January 30, 2019 20:36
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
ในส่วนของอาการที่เล่ามาก็จะมีอยู่หลายส่วนที่ตรงกับช่วง Mania ของโรคไบโพล่าร์ และจะเห็นได้ว่ามีในเรื่องของการไม่มีแรง และแรงกระตุ้นให้ทำเรื่องอื่นๆ ซึ่งคล้ายกับอาการขั้วตรงข้ามของ Mania ซึ่งก็คืออารการซึมเศร้า นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีในเรื่องของการเบื่ออาหารและนอนไม่หลับอีกซึ่งผมก็เข้าใจว่าอาการเหล่านี้ค่อนข้างจะส่งผลกระทบกับชีวิตของคุณพอสมควรนะครับ ที่น่าสนใจก็คือเรื่องอาการอึดอัดหายใจเร็ว เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ถูกจ้องหรืออยู่ในที่ที่คนเยอะๆ ตรงนี้จะเป็นอาการหนึ่งของภาวะที่มีความวิตกกังวลและกลัวการถูกการประเมินหรือกลัวการอยู่ท่ามกลางผู้คนเข้ามาด้วยนะครับ
ดังนั้นในเบื้องต้นที่มีหลากหลายอาการร่วมกันแบบนี้ และอาการที่เล่ามาเกิดขึ้นมาในระยะเวลาหนึ่งและก็ขัดขวางการใช้ชีวิตประจำวันของคุณ ผมก็อยากที่จะแนะนำให้คุณได้เข้าพบกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา เพื่อที่จะได้รับการประเมิน และรับการช่วยเหลือที่เหมาะสมต่อไปนะครับ ซึ่งอาการในลักษณะแบบนี้ผมกลับอยากแนะนำให้คุณลองบอกกับผู้ปกครองนะครับ เพราะการที่คุณต้องแบกรับเรื่องของอาการเหล่านี้ไว้เพียงคนเดียวก็อาจจะเป็นเรื่องที่หนักหนาอยู่ ซึ่งการที่มีคนมาคอยเป็นกำลังใจหรือคอยสนับสนุนคุณอยู่บ้างก็จะช่วยให้คุณได้รับรู้ครับว่าคุณไม่ได้ต้องแบกรับปัญหา หรือแก้ไขปัญหาเหล่านี้ด้วยตัวของคุณคนเดียว
นอกเหนือจากการเข้าพบผู้เชี่ยวชาญแล้ว ในเรื่องของกิจกรรมอื่นๆ ก็สามารถลองหากิจกรรมใหม่ๆที่เคยสนใจหรือทำแล้วรู้สึกว่าทำให้ผ่อนคลายหรือทำให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง อาจจะลองมองดูกิจกรรมที่สามารถทำเป็นประจำได้เช่น การออกลังกาย การฟังเพลง หรือการทำงานอดิเรกบางอย่าง พยายามทานอาหารให้ครบหมู่ ทานของอร่อย หรือแม้กระทั่งการพูดคุยกับคนที่เราไว้ใจก็สามารถเป็นกิจกรรมหนึ่งที่จะช่วยเราในเรื่องของการลดความเครียดหรือบริหารอารมณ์ได้ดีขึ้นครับ
ในด้านล่างนี้ผมได้แนบบทความของโรคไบโพล่าร์ และโรคซึมเศร้าดูนะครับ โดยหากสนใจก็สามารถเข้าไปอ่านบทความเหล่านี้ได้นะครับซึ่งบทความตรงนี้อาจจะยาวซักหน่อย แต่ก็มีเนื้อหาที่ครบถ้วนดี และหากว่ายังกลัวที่จะเข้าพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา ผมแนะนำให้ลองโทรไปที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ดูได้ครับเพื่อรับบริการการปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะมีให้บริการ 24 ชม. แต่อาจจะมีการรอสายนานบ้างเป็นบางช่วงเวลาครับ
https://www.honestdocs.co/understanding-bipolar
https://www.honestdocs.co/most-common-psychiatric-disorders
สุดท้ายนี้ก็ยังแนะนำนะครับว่าการเข้ารับการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ น่าจะมีประโยชน์กับคุณและสามารถช่วยให้คุณรับมือกับเรื่องเหล่านี้ได้ดีขึ้น หากมีข้อสงสัยตรงไหนก็สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
อาการข้างต้นนั้นยังไม่แน่ชัดมากนักว่าจะเกิดจากสาเหตุใด แต่การที่มีช่วงที่อารมณ์คึกคักสลับกับการมีอารมณ์เศร้าโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจนนั้นก็อาจเป็นอารมณ์ที่ผิดปกติได้ครับ
ซึ่งจากที่อ่านมานั้นอารมณ์ที่เด่นๆของคุณจะเป็นการมีอารมณ์เศร้า เบื่อ ไม่อยากทำอะไร รู้สึกแย่ นอนไม่หลับ ซึ่งอาการเหล่านี้ก็บ่งบอกว่าอาจเป็นอารมณ์เศร้าที่มากกว่าปกติ และเสี่ยงต่อการเป็นโรคทางจิตใจได้ค่อนข้างมากครับ
ในกรณีนี้หมออยากให้คุณได้ไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการในเบื้องต้นก่อน เพื่อที่จะได้ทราบสาเหตุที่แน่ชัด และให้การรักษาได้ที่เหมาะสมต่อไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
จากอาการที่เล่ามานั้น อาจมีแนวโน้มซึมเศร้าก็เป็นได้ค่ะ เบื้องต้นลองทำแบบประเมินภาวะซึมเศร้าด้วยตัวเองดูก่อนก็นะคะ โดยให้สำรวจอาการภายในระยะ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมารวมวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยเพียงใด โดยให้คะแนนแต่ละอาการดังนี้
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7วัน 1 คะแนน
มากกว่า 7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน
ลักษณะอาการในช่วง 2 สัปดาห์
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร
2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้
3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
4. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย
5. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา
6. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวต้องผิดหวัง
7. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย
8. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
9. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า
รวมคะแนน หากคะแนนรวมมากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป ก็อาจเข้าข่ายโรคซึมเศร้า ซึ่งควรพบจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม วินิจฉัยแยกโรคให้แน่ชัด แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมนะคะ
ซึมเศร้าสามารถเกิดได้กับคนทุกเพส ทุกวัย ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการหลั่งสารเคมีในสมองผิดปกติ การรักษาจึงจำเป็นต้องใช้ยา เพื่อช่วยปรับสมดุลของสารเคมีในสมอง ทำให้ความคิด อารมณื พฤติกรรมต่างๆกลับมาเป็นปกติค่ะ
ในส่วนของอาการคึกที่คุณสงสัยว่าเป็นไบโพลาร์นั้น อาการของไบโพลาร์หรือโรคอารมณ์สองขั้วจะมีความแปรปรวนทางอารมณ์ 2 สภาวะ คือครึกครื้น ผิดปกติ และเศร้าผิดปกติ ความแปรปรวนทางอารมณ์ทั้ง2สภาวะจะมีระยะห่าง โดยระยะแมเนียหรือระยะครึกครื้นนั้นจะต้องมีอาการต่อเนื่องนานอย่างน้อย 4วัน - 1 สัปดาห์ และในระยะซึมเศร้าต้องมีอาการต่อเนื่องนานเกินกว่า 2 สัปดาห์ค่ะ (จิตแพทย์จะวินิจฉัยเป็นโรคอะไรนั้นต้องประเมินอาการเพิ่มเติมนะคะ) ไม่ใช่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายสลับไปมาอย่างรวดเร็วนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ผมรู้สึกว่าผมจะเป็นไบโพลาครับ บางช่วงผมจะคึกมากๆ บางช่วงอยู่ดีดีก็เหมือนไม่มีแรง ไม่มีอารมณ์จะทำะไรเลย อยากแค่นั่งเงียบๆแล้วร้องไห้ทั้งที่ไม่มีเรื่องเศร้า แค่อยากจะร้องออกมา รู้สึกจะโมโหง่ายกว่าแต่ก่อนควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้ กินอาหารไม่ค่อยได้ทั้งที่เป็นอาหารที่ชอบ(อันนี้เป็นตลอด)กินๆอยู่แล้วคลื่นไส้หนักมาก เวลาอยู่ในสถานการณ์ที่ถูกจ้องหรือสถานที่ทีคนเยอะๆ จะรู้สึกอึดอัดหายใจเร็วแล้วก็คลื่นไส้ น้ำหนักขึ้นๆลง นอนไม่ค่อยหลับ กว่าจะนอนได้ในแต่ละวันสมองผมจะคิดถึงเรื่องแย่ๆคำด่า สิ่งที่ผิดพลาดมาตลอดทั้งวัน แล้วผมก็ไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับผู้ปกครองของผม ผมไม่อยากให้ท่านต้องเป็นห่วงผม
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)