เป็นเริมที่ริมฝีปากแล้วลองไปหาหมอที่อนามัยแถวบ้านแต่เขาแจกยาคาโนโลนซึ่งเป็นยาแก้ร้อนในที่ใช้ทาในช่องปาก อยากสอบถามว่าตัวยาสามารถใช้กับเริมที่ริมฝีปากได้ไหมคะ แล้วมีวิธีดูแลรักษาอย่างไรคะ

สวัสดีครับ สำหรับการเป็น เริม คือ การติดเชื้อไวรัส ชนิดหนึ่ง จะเป็นกลุ่มตุ่มน้ำใส ที่บริเวณต่างๆ เช่น ปากหรืออวัยวะเพศ มีอาการ ปวด แสบ ปวดร้อน

การรักษาคือ
1.กินยาชื่อ acyclovir
2.กินยาแก้ปวดแสบร้อน เช่น gabapentin
3.ดูแลความสะอาดให้ดี
4.งดการไปรักษาตามวิถีชาวบ้าน เช่น ไปหาหมอเป่า หมอพ่น หรทอบดสมุนไพรใส่ เพราะจะทำให้แผลเกิดการติดเชื้อ เป็นต้นครับ

สวัสดีค่ะ โรคเริมจะเป็นลักษณะกลุ่มน้ำตุ่มใส มีอาการแสบร้อนที่ตุ่ม เมื่อแห้งจะตกสะเก็ด บางรายอาจมีไข้ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามร่างกายได้ เกิดจากการติดเชื้อไวรัส Herpes Simplex ซึ่งไวรัสนี้จะแฝงอยู่ในน้ำลาย น้ำเหลือง อสุจิ เข้าสู่ร่างกายผ่านทางผิวหนัง เยื่อเมือก เยื่อบุช่องปาก เมื่อติดเชื้อเริมแล้วจะรักษาไม่หายขาดค่ะ เพราะเชื้อไวรัส Herpes Simplex จะไปซ่อนอยู่ที่ปมประสาทค่ะ เมื่อใดที่ร่างกายอ่อนแอ เครียด ภูมิคุ้มกันต่ำก็จะกลับมาเป็นเริมได้ใหม่ ดังนั้นต้องหลีกเลี่ยงปัจจัยเหล่านี้ค่ะ เวลามีอาการให้ทานยา Acyclovior ค่ะ และทายา Acyclovir cream ร่วมด้วยค่ะ การใช้คาโนโลนจะไม่ช่วยค่ะ

สำหรับการติดเชื้อเริมครั้งแรกในช่องปาก แพทย์จะให้รับประทานยาอะไซโคลเวียร์ (Acyclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม วันละ 5 ครั้ง ทุก ๆ 4 ชั่วโมง (เว้นช่วงนอนหลับตอนดึก) หรือให้รับประทานในขนาด 400 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง ทุก ๆ 8 ชั่วโมง นาน 10-14 วัน นอกจากนี้อาจพิจารณาให้ยาทา Acyclovir cream หรือชื่อการค้าตามตลอดทั่วไปคือ Vilerm หรือ Zovirax ค่ะ

แต่ถ้าติดเชื้อซ้ำในบริเวณช่องปาก แพทย์จะให้รับประทานยาอะไซโคลเวียร์ (Acyclovir) ครั้งละ 400 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง ทุก ๆ 8 ชั่วโมง นาน 5 วันค่ะ สำหรับผู้ที่เป็นเริมที่อวัยวะเพศซ้ำอยู่บ่อยๆ (มากกว่าปีละ 6 ครั้ง) แพทย์จะให้รับประทานยาอะไซโคลเวียร์ (Acyclovir) ครั้งละ 400 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง ทุกวันติดต่อกันอย่างน้อย 1 ปีค่ะ