February 25, 2017 19:11
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
ถ้าคัน ผิวแห้ง ไม่หายซักที หมอคิดถึงโรคภูมิแพ้ผิวหนังค่ะ เพราะโรคนี้รักษาไม่หายค่ะ ควรทำการหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นและทายาเมื่อมีอาการค่ะ
ลักษณะอาการสำคัญของโรคภูมิแพ้ผิวหนังคืออาการคันค่ะ และก็มีผื่นแห้งแดงเป็นสะเก็ดโดยเฉพาะบริเวณข้อพบในผู้ใหญ่
ซึ่งอาการเหล่านี้มักเป็นมาอย่างเรื้อรัง
อาการประกอบอื่นๆ ที่ช่วยในการวินิจฉัยเช่น
* ผิวแห้ง
* มีกลากน้ำนม หน้าตาจะเป็นผื่นสีอ่อนกว่าสีผิวมักพบที่แก้มค่ะ
* ใต้ตาคล้ำ เป็นรอยพับจากการคันตาขยี้ตาบ่อยๆ ดังภาพค่ะ บ่อยๆนะคะที่หมอพบคนไข้มาหาด้วยปัญหารอบตาคล้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวว่าตเองเป็นภูมิแพ้ผิวหนัง ซึ่งในเคสเช่นนี้การทำให้ผิวรอบตาดีขึ้นส่วนหนึ่งคือการควบคุมอาการภูมิแพ้ค่ะ เพราะเมื่อเรามีอาการภูมิแพ้กำเริบมักจะเผลอขยี้ตาไม่รู้ตัว ทำซ้ำๆเกิดเป็นการอักเสบผิวก็บากเจ็บ ช้ำ ดำ ค่ะ
* เป็นขนคุด จะเป็นผื่นตุ่มๆตามรูขุมขนบริเวณต้นแขน ดูคล้ายๆขนลุก ลูบต้นแขนแล้วสาก บางครั้งก็มีอาการคันค่ะ
* มีผื่นแพ้คันเคืองที่มือง่ายเป็นบ่อยๆ หรือผื่นผิวหนังอักเสบคัน ผิวแพ้ง่าย
* มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคในกลุ่มภูมิแพ้โรคใดก็ได้ดังนี้ โรคภูมิแพ้ผิวหนัง หอบหืด ภูมิแพ้ที่จมูก
โดยทั่วไปการรักษาหลักเมื่ออาการกำเริบจะเป็นการทายาสเตียรอยด์
ซึ่งมีความเข้มข้นแตกต่างกัน ขึ้นกับสภาพผิว อายุ ความรุนแรงของอาการ และบริเวณที่ต้องการทำการรักษา ส่วนยาทาลดการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ เช่น protopic , Elidel มีราคาแพงกว่ายาสเตียรอยด์ เป็นอีกตัวเลือกเพื่อลดการใช้ยาทาสเตยรอยด์ การรับประทานโปรไบโอติก มีงานวิจัยว่าการรับประทานโปรไบโอติกอาจช่วยลดอาการภูมิแพ้ผิวหนังได้ อีกตัวที่ช่วยบรรเทาอาการคันคือยารับแก้แพ้ในกลุ่ม Antihistamine
นอกจากการรักษาด้วยยาแล้ว การปฏิบัติตัวเป็นสิ่งสำคัญมากค่ะ
เพราะหากปฏิบัติตัวได้ถูกต้องแล้ว จะสามารถลดการกำเริบของโรค
และลดความจะเป็นในการใช้ยาทาสเตียรอยด์ ได้ค่ะ
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
* อากาศที่เปลี่ยนแปลงมากๆ เช่นร้อนจัด หนาวจัด แห้งจัด ถ้าเลี่ยงไม่ได้เช่นต้องไปต่างประเทศที่อากาศแห้งจัดหนาวจัดก็ต้องมีการเตรียมตัวเตรียมหยูกยาไปค่ะเพราะมีโอกาสที่ภูมิแพ้ผิวหนังจะกำเริบ หรือการอาบน้ำร้อนมาก เปิดแอร์เย็นจัด
* เลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิว พยายามเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระบุไว้ว่าเป็นสูตรอ่อนโยนเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย ปราศจากน้ำหอม เพราะน้ำหอมก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งของอาการแพ้ที่พบได้บ่อยค่ะ
* เลี่ยงเสื้อผ้าเนื้อหยาบ ผ้าขนสัตว์ ผ้าใยสังเคราะห์ เพราะเวลาเสียดสีผิวหนังจะทำให้เกิดการระคายเคืองคันค่ะ เช่นชุดผ้าใยสังเคราะห์รัดๆเนี่ยะเวลาใส่ก็จะทำให้คันได้ ใช้ผ้าฝ้ายที่ตัดเย็บโปร่งสบายก็จะช่วยให้สบายตัวกว่าค่ะ
* เลี่ยงสถานที่ที่มีฝุ่น เช่น บริเวณที่กำลังมีการก่อสร้าง
* เลี่ยงละอองเกสรดอกไม้เช่นทุ่งสวนดอกไม้
* เลี่ยงความเครียดความวิตกกังวล อารมณ์หงุดหงิด
* พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะการพักผ่อนไม่เพียงพอทำให้ผื่นกำเริบได้
* เลี่ยงการเกาเวลาที่คัน เพราะจะทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผื่นได้ และการเกายังเป็นการกระตุ้นวงจรการอักเสบ เรียกว่ายิ่งเกาก็ยิ่งคันค่ะ
ข้อควรปฏิบัติสำหรับผู้ป่วยภูมิแพ้ผิวหนัง
* ล้างผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มให้สะอาดเวลาซักผ้าเนื่องจาก สารเคมีที่ตกค้างในเสื้อผ้าจะทำให้เกิดการระคายเคืองกับผิวได้
* ตัดเล็บสั้น
* ทาโลชั่นให้ความชุ่มชื้นผิวเป็นประจำโดยเฉพาะหลังอาบน้ำ
* เพื่อป้องกันไรฝุ่นในที่นอนควรซักเครื่องนอนทุก 1-2 สัปดาห์
* เรื่องการทาโลชั่น เป็นสิ่งสำคัญมากค่ะ เวลาหมอตรวจคนไข้โรคภูมิแพ้
* ถ้าลูบผิวไปไม่ทาโลชั่นจนเหนอะ ถือว่ายังไม่พอค่ะ
* โลชั่นที่เลือกใช้ควรเป็นแบบเหนียวข้นเพราะจะให้ความชุ่มชื้นและกักเก็บน้ำในผิวได้ดี ทาได้บ่อยๆค่ะ ถ้าผิวเริ่มแห้งสากก็ทาซ้ำได้เลย และควรเลือกเป็นแบบไม่มีน้ำหอม ไม่ระคายเคืองค่ะ โลชั่นให้ความชุ่มชื้นถือเป็นยาในการรักษาภูมิแพ้ผิวหนังอย่างหึ่งเลยทีเดียว
Reference:
Milin clinic
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
ชัยวัฒน์ จิรานันท์สกุล (หมอเปี๊ยก) (นพ.)
คัน เป็นเฉพาะ บริเวณ มือ และ เท้า พบบ่อยมาก สาเหตุต้นคือ ล้างมือบ่อย หรือมือโดนสบู่ สารทำความสะอาด เช่น น้ำยาล้างจาน หรือ ผงซักฟอก บ่อย ๆ อาจจากโดยการทำงาน หรือ อาชีพ เช่น แม่บ้าน
ทำให้เกิดภาวะผิวหนัง แห้ง คัน ลอก ไม่น่าจะจากติดเชื้อ หรือ เกี่ยวกับแพ้สารใด ๆ
ร่วมด้วย อาการคันทั่วตัว ไม่มีผื่นชัดเจน ไม่พบสาเหตุกระตุ้นให้เกิดชัดเจน เป็นมานาน เป็น ๆ หาย ๆ
คันที่เท้า และ มือด้วย เป็นไปได้มากที่สุดจาก ผิวแห้ง ร่วมกับการอาบน้ำ ล้างมือ ล้างเท้า ทำความสะอาดมาก และ บ่อย โดยใช้สบู่ หรือสารทำความสะอาด ยิ่งซ้ำเติม ทำให้ยิ่งแห้ง และยิ่งคัน
ผิวแห้ง เป็นธรรมชาติของแต่ละบุคคล โดยเฉพาะผู้สูงอายุ หรือในผู้หญิงที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือนไปแล้ว
ถ้าคันมาก อาจกินยา แก้แพ้ แก้คัน เพื่อบรรเทาอาการคัน (ยาในกลุ่มแอนติฮิสตามีน - Antihistamine)
ใช้ยาทาพวกสเตียรอยด์ ลดการอักเสบและคันของผิวหนังได้ แต่ไม่ควรใช้ติดต่อกันเกิน 2 สัปดาห์ (เพราะถ้าใช้ติดต่อนานเกิน 2 สัปดาห์ อาจเกิดผลข้างเคียงที่อันตราย)
อาจทา ครีมยูเรีย น้ำมันมะกอก เบบี้ออยล์ เพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง (Moisturizer)
แต่วิธีดูแลผิวแห้ง ดีที่สุดคือ
• อาบน้ำให้น้อยลง เช่นวันละครั้ง อย่าใช้วิธีแช่ตัวในอ่างอาบน้ำนาน ๆ
• อย่าอาบน้ำอุ่นหรือร้อนจัด
• ใช้สบู่ที่มีความเป็นกรดด่าง (pH) เท่ากับผิวหนัง เช่น สบู่อ่อน ๆ สบู่เด็ก
• อย่าฟอกถูสบู่หลาย ๆหน หรือฟอกสบู่เฉพาะบางบริเวณ เช่นที่อับชื้น รักแร้ ขาหนีบ
หรือ เปลี่ยนไปใช้วิธีอาบน้ำเปล่า ไม่ใช้สบู่
• อย่าล้างมือ ล้างเท้า บ่อย ๆ
• สวมใส่ถุงมือ ถ้าจำเป็นต้องล้างจาน ซักผ้าด้วยมือ หรือสัมผัสสารเคมี
• ถ้าเหงื่อออก หรือรู้สึกเหนียวตัว อย่าใช้วิธีไปอาบน้ำบ่อย ๆ ควรเป่าพัดลม หรือไปอยู่ในห้องปรับอากาศ
• ทาแป้งฝุ่น หรือ แป้งเย็น แทนการไปอาบน้ำ
ถ้าผิวหนังลอกเป็นแผ่น หรือ เป็นขุย พยายามอย่า ไปลอก หรือ แกะเกา เพราะจะเป็นการกระตุ้น ให้ผิวหนังหนาตัวมากขึ้น
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
มีอาการคันที่ฝ่าเท้า ทั้ง 2 ข้าง และลามมาที่ กลางฝ่ามือขวา ตอนนี้เหมือนจะลามมาที่บริเวณลานนม ต้องคอยทายาตลอด วันไหนลืมทาจะเป็นสะเก็ดขึ้นมาเหมือนผิวแห้งตกสะเก็ด ถ้าเผลอไปดึงผิวที่ตกสะเก็ต ก็จะมีน้ำใส ๆ ออกมา ไปหาหมอ ก็ไม่เห็นดีขึ้นหมอแนะนำไม่ต้องซักผ้า ล้างจาน 3 เดือนเดี๋ยวก็หาย กลุ้มใจมากค่ะต้องคอยกินยาและทาวาสลีน+ครีมแก้คันอยู่ตลอด ๆ ถ้าไม่ทาก็คัน บางคืนตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะคันที่ฝ่าเท้ามาก
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)