประเภทอื่นๆ
โดยปกติแล้ว ข้าวกล้อง 100 กรัมจะให้พลังงานประมาณ 111 กิโลแคลอรี ดังนั้นหากรับประทานมากเกินกว่าความต้องการของร่างกาย ก็อาจทำให้อ้วนได้เช่นกัน
โดยทั่วไป คุณควรรับประทานหมู่คาร์โบไฮเดรตประมาณ 1 ใน 4 ของจาน ส่วนที่เหลือควรเน้นการรับประทานผัก หรืออาหารที่มีเส้นใยต่างๆ
ข้อควรระวังของข้าวกล้องที่คุณต้องรู้
อย่างที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่า ข้าวกล้อง คือข้าวที่ยังมีเนื้อเยื่อหุ้มตัวเมล็ดข้าวอยู่ ตัวเนื้อเยื่อนี้ทำให้ข้าวกล้องเกิดความชื้นง่าย มีโอกาสเกิดเชื้อรา และมีอายุสั้นกว่าข้าวขาวทั่วไป
ดังนั้น เมื่อเลือกซื้อข้าวกล้องจึงควรเลือกที่มีอายุการผลิตไม่นาน ไม่มีกลิ่นอับชื้น และควรซื้อในปริมาณที่สามารถรับประทานหมดภายใน 2-3 สัปดาห์ ทั้งนี้ควรเก็บในพื้นที่แห้ง ไม่ชื้น เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา
ถึงแม้ว่าข้าวกล้องจะมีรสสัมผัสและสีสันไม่น่ากินเท่ากับข้าวขาว แต่สิ่งที่อยู่ภายในข้าวกล้องแต่ละเมล็ดนั้นล้วนอุดมไปด้วยคุณประโยชน์ที่ดีต่อร่างกายเป็นอย่างมาก
โดยสำหรับใครที่สนใจอยากลองหันมารับประทานข้าวกล้อง แต่อาจจะยังไม่ชินกับรสสัมผัส คุณสามารถนำข้าวกล้องมาหุงผสมกับข้าวขาว หรือเพิ่มธัญพืชชนิดต่างๆ ลงไป เพื่อให้การรับประทานข้าวของคุณเต็มเปี่ยมไปด้วยความอร่อยและ ช่วยให้สุขภาพที่ดียิ่งขึ้น
ดูแพ็กเกจ Detox สวนล้างลำไส้ เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจเหล่านี้ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android