สอบถามเรื่อง ถุงยางครับ ผมวัดแล้วต้องใช้ขนาด 47 ครับ แต่ ที่หาซื้อได้ มีแค่ 46 กับ49 ยังงี้ ควรเลือกขนาดไหนครับ แล้วจะมีผลต่อประสิทธิภาพการป้องกันตั้งครรภ์ไหมครับ ไม่ได้ใช้ตรงตามขนาด ก็ถือว่าไม่ perfect use โอกาสตั้งครรภ์ก็จะมากกว่า2% ขึ้นไปอีกหรือครับ

สวัสดีค่ะ ถ้าวัดแล้วได้ขนาด 47 แต่มีขายเฉพาะขนาด 46 และ 49 ให้เลือกขนาดที่ใกล้เคียงสุดคือ 46 ค่ะ เพราะถ้าใหญ่ไปก็อาจจะหลวมเกินไปและอาจทำให้ถุงยางเลื่อนหลุดได้ขณะมีเพศสัมพันธ์ค่ะ อย่างไรก็ตามถ้า 46 ไม่มีก็สามารถใส่ 49ได้เนื่องจากไม่ได้ห่างจาก 47 มากจนเกินไป สำหรับการใช้อย่างถูกต้องหรือ perfect use จะสามารถทำให้เกิดโอกาสตั้งครรภ์ได้ 2% หรือมีผลการคุมกำเนิดถึง 98%ค่ะ ซึ่งโดยปกติแล้วถุงยาอนามัยจะสามารถเกิดโอกาสตั้งครรภ์ได้ 2-18% ถ้าใช้อย่างผิดๆก็เสี่ยงต่อการเกิดตั้งครรภ์มากขึ้นค่ะ

สำหรับการใช้ถุงยางอนามัยแบบถูกต้องมีดังนี้ค่ะ เช็ควันหมดอายุของถุงยางอนามัยและใส่ให้ถูกด้านเวลาใช้ ต้องใส่ขนาดที่พอดีค่ะ ถ้ารัดไปถุงยางจะขาดได้ ส่วนถ้าหลวมไปจะเคลื่อนหลุดได้ ลองหาหลายๆยี่ห้อและทดสอบกับตัวเองก่อนใช้งานจริงว่าขาดหรือเลื่อนหลุดไหม ถ้าไม่ก็แสดงว่าใช้ได้ค่ะ ไล่ลมออกโดยการใช้นิ้วบีบปลายถุงยางอนามัยขณะสวมใส่อวัยวะเพศที่แข็งตัวเต็มที่ค่ะ วิธีทดสอบว่ารั่วหรือไม่ก่อนใช้งานคือ หลังสวมถุงยางไปแล้วให้กดกระเปราะตรงปลายถ้ากระเปาะคืนสภาพแสดงว่าไม่รั่วค่ะ แต่ถ้าไม่คืนสภาพ กดแล้วยุบตัวแสดงว่ามีรูรั่วค่ะ และหลังใช้เสร็จอาจทดสอบถุงยางอีกรอบว่ารั่วหรือไม่โดยการบีบส่วนปลายอีกรอบค่ะ รูดให้ชิดโคนมากที่สุดค่ะเพื่อป้องกันไม่ให้ถุงยางอนามัยเลื่อนหลุดระหว่างมีเพศสัมพันธ์ และควรใช้สารหล่อลื่นสำหรับการมีเพศสัมพันธ์สัมพันธ์เท่านั้น เช่น KY jelly หรือสารหล่อลื่นที่มีส่วนผสมเป็นน้ำหรือซิลิโคนเท่านั้น สารอื่นเช่น วาสลีน เบบี้ออลย์ น้ำมันมะพร้าว โลชั่นทาผิวทั่ว หรือสารหล่อลื่นที่มีส่วนผสมของน้ำมันห้ามใช้เพราะจะทำให้ถุงยางขาดง่ายค่ะ

สวัสดีครับ ถ้าขนาด 47 สามารถใช้ 49 ได้ครับ เพราะตามท้องตลอดจะหาซื้อ 49 ได้ง่ายครับ สิ่งสำคัญในขณะที่ใช้ถุงยางคือ
1.ดูวันหมดอายุ ว่ายังไม่หมดอายุ
2.ใช้ถุงยางใหม่เสมอ ห้ามใช้ซ้ำ
3.ใส่ถุงยางให้ถูกต้อง
4.เช็กทุกครั้งหลังเสร็จว่ามีรั่วหรือขาดหรือไม่ครับ

ซึ่งถ้าทำอย่างถูกต้องก็จะปลอดภัยครับ
สำหรับตัวเลข 2% มันเป็นการเก็บข้อมูลทางสถิติครับ เพราะการเก็บข้อมูลก็จะมีทั้งคนที่ใช้ถูกและใช้ผิด ครับ พอได้ข้อมูลมาเฉลี่ยๆ กันจึงทำให้ได้ตัวเลข 2% มาครับ

ไม่จำเป็นต้องอยู่แค่ปลายกระเปาะค่ะ น้ำหล่อลื่นอาจอยู่ระหว่างลำได้ ตราบใดที่ใส่รูดมาถึงโคนและถุงยางอนามัยไม่ได้หลวมจนรูดลงเองหรือน้ำหล่อลื่นออกมาก็ไม่เป็นไรค่ะ

การใส่ถุงยาง คือต้องใส่ถึงโคน อวัยวะเพศใช่ไหมครับ และถ้ามันออกนอกถุง แปลว่า อสุจิมันออกนอก อวัยวะเพศหญิงไปแล้ว ใช่ไหมครับ และถ้าการที่ สำเร็จความใครอวัยวะเพศจะหดตัวลงเล็กน้อย ถุงยางจะมีกระเปาะอยู่ตรงปลาย จะสามารถเก็บ อสุจิได้ครับ สิ่งสำคัญคือการเช็กว่ารั่วหรือขาดหรือไม่ครับ หลังจากสำเร็จความใคร่ครับ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลครับ เรื่องอสุจิหรือน้ำหล่อลื่นอยู่ตรงกลางถุงยางครับ

ถุงยางอาจมีรูดขึ้นได้บ้างระหว่างมีเพศสัมพันธ์ค่ะ ตราบใดที่เรารู้สึกว่าถุงยางอนามัยไม่ได้หลวมไปหรือรูดลงโคนก็ไม่ต้องกังวลค่ะ

ขนาดมันอาจจะใหญ่ไปนิดหน่อยครับ แต่ 49คือขนาดที่มีขายตามท้องตลอดครับ และถุงยางมีสารหล่อลื่นมันสามารถขยับได้เล็กน้อยครับ แนะนำว่าให้ค่อยใช้มือดึงขึ้นอยู่เรื่อยๆครับ

เวลามีเพศสัมพันธ์ถ้าใส่โคนเข้าไปจนถุงยางทั้งหมดเข้าไปอยู่ในอวัยวะเพศหญิงด้วยก็อาจเสี่ยงที่จะรูดถุงยางลงมาได้ค่ะ ดังนั้นแนะนำมีเพศสัมพันธ์แบบปลายถุงยางอนามัยยังอยู่นอกตัวอวัยวะเพศหญิงเพื่อความปลอดภัยจะดีที่สุดค่ะ

ถ้าโคนเข้าไปไหน อวัยวะเพศหญิงได้ แสดงอาจจะใส่ไม่ถูกต้องครับ เพราะการใส่อย่างถูกต้อง โคนถุงยางไม่ควรเข้าไปในอวัยวะเพศหญิงครับ แนะนำว่าควรใส่ให้ถูกต้องก่อนครับ
และสมมุติว่ามีอสุจิเข้าไปในช่องคลอดฆยิงจริงแต่ ไม่เกิน 2 ซีซี จะไม่สามารถทำให้เกิดการปฏิสนธิกับไข่ได้ครับ เพราะจะจัดว่าเป็นสภาพการเป็นหมันอย่างหนึ่งของเพศชายครับ ถ้าอสุจิเข้าไปไม่เกิน 2 ซีซีครับ และถ้ามั่นใจว่ายังไม่สำเร็จความใคร่ น้ำหล่อลื่นจะมีไม่ถึง 2 ซีซีครับ
เพราะฉะนั้นแนะนำว่าไม่ต้องกังวลครับ และครั้งต่อๆไปควรใส่ถุงยางให้ถูกต้องครับ

สมมุติว่า น้ำหล่อลื่นซึมออกมานะครับ ภายในน้ำหล่อลื่นจะมีอสุจิน้อยกว่า 2 ซีซีแน่นอนครับ ถ้าไม่ได้เกิดการหลั่งอสุจิครับ ถ้าอสุจิน้อยกว่า 2 ซีซี มันจัดอยู่ในภาวะการมีบุตรยากของเพศชายครับ ซึ่งคือ ถ้าเพศชายหลั่งอสุจิเข้าไปในช่องคลอดหญิงโดยตรงแต่น้อยกว่า 2 ซีซี ก็จะมีบุตรได้ยากครับหรือเป็นหมันครับ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลครับ ถ้าน้ำหล่อลื่นเพียงเล็กน้อย น้อยกว่า 2 ซีซีไหลเข้าไปก็ไม่สามารถทำให้ตั้งครรภ์ได้ครับ เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องกังวลครับ