การใช้ถุงชาวางบนดวงตาถือเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งมันสามารถช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับดวงตา ถุงชาอาจช่วยลดรอยคล้ำใต้ดวงตา อาการบวม และรอยแดง อีกทั้งยังช่วยรักษาการระคายเคือง ตากุ้งยิง และตาแดง อย่างไรก็ดี คุณสามารถหาซื้อถุงชาได้ทั่วไป ซึ่งมักมีราคาที่เอื้อมถึง และการนำถุงชาวางบนดวงตายังเปิดโอกาสให้คุณได้พักผ่อน
วิธีใช้
ให้คุณแช่ถุงชา 2 ถุงลงในน้ำร้อนเหมือนกับที่ทำตอนดื่มชาตามปกติ จากนั้นให้บีบน้ำส่วนเกินจากถุงชา แล้วปล่อยให้ถุงเย็นลง และนำไปแช่ตู้เย็น 10-20 นาที หลังจากนั้นให้คุณหลับตา และนำถุงชาวางที่ดวงตา 15-30 นาที ทั้งนี้คุณอาจใช้ปลายนิ้วออกแรงกดที่ดวงตา หรือนวดเบาๆ รอบดวงตา หากคุณใช้ถุงชาแช่เย็น คุณอาจใช้แตงกวาฝานที่แช่เย็นแล้ววางทับอีกชั้นเพื่อให้ผ่อนคลายมากขึ้น
ตรวจตา รักษาโรคตาวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 437 บาท ลดสูงสุด 61%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
เราสามารถใช้ชาชนิดใดได้บ้าง?
มีชาหลายชนิดที่สามารถใช้รักษาปัญหาเกี่ยวกับดวงตาได้ ถ้าจะให้ดีที่สุด ให้คุณเลือกใช้เป็นชาออร์แกนิกเพื่อหลีกเลี่ยงสารเคมี ทั้งนี้ชาดำ ชาขาว และชาเขียว ล้วนแต่มีสารคาเฟอีน และสารแอนตี้ออกซิเด้นท์ที่อาจช่วยรักษาปัญหาเกี่ยวกับดวงตา ในขณะที่ชาสมุนไพรมีฤทธิ์ช่วยทำให้สงบและปลอบปะโลม ซึ่งมันอาจช่วยลดการอักเสบ อาการบวม และการระคายเคือง สำหรับชาสมุนไพรที่นิยมนำมาใช้รักษาปัญหาที่เกี่ยวกับดวงตา เช่น รอยบอส คาโมมายล์ ลาเวนเดอร์ อายไบรท์ ดาวเรือง คอมเฟรย์ ยี่หร่า เมล็ดลูกซัด ฯลฯ
ประโยชน์ของการใช้ถุงชาวางบนดวงตา
1.ลดการอักเสบหรือลดบวม
คาเฟอีนในชาดำและชาเขียวสามารถช่วยลดอาการบวมที่ดวงตาและทำให้ผิวตึง คาเฟอีนทำให้เส้นเลือดที่อยู่ภายในผิวบริเวณดังกล่าวตีบลง ทำให้ลดอาการบวมและการอักเสบได้ ทั้งนี้ชาดำและชาเขียวมีสารแอนตี้ออกซิเด้นท์ที่เรียกว่า ฟลาโวนอยด์ และแทนนิน ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ แทนนินช่วยให้ผิวตึง และดึงของเหลวออกเพื่อบรรเทาอาการบวม ในขณะที่ชาเขียวอาจมีประสิทธิผลมากกว่าเล็กน้อย เพราะมันมีสารฟลาโวนอยด์มากกว่า อย่างไรก็ดี คุณสามารถใช้วิธีประคบเย็นใต้ดวงตาโดยใช้ถุงชาเขียวหรือถุงชาดำ สำหรับชาชนิดอื่นๆ ที่สามารถช่วยลดการอักเสบได้เช่นกัน เช่น อายไบรท์ รอยบอส คาโมมายล์ ฯลฯ นอกจากนี้รอยบอสและชาเขียวอาจช่วยลดริ้วรอยตื้นๆ และรอยย่นได้เช่นกัน
2.ตาแดง
เราสามารถใช้ชาดอกดาวเรือง ชาคาโมมายล์ และชาเฟนเนล ช่วยบรรเทาอาการตาแดง แม้ว่ามีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ใช้สนับสนุนสรรพคุณดังกล่าวอย่างจำกัด ชาเหล่านี้อาจช่วยกำจัดของเหลวส่วนเกินที่ไหลออกมาจากดวงตา อีกทั้งยังช่วยลดบวมและการระคายเคือง ทั้งนี้เราสามารถใช้ชาอายไบรท์บรรเทาอาการอักเสบ เพราะมันมีสารต้านแบคทีเรียที่ช่วยกำจัดแบคทีเรีย และอาจช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ชาเขียวก็สามารถช่วยลดการอักเสบได้อย่างมีประสิทธิผลเช่นกัน
3.รอยคล้ำใต้ดวงตา
การใช้ถุงชาดำ หรือชาเขียววางบนดวงตา สามารถช่วยลดรอยคล้ำใต้ดวงตาได้ สารคาเฟอีนอาจช่วยให้หลอดเลือดรอบดวงตาตีบแคบ และจำกัดการไหลเวียนของเลือด ดังนั้นใครที่ตื่นมาพร้อมกับดวงตาที่เหมือนกับหมีแพนด้าในตอนเช้า การใช้ถุงชาก็อาจช่วยให้ผิวมีสภาพดูดีขึ้น
4.ตากุ้งยิง
ชาดำมีประโยชน์ในแง่ที่มันช่วยรักษาตากุ้งยิง เพราะมันมีสารแทนนินสูง รวมถึงยังมีสารต้านการอักเสบและสารระงับปวดที่ช่วยลดอาการบวมและการระคายเคือง ในขณะที่ชาคาโมมายล์อาจช่วยปลอบปะโลม และรักษาผิวที่ระคายเคือง แต่ก็ยังมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ค่อนข้างจำกัดเกี่ยวกับประโยชน์ของการใช้ชาคาโมมายล์กับผิว
5.โรซาเซีย
สารต้านการอักเสบที่พบได้ในชาลาเวนเดอร์ ชาคาโมมายล์ และชาเขียวอาจช่วยบรรเทาอาการของโรคโรซาเซีย ชาเหล่านี้สามารถช่วยปลอบปะโลมผิว ลดรอยแดง และการระคายเคือง นอกจากนี้คุณอาจนำชาไปวางที่ส่วนอื่นๆ ของใบหน้า
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
6.ตาแห้ง
การใช้ชาดำ ชาอายไบร์ท หรือชาลาเวนเดอร์วางบนดวงตาสามารถช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น และบรรเทาอาการตาแห้ง สารที่ช่วยปลอบปะโลมในชาเหล่านี้สามารถบรรเทาอาการระคายเคืองหรือความไวต่อสิ่งกระตุ้น
7.ตาช้ำ
หากดวงตาช้ำ คุณสามารถนำถุงชาดำหรือชาเขียวมาช่วยลดการอักเสบ สารแทนนินสามารถช่วยลดอาการบวมและรอยฟกช้ำ นอกจากนี้ลาเวนเดอร์และคาโมมายล์อาจช่วยปลอบปะโลมผิวที่ระคายเคืองและช่วยบรรเทาอาการปวด
ข้อควรระวัง
- ล้างมือและใบหน้าให้ทั่วก่อนใช้ถุงชา
- ล้างเมคอัพก่อนวางถุงชาบนดวงตา
- ไม่ใช้ถุงชาที่ร้อน
- หยุดใช้หากมีอาการปวดหรือระคายเคือง
- หลีกเลี่ยงการใช้ถุงชาที่มีลวดเย็บกระดาษ
- ใช้ถุงชาที่ไม่ได้ฟอกสี
- อย่าให้น้ำชาเข้าตา
- ถอดคอนแทคเลนส์ก่อนใช้ถุงชา
- หลีกเลี่ยงการถูหรือสัมผัสดวงตา
หากดวงตาระคายเคือง หรือคุณรู้สึกไม่สบายในดวงตา คุณควรหาเวลาหลับตาสักครู่เพื่อพักดวงตา อย่างไรก็ตาม หากอาการมีความรุนแรง และไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน คุณก็ควรไปพบแพทย์
ที่มา: https://www.healthline.com/hea...