February 15, 2019 13:51
ตอบโดย
สุพิชชา แสงทองพราว (พญ.)
สวัสดีค่ะ ตุ่มหรือก้อนบริเวณรูทวารหนัก เกิดได้จากหลายสาเหตุนะคะ ขึ้นกับลักษณะของตุ่มนั้นๆ. และสามารถวินิจฉัยได้จากการตรวจร่างกาย จากอาการที่เล่า โรคที่เป็นไปได้ เช่น
- ฝีข้างรูทวารหนัก (Perianal abscess) เป็นการอักเสบติดเชื้อของบริเวณรอบรูทวาร อาการมักคลำพบเป็นก้อนที่ข้างทวารหนัก มีอาการบวมแดง กดแล้วเจ็บ หากก้อนยังมีขนาดไม่ใหญ่มาก และยังไม่เกิดเป็นหนองนิ่มๆภายใน สามารถรักษาด้วยยาฆ่าเชื้อ หรือยาปฏิชีวนะรับประทานค่ะ หากพบว่าก้อนนิ่มลงแล้ว เป็นฝีหนองอยู่ภายในก้อน อาจต้องผ่าตัดเพื่อระบายหนองออกค่ะ
- ริดสีดวงภายนอก จะพบว่าเป็นติ่งเนื้อยื่นออกมารอบรูทวารหนัก เมื่อมีการอักเสบของริดสีดวง จะทำให้มีอาการเจ็บได้ค่ะ บางครั้งอาจแตกออกเป็นเลือดสดๆ สาเหตุมักมาจากการท้องผูกเป็นประจำ อุจจาระแข็ง มีการเบ่งหรือนั่งส้วมนานๆ จะทำให้เกิดเป็นริดสีดวงขึ้นมาได้ การรักษาเบื้องต้นคือหลีกเลี่ยงอาการท้องผูก ได้แก่
- รับประทานผักผลไม้ที่มีกากใยสูง เพื่อช่วยเพิ่มกากใยให้กับอุจจาระ ป้องกันอุจจาระแข็ง
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 10 แก้ว หรือ 1.5-2 ลิตร
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ จะช่วยเรื่องการไหลเวียนเลือด และการทำงานของระบบย่อยอาหาร
- หลีกเลี่ยงการนั่งแช่ในส้วมเป็นเวลานานๆ
- หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
หากติ่งบวมมาก สามารถรับประทานยาสำหรับรักษาริดสีดวงทวาร
-หูดหงอนไก่ เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่ง ลักษณะเป็นก้อนๆ ขึ้นเป็นกลุ่มเล็กๆ คล้ายดอกกะหล่ำ สามารถขึ้นที่รอบรูทวารหนักได้ โดยมักพบประวัติมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักมาก่อน การรักษาโรคหูดหงอนไก่มีหลายวิธี เช่น การทายาฆ่าเชื้อ การจี้ด้วยไฟฟ้า การจี้ด้วยความเย็น
แนะนำว่าควรไปพบแพทย์ เพื่อตรวจร่างกาย ว่าตุ่มที่พบเกิดจากสาเหตุใด เพื่อการรักษาที่ถูกต้องค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
พอดีปวดที่ตูดมากคะเลยเอามือคลำดูมีติ่งโผล่ออกมาคะมันเจ็บมากอยากทราบว่าต้องรักษายังไงคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)