ใครที่กำลังมองหาตัวช่วยในการเสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย อาจกำลังลังเลว่า ควรจะเลือกรับประทาน เบต้ากลูแคน หรือ วิตามินซี เพราะสารสองชนิดนี้ มีคุณสมบัติหลักคือ ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าทั้งคู่จะมีคุณสมบัติหลักที่ใกล้เคียงกัน แต่ก็มีคุณสมบัติบางอย่างที่แตกต่างกัน เบต้ากลูแคน และ วิตามินซี มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายด้านใดบ้าง วันนี้ HD มีคำตอบ
ทำความรู้จัก เบต้ากลูแคน และวิตามินซี มีที่มาจากอะไร
เบต้ากลูแคน (Beta Glucan)
คือสารที่พบได้ในธรรมชาติ ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ แบ่งเป็น 2 แหล่งหลักๆ กลุ่มธัญพืช เช่น ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เล่ย์ เป็นกลุ่มโครงสร้าง Beta-1,3/1,4-Glucan (ชนิดละลายน้ำ) กลุ่มเชื้อรา เช่น เห็ด ยีสต์ เป็นกลุ่มโครงสร้าง Beta-1,3/1,6-Glucan (ชนิดไม่ละลายน้ำ) จากงานวิจัยหลายชิ้นพบว่า กลุ่มที่พบในยีสต์ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
วิตามินซี (Vitamin C)
เป็นวิตามินชนิดละลายน้ำได้ที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ พบได้ทั่วไปในผัก ผลไม้ เช่น ส้ม ฝรั่ง สับปะรด มะนาว มะเขือเทศ แครอท ผักโขม ฯลฯ งานวิจัยระบุว่าร่างกายควรได้รับวิตามินซีประมาณ 500-1,000 มิลลิกรัมต่อวัน จึงจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายได้
เบต้ากลูแคน VS วิตามินซี เทียบประโยชน์ชัดๆ ชนิดไหนเหมาะกับร่างกายเรามากที่สุด
คุณสมบัติหลักของเบต้ากลูแคนและวิตามินซีคือ ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เบต้ากลูแคนกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้อย่างไร?
นอกเหนือคุณสมบัติหลักข้างต้นแล้ว ทั้งวิตามินซี และเบต้ากลูแคน ยังมีคุณสมบัติอื่นๆ ที่แตกต่างกัน ดังนี้
คุณสมบัติสำคัญของเบต้ากลูแคน
1. มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง
หนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นของเบต้ากลูแคนคือ มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง จากงานวิจัยหลายชิ้นพบว่าเบต้ากลูแคน มีฤทธิ์ยับยั้งการเติบโตและการกระจายตัวของเซลล์มะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เมื่อเทียบกับสารสกัดจากธรรมชาติชนิดอื่นๆ โดยจะเข้าไปสนับสนุนการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวขนาดใหญ่ (Macrophage) และ NK Cell ซึ่งทำหน้าที่ดักจับและทำลายเซลล์มะเร็ง รวมทั้งกระตุ้นให้ไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดขาวมากยิ่งขึ้นด้วย
นอกจากนี้ยังพบว่า เบต้ากลูแคนมีส่วนช่วยลดผลข้างเคียงจากการรักษาด้วยวิธีฉายรังสีและเคมีบำบัด โดยจะเข้าไปเสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย ทำให้ร่างกายได้รับผลกระทบจากรังสีและเคมีบำบัดน้อยลง รวมไปถึงช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อ หรืออาการแทรกซ้อนได้อีกด้วย เนื่องจากร่างกายของผู้ป่วยโรคมะเร็งมักจะมีภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอกว่าคนทั่วไป ทั้งจากตัวโรคเอง รวมทั้งจากผลข้างเคียงจากการรักษา เบต้ากลูแคนก็จะช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้น สามารถต้านเชื้อโรคได้มากขึ้น
2. บรรเทาอาการภูมิแพ้
เบต้ากลูแคนมีฤทธิ์ช่วยปรับสมดุลร่างกาย และช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจากผลทดสอบพบว่า กลุ่มผู้ป่วยที่เป็นภูมิแพ้มานาน เฉลี่ย 7-8 ปี หลังจากรับประทานเบต้ากลูแคน สมดุลภูมิแพ้ (Th2) กลับมาเป็นปกติภายใน 1-3 เดือน
3. ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอวัย
มีงานวิจัยหลายชิ้นระบุว่าเบต้ากลูแคนมีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ รวมทั้งมีฤทธิ์กระตุ้นเซลล์ในร่างกายที่ทำหน้าที่ผลิตสารจำเป็นต่อผิว เช่น คอลลาเจน อีลาสติน ทำให้ผิวหนังยืดหยุ่น ลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้น
4. ลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน
เบต้ากลูแคนเป็นเส้นใยอาหารที่ช่วยชะลอไม่ให้น้ำตาลดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดเร็วเกินไป และยังช่วยฟื้นฟูตับอ่อน ซึ่งทำหน้าที่ผลิตอินซูลิน ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
5. ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด
เบต้ากลูแคนมีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด ซึ่งทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดลงได้
นอกจากคุณสมบัติ 5 ข้อที่กล่าวมานี้ เบต้ากลูแคนยังมีส่วนช่วยฟื้นฟูการอักเสบของระบบประสาท ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ ลดอาการปวดตามข้อ ไขข้ออักเสบ บำรุงกระดูกและข้อ อีกด้วย
ข้อควรระวังในการใช้เบต้ากลูแคน
- สตรีมีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลก่อนการรับประทาน
- ผู้ที่โรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลก่อนการรับประทาน
- ผู้ที่รับประทานยากดภูมิคุ้มกัน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ผลิตภัณฑ์จากเบต้ากลูแคน เพราะเบต้ากลูแคนจะไปกระตุ้นภูมิต้านทานร่างกาย จึงอาจทำให้ตัวยามีประสิทธิภาพลดลง
คุณสมบัติสำคัญของวิตามินซี
1. ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
วิตามินซีมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ร่างกายเกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคอัลไซเมอร์ โรคมะเร็ง โรคภูมิแพ้ เป็นต้น
2. กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
วิตามินซีจะทำหน้าที่ช่วยลดการสร้างเอนไซม์ที่มีส่วนทำลายคอลลาเจน และช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนของร่างกาย เพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของผิวหนัง รวมถึงช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีอีกด้วย
3. ช่วยให้ผิวกระจ่างใส
จากผลการทดลองหลายชิ้น พบว่า วิตามินซี มีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างเม็ดสีที่ผิวหนัง ทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น จุดด่างดำดูจางลง
4. ช่วยให้แผลหายเร็ว
อีกหนึ่งคุณสมบัติเด่นของวิตามินซีคือ มีส่วนในการช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเซลล์ และกระตุ้นกระบวนการเสริมสร้างผนังเซลล์ หากร่างกายได้รับบาดเจ็บ หรือเป็นแผล ร่างกายจะสามารถซ่อมแซมและรักษาตัวเองได้เร็วขึ้น รวมถึงยังช่วยลดอาการอักเสบและลดอาการบวมแดงลงได้ด้วย
ข้อควรระวังในการใช้วิตามินซี
- ห้ามใช้ในผู้มีอาการธาตุเหล็กเป็นพิษ หรือมีธาตุเหล็กสูงเกินจนเกิดพิษ
- ห้ามใช้ในผู้เป็นโรคขาด G6PD
- ผู้ป่วยโรคไต หากจะรับประทานควรปรึกษาแพทย์ก่อน เนื่องวิตามินซีจะถูกขับออกทางปัสสาวะ การรับประทานวิตามินซีมากเกินไป จะทำให้เกิดการตกตะกอนที่ไตจนเกิดนิ่วที่ไตได้
- หากรับประทานวิตามินปริมาณมาก 5-10 กรัม อาจรบกวนระบบทางเดินอาหาร ส่งผลให้เกิดอาการท้องเสียได้
เบต้ากลูแคน วิตามินซี เลือกซื้อแบบไหนดี
จริงๆ แล้วทั้งเบต้ากลูแคนและวิตามินซี คือสารที่พบได้ในธรรมชาติ และอยู่ในอาหารที่เรารับประทาน เพียงแต่ในชีวิตประจำวัน ร่างกายอาจได้รับไม่เพียงพอ จึงมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหลากหลายรูปแบบที่ผลิตขึ้นมาเพิ่มเสริมความต้องการของร่างกายโดยเฉพาะ แต่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเหล่านี้ก็มีหลากหลายรูปแบบ จึงควรต้องมีหลักการเลือกซื้อให้เหมาะสมที่สุด
วิธีเลือกซื้อเบต้ากลูแคน
- เป็นเบต้ากลูแคนกลุ่มโครงสร้าง Beta-1,3/1,6D-Glucan ชนิดไม่ละลายน้ำ ซึ่งชนิดที่ทดสอบแล้วว่ามีประสิทธิภาพสูงสุดคือชนิดที่สกัดจากยีสต์
- สารสกัดเบต้ากลูแคนต้องบริสุทธิ์ ปราศจากสารเจือปนที่เป็นอันตราย โดยปัจจุบันความบริสุทธิ์สูงสุดที่สามารถสกัดได้คือ 91%
- ผ่านการตรวจสอบและได้รับการรับรองมาตรฐานที่น่าเชื่อถือจากสถาบันระดับโลก เช่น สถาบันในยุโรป efsa หรือ อเมริกา uspto สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นต้น
- แหล่งที่มาของสารสกัดมีความน่าเชื่อถือ เช่น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นต้น
วิธีเลือกซื้อวิตามินซี
- เลือกวิตามินซีในโครงสร้าง L-ascorbic acid ซึ่งเป็นรูปแบบที่พร้อมออกฤทธิ์ในร่างกาย
- เลือกบรรจุภัณฑ์ทึบแสง เนื่องจากวิตามินซีมีความอ่อนไหวต่อสิ่งแวดล้อมมาก และสลายได้ง่าย หากบรรจุภัณฑ์ไม่เหมาะสม อาจทำให้เสื่อมสภาพได้
- เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือ เช่น ได้รับการรับรองมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีฉลากระบุข้อมูลส่วนประกอบชัดเจน มีข้อมูลบริษัทผู้ผลิต เป็นต้น
โดยสรุปแล้ว ทั้งเบต้ากลูแคนและวิตามินซีล้วนมีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงด้วยกันทั้งคู่ แต่ว่าควรเลือกรับประทานให้ตรงกับความต้องการของร่างกาย และเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน น่าเชื่อถือ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด