กินยาคุ้มแร้วสามารถกินยาแก้ปวดหัสปวดท้อง. แร้วยาคุ้มจะลดประสิทภาพไหม

สำหรับการทานยาคุมกำเนิด จะมีข้อห้ามและข้อควรระวังสำหรับการทานยาอื่นร่วมด้วย เพราะอาจจะมีผลลดประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดได้ค่ะ จึงแนะนำให้คุมกำเนิดแบบอื่นร่วมด้วย
ยาที่ควรระวังได้แก่
1. Amoxycillin ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย/ยาปฏิชีวนะ
2.Ampicillin ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
3. Barbiturate ยากันชัก
3. Carbamazepine ยากันชัก
4.Chlordiazepoxide ยาต้านอาการซึมเศร้า
5.Chloramphenical ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
6.Clofibrate ยาลดไขมันในเลือด
7.Cyclophosphamide ยาต้านเนื้องอก
8.Dihydroergotamine ยารักษาไมเกรน
9.Ethosuximide ยากันชัก
10.Griseofulvin ยาต้านเชื้อรา
11.Lorazepam ยานอนหลับ
12.Meprobamate ยาต้านอาการซึมเศร้า
13. Metronidazole ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียและพยาธิบางชนิด
14.Neomycin ยาฆ่าเชื้อแบคีเรีย
15.Nitrofuratoin ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
16.Phenobarbital ยากันชัก
17.Phenytoin ยากันชัก
18.Primidone ยากันชัก
18.Rifampin ยาฆ่าเชื้อ
19.Rifabutin ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
20.Salicylate ยาลดอักเสบ
21.Sulfonamide ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
22.Tetracycline ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
23.Traglitazone ยาเบาหวาน
24. aspirin ยาแก้ปวด

ไม่ทราบว่าผู้ถามทานยาแก้ปวด ตัวไหนอยู่คะ
หากเป็นพาราเซตามอล ยังคงปลอดภัย ไม่พบว่ามีผลต่อการลดประสิทธิภาพของยาเม็ดคุมกำเนิดที่ชัดเจน อย่างไรก็ตามแนะนำให้ทานยาในเวลาที่ห่างกันเล็กน้อย เช่น ห่างกันอย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้ร่างกายดูดซึมยาแต่ละตัวได้เต็มที่

ยาแก้ปวดศีรษะ ปวดท้องทั่วไปสามารถใช้ได้โดยไม่มีผลต่อประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดครับ
ยกเว้นยาแก้ปวดไมเกรน Cafergot ซึ่งอาจมีผลทำให้ร่างกายกำจัดยาคุมกำเนิดออกจากร่างกายเร็วขึ้น ทำให้ประสิทธิภาพการคุมกำเนิดลดลงได้ครับ

อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดทั่วไป ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 95%ครับ

รบกวนอธิบายคำถามเพิ่มหน่อยค่ะ

อาการปัสสาวะแสบขัดมักเกิดจากอาการของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบครับ แนะนำว่าควรไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจปัสสาวะดูว่ามีการติดเชื้อหรือไม่
ถ้าตรวจพบว่ามีการติดเชื้อก็จะได้ยาฆ่าเชื้อกลับมารับประทานครับ
ก่อนตรวจอย่าลืมแจ้งแพทย์นะครับว่ารับประทานยาคุมกำเนิดอยู่

ในระหว่างนี้ให้ดื่มน้ำมากๆ และอย่ากลั้นปัสสาวะ จะช่วยบรรเทาอาการในเบื้องต้นได้ครับ

ถ้าปัสสาวะแสบขัด กลั้นปัสสาวะไม่ค่อยอยู่ ปัสสาวะบ่อยครั้ง มีปวดท้องน้อย อาจคิดถึงกระเพาะปัสสาสะอักเสบค่ะ เบื้องต้นรักษาโดยดื่มน้ำให้มากๆ ไม่กลั้นปัสสาวะ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ส่วนมากจะหายเองได้ภายในไม่กี่วัน แต่ถ้า4วันอาการไม่ดีขึ้นควรไปพบแพทย์เพื่อทานยาปฏิชีวนะค่ะ เพราะถ้าปล่อยไว้เชื้ออาจลามขึ้นไตได้และเป็นอันตรายค่ะ

โอกาสติดต่อได้มีน้อยครับ เนื่องจากท่อปัสสาวะกับช่องคลอดเป็นคนละส่วนกัน
อีกทั้งท่อปัสสาวะเพศชายมีความยาวมากกว่าเพศหญิง ทำให้โอกาสติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะยากกว่าครับ