April 26, 2019 19:49
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันย่อมมีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงกว่าวิธีคุมกำเนิดมาตรฐานค่ะ ดังนั้น ไม่ว่า "ประจำเดือนครั้งที่สอง" ที่ผู้ถามกล่าวมาจะเป็นประจำเดือนจริง ๆ หรือเป็นเลือดกะปริบกะปรอยจากสาเหตุอื่น ๆ การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางก็จะมีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้มากกว่าการป้องกันด้วยถุงยางอนามัยอย่างถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาดนะคะ
การรับประทานยาคุมฉุกเฉินอาจช่วยลดความเสี่ยงลงมาได้บ้างค่ะ โดยให้รับประทานให้เร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ แต่เนื่องจากประสิทธิภาพที่ไม่สูงนัก แม้จะใช้ครบขนาดและทันเวลา ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% นะคะ (ในขณะที่ถ้าใช้ถุงยางถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2%) และยาคุมฉุกเฉินไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องหลังรับประทาน หากจะมีเพศสัมพันธ์ซ้ำก็ต้องใชัถุงยางอนามัยทุกครั้ง
หากต้องการวิธีคุมกำเนิดฉุกเฉินที่มีประสิทธิภาพสูงกว่านั้น แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อใส่ห่วงอนามัยชนิดหุ้มทองแดงค่ะ หากใส่ภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ก็จะมีผลคุมกำเนิดฉุกเฉินได้ และมีประสิทธิภาพสูงมาก โดยผู้ใช้มีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 0.6 - 0.8% เท่านั้น และมีผลคุมกำเนิดได้นาน 3 - 10 ปี ขึ้นกับรุ่นของห่วงอนามัยที่ใช้ จึงสามารถใช้เป็นวิธีคุมกำเนิดปกติต่อได้เลยนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
มีประจำเดือนครั้งที่สอง คือวันที่ 20 แต่มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันวันที่ 26 ซึ่งมีการเล็ดของอสุจิหรือน้ำหล่อลื่นออกมาด้วย มีโอกาสท้องมากน้อยแค่ไหน ถ้าทานยาคุมฉุกเฉินจะมีโอกาสเสี่ยงมั้ยมั้ย
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)