December 07, 2019 01:53
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
จากรูปนั้นมีลักษณะเหมือนกับตาปลาที่เกิดจากการเสียดสีของผิวหนังที่มากเกินไปครับ ซึ่งการรักษาด้วยยาซาลิซิลิกในเบื้องต้นนั้นก็อาจช่วยให้ตาปลามีการบางตัวลงและหลุดลอกออกไปได้ครับ แต่สิ่งที่ต้องระวังในการทายาซาลิซิลิกก็คือต้องทาด้วยความระมัดระวังไม่ให้ยาไปโดนผิวหนังโดยรอบเพราะอาจทำให้ผิวหนังถูกตัวยากัดจนมีการอักเสบตามมาได้ครับ
แต่ถ้าหากทายาแล้วรอยตาปลายังไม่ยุบลง หรือมีการบวมแดงของผิวหนังโดยรอบมากขึ้น หมอก็แนะนำให้ไปพบแพทย์ศัลยกรรมเพื่อพิจารณาปรับเปลี่ยนยาที่ใช้ใหม่หรืออาจเปลี่ยนไปรักษาด้วยการตาปลาออกแทนครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สวัสดีครับ ผมเป็นหูดที่เท้ามาได้สักพักแล้วครับ ช่วงแรกไม่มีอาการปวดหรืออะไรเลย แต่รู้สึกเจ็บบ้างถ้าลงน้ำหนักบริเวณหูด แต่เมื่อ 2 วันที่ผ่านมาผมรู้สึกคันบริเวณรอบๆ หูดมาก และมีผื่นคันตุ่มแดงเล็กๆ ขึ้นทั่วทั้งตัว วันที่6/12/2019 ช่วงเย็นผมจึงไปหาหมอมาซึ่งหมอได้ให้กรดซาลิไซลิกมาทาบริเวณรอบหูด พอกลับมาบ้านรู้สึกเหมือนรอบๆ หูดมีอาการบวมแข็งขึ้นกว่าตอนพบหมอและเหมือนเป็นตุ่มๆ ตามรูป ผมทำความสะอาดรอบหูดแล้วทากรดสักพักรู้สึกปวด ร้อนวูบวาบบริเวณที่ทากรดไป ไม่ทราบว่าเป็นปกติหลังทากรดหรือเปล่าครับ แล้วอาการบวมรอบๆ หูดนี่เป็นปกติหรือเปล่าครับ เพราะตอนไปพบหมอบวมน้อยกว่านี้และไม่มีอาการปวดเลยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)